เมื่อการเจรจาที่แสนวุ่นวายจบลง มายาวีก็ได้รับคำสั่งให้เข้ามาอยู่ในบ้านเขาในวันพรุ่งนี้ เพราะเอกภพยังไม่คิดจะเดินทางกลับไปที่ต่างประเทศ เขาต้องการเคลียร์ธุรกิจของบิดาให้เรียบร้อยก่อน ถ้าทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว เขาอาจจะเดินทางกลับไปใช้ชีวิตที่ต่างประเทศอีก ส่วนเธอถ้าเกิดว่าเขาทรมานเธอจนพอใจแล้ว เขาอาจจะปล่อยเธอไป แต่ถ้าหากว่าเขายังไม่สะใจ เขาจะพาเธอไปด้วย จนกว่าความรู้สึกเจ็บปวดเรื่องบิดาคลายออกไปจากใจ
วันแรกของการเข้าอยู่ในถิ่นของศัตรูก็ว่าได้ มายาวีรู้สึกอึดอัดใจเป็นอย่างมาก แต่เธอก็ถอยไม่ได้แล้ว เธอรู้ดีว่าจะได้รับการต้อนรับยังไงจากเขา แต่ทว่าไม่มีโอกาสให้เธอถอยอีกแล้ว บิดาคือที่สุดในชีวิต การได้ปกป้องบิดา มันคือหน้าที่ที่ลูกที่ดีควรทำ และเธอก็เลือกมันแล้ว เธอไม่ควรมานั่งกังวลหรือเสียใจกับสิ่งที่ตนเองได้ตัดสินใจไปแล้ว
“ทำหน้าแบบนั้น จะเปลี่ยนใจหรือไง” เอกภพเอ่ยทันทีที่เห็นหน้าหญิงสาวซึ่งกำลังนั่งอมทุกข์และลังเลเป็นอย่างมาก
“ไม่มีทางหรอก คนอย่างฉันมีศักดิ์ศรีพอที่จะไม่คืนคำ” มายาวีตอบพร้อมกับดวงตาที่แข็งกระด้าง เธอไม่รู้เลยว่าเธอกับเขาจะสามารถใช้ชีวิตอยู่ในบ้านหลังนี้ร่วมกันโดยไม่เกิดสงสงครามระหว่างเขาและเธอได้อย่างไร
“ก็ดี แต่ถ้าจะเปลี่ยนใจก็บอกนะ ให้พ่อเธอตายๆ ไปซะ เธอก็ไม่ต้องรับกรรม” เอกภพเอ่ยออกมาด้วยความสะใจ
“ไม่มีวันที่คุณจะสมหวังหรอก พ่อฉันท่านจะมีชีวิตอยู่อย่างมีความสุข จำเอาไว้” มายาวีสวนกลับทันควัน
“งั้นก็มาสิ ถ้าอยากให้พ่ออยู่อย่างมีความสุขก็มาทำหน้าที่นางบำเรอของคุณ” เอกภพเอ่ยเชิงถ้าทาย
“ฉันต้องทำยังไงบ้าง” มายาวีถามทันที
“ตามไปบนห้อง แล้วก็ทำตามที่ผมสั่ง” เอกภพตอบออกไปอย่างไม่รักษาน้ำใจของหญิงสาวแม้สักนิด
เมื่อเอกภพพูดเช่นนั้นมายาวีก็ไม่มีคำถามใดๆ อีกต่อไป เธอเลือกที่จะเงียบและเดิมตามเขาไปที่ห้อง ซึ่งเขาคงจัดไว้เป็นห้องเชือดของเธอ คนอย่างเขาคงไม่มีความปราณีให้เธอ ทุกๆ ก้าวที่เดินตามหลังเขาไป เธอก็ต้องพยายามทำใจที่จะยอมรับทุกอย่างที่มันจะเกิดขึ้นหลังจากนี้
“เริ่มสิ หน้าที่ของคุณ” ร่างสูงยืนอยู่กลางห้อง ซึ่งหน้าจะเป็นห้องที่ใช้รับแขก ไม่ใช่ห้องนอนของเขาแต่อย่างใด