คาเยนน์คันหรูแล่นเข้ามาจอดบริเวณลานจอดรถของคาเฟ่สีขาวซึ่งถูกล้อมรอบไว้ด้วยต้นไม้น้อยใหญ่ ทำให้บรรยากาศโดยรอบร่มรื่นอีกทั้งยังดูเย็นสบายราวกับได้หลุดมาอีกโลกหนึ่ง เจ้าของรถคาเยนน์ลงจากรถมาเป็นคนแรกก่อนจะเดิมอ้อมไปอีกฝั่งเพื่อเปิดประตูให้กับร่างบางของเตย
การกระทำเล็กๆ น้อยๆ แต่ทว่าเจย์ทำแบบนี้มาตลอด คอยเอาใจใส่แม้ว่าจะพูดไม่เก่ง... มือหนาซึ่งประดับไปด้วยเส้นเลือดเรียงสวยยกขึ้นกั้นขอบประตูรถเอาไว้เพราะกลัวว่าหัวของเตยจะเผลอไปโดนเข้า
“อีเตยยย”
เสียงเรียกดังลั่นส่งผลให้คนทั้งคู่ต้องหันไปมองตามเสียง ซึ่งก็เจอเข้ากับเจ้าของคาเฟ่ที่กำลังยืนเท้าเอวมองอยู่ไม่ไกล
“กว่าจะมา”
“ก็มาแล้วนี่ไง”
“มึงไม่มาพรุ่งนี้เลยล่ะ”
“เค งั้นกูกลับ”
“อีเตย กูทุบนะ ทุบหมดไม่สนเมียใคร”
ประโยคแรกเอ่ยบอกเตยส่วนประโยคที่สองหวานหันไปสบตาร่างสูงของเจย์ที่ยืนทำหน้านิ่งๆ ตามแบบฉบับมันนั่นแหละ หมั่นไส้จริงๆ เล้ย ไม่ว่าจะทำหน้าแบบไหนก็หล่อ
หวานเป็นเพื่อนผู้หญิงคนเดียวที่เขาสนิทตั้งแต่สมัยเรียนและคบกันมาจนถึงตอนนี้ เรื่องราวทุกอย่างของเตยหวานมันก็รู้ แต่อาจจะรู้ทีหลังฝาแฝดนะ
“มาส่งแล้วก็กลับจ้า”
หวานเอ่ยปากไล่ไอ้เพื่อนหน้าหล่อที่ยังคงยืนนิ่งๆ ไม่พูดไม่จา แต่ทว่าดวงตากลับจ้องเธอเขม็งพร้อมกับคิ้วที่เลิกขึ้นน้อยๆ เหมือนกับต้องการจะบอกเธอว่า กูไม่กลับ มึงมีปัญหาอะไรไหม
“หวานมึงไปแหย่เจย์มันทำไมเนี่ย”
“กูชอบเวลามันใช้สายตาด่ากู”
“ไร้สาระ”
เป็นประโยคแรกที่เสียงทุ้มต่ำเอ่ยออกมาพร้อมกับเจย์ที่สาวเท้าเดินเข้าไปในร้านโดยไม่สนใจหวานที่ยืนฟึดฟัดเพราะเพิ่งจะโดนด่าไป
“เตยยย มึงดูผัวมึง”
“ผัวอะไรไม่ผัว”
“เอากันมาทุกท่ายังจะบอกไม่ผัว เออว่าแต่ไอ้ไจ๋ไปไหน” ปกติสองแฝดแทบจะเป็นเงาตามติดเตยตลอดเวลา แต่ไหงวันนี้มาแค่แฝดคนพี่
“ไจ๋เข้าบริษัท”
“อย่าบอกนะว่าไอ้เจย์ลางานเพื่อพามึงมาหากู”
“อืม” เตยพยักหน้าเบาๆ เพื่อยืนยันว่าสิ่งที่หวานพูดคือความจริง
อย่างที่เคยบอกไปว่าเจย์กับไจ๋ต้องช่วยธุรกิจของครอบครัวก่อนที่จะไปดูแลไนต์คลับในตอนกลางคืน การที่เจย์โดดงานมาตามติดเขาแบบนี้ นั่นก็หมายความว่างานในส่วนของเจย์ ไจ๋จะต้องรับผิดชอบดูแล และเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเปรียบกันของสองแฝด ทำให้งานที่ไนต์คลับวันนี้ในส่วนของไจ๋ เจย์เองก็ต้องเป็นคนรับผิดชอบทั้งหมดเช่นเดียวกัน
“ดูแลมึงดียิ่งกว่าแม่มึงอีกนะ—”
“หวาน”
“มึง กูลืมๆ ตีปากแล้วๆ”
“ช่างมัน”
เตยเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงที่เข้มขึ้นเมื่อหวานมันเผลอพูดถึงแม่ ที่จนป่านนี้ก็ยังไม่แม้แต่จะสนใจว่าเขาเป็นตายร้ายดียังไง ตลอดเวลาสองปีที่ผ่านมาที่เขาได้มาอยู่คอนโดของสองแฝด ที่นี่ดูเหมือนบ้านมากกว่าบ้านจริงๆ ของเตยเสียอีก อย่างน้อยสองแฝดก็ฟังเหตุผลเขามากกว่าแม่ที่เข้าข้างแต่ผัวใหม่
เส้นผมสีน้ำตาลขยับไหวไปมายามที่เตยสะบัดหัวไล่ความคิดแย่ๆ นั้นออกไป ลมหายใจถูกพ่นออกมาแรงๆ หนึ่งครั้ง ก่อนที่ปลายเท้าจะเริ่มก้าวเข้าไปในร้านเพื่อมุ่งตรงไปยังมุมประจำที่มีเจย์นั่งกอดอกรออยู่
กางเกงขาสั้นที่เตยใส่มาทำให้สามารถอวดเรียวขาขาวได้เป็นอย่างดีจนหลายคนเริ่มมองตามคนสวยที่เดินผ่าน ไม่ได้มีเพียงแค่ขาขาวๆ ที่ดึงดูดสายคนของคนในร้าน แก้มก้นสีระเรื่อที่โผล่ให้เห็นวับๆ แวบๆ นั่นก็ทำให้ทุกคนสนใจเตยเช่นเดียวกัน
เมื่อเดินไปถึงโต๊ะประจำที่เป็นมุมโปรด เตยจึงขยับเข้าไปนั่งข้างเจย์ด้วยความเคยชิน และทันทีที่ก้นสัมผัสเข้ากับเบาะนุ่มเตยก็รู้สึกได้ถึงสัมผัสหนักๆ ที่คว้าเอวตนเข้าไปกอด
ดวงตาคู่สวยช้อนขึ้นสบกับร่างสูงของคนที่นั่งข้างกัน แต่ทว่าเจย์กลับไม่ได้มองสบกลับมา เพราะอีกฝ่ายกำลังสั่งอาหารกับเจ้าของร้านที่อาสาเข้ามารับเมนูจากเพื่อนสนิทเอง หวานทำสีหน้าเบื่อหน่ายใส่แฝดคนพี่ที่ปากสั่งอาหาร แต่แขนนี่กอดเอวเพื่อนเธอไม่ปล่อย
อีทรงนี้คือหวงแหละ
ก็แล้วมึงปล่อยให้อีเตยแต่งท่อนล่างมายั่วเยแบบนี้เพื่ออออ
“เอาอะไรเพิ่มไหม”
เจย์หันมาถามคนสวยที่ปิดปากเงียบ เมื่อเห็นว่าเตยส่ายหน้าน้อยๆ เป็นคำตอบจึงหันไปสั่งอาหารกับหวานเพิ่มอีกสองสามเมนู ก่อนจะปิดท้ายด้วยการสั่งน้ำใบเตยของโปรดของเตย
“หิวเหรอ สั่งเยอะจัง”
“ของโปรดมึงทั้งนั้น”
“แล้วทำไมไม่สั่งของโปรดตัวเองบ้าง”
“เตย”
“เรียกทำไม”
“ของโปรดกูไง...เตย”
ใบหน้าสวยขึ้นสีระเรื่ออย่างน่าเอ็นดูเมื่อจู่ๆ ไอ้คนข้างกายมันก็หยอดมุกเลี่ยนๆ มาให้จนเตยทำสีหน้าไม่ถูก แล้วดูเหมือนว่าท่าทางของเตยในตอนนี้จะทำให้เจย์พึงพอใจเป็นอย่างมาก เพราะอีกฝ่ายยกยิ้มมุมปากขึ้นจนทำให้ใบหน้าที่ดูดุแปรเปลี่ยนเป็นน่ามอง
“หุบปากไป!” เอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงฟึดฟัด ทว่าในสายตาของเจย์ เตยก็เหมือนกับแมวที่กำลังขู่ไปงั้นแหละ ไม่ได้ดูน่ากลัวเลยสักนิด ยิ่งเห็นแบบนี้เจย์ก็ยิ่งอยากแกล้ง
“เอาปากมาให้ดูดดิ เดี๋ยวจะเงียบให้”
“ฮึ่ย”
พอสู้ไม่ได้เตยเลยเลือกที่จะยกสองแขนขึ้นกอดอกก่อนจะสะบัดหน้าหนีไปอีกทาง อันที่จริงไม่อยากให้อีกคนเห็นใบหน้าที่แดงก่ำของตนมากกว่าเลยเลือกที่จะหันใบหน้าหนี แต่เตยคงลืมไปว่าเวลาที่เสียอาการใบหูขาวจะขึ้นสีระเรื่อ ซึ่งเจย์ก็กำลังมองมันอยู่นั่นเอง
ดวงตาคมทอดมองเสี้ยวหน้าของคนตัวเล็กข้างกายด้วยแววตาที่เจือไปด้วยความอ่อนโยน ใครๆ ต่างก็บอกว่าเจย์เป็นพวกนิ่งเงียบและดุ อาจจะเพราะว่าใบหน้าที่ไร้รอยยิ้มแต่งแต้มรวมไปถึงคิ้วที่ชอบขมวดเป็นปม คนอื่นก็เลยตัดสินไปอย่างนั้น ซึ่งมันก็ไม่ผิด...เจย์ใจดีด้วยแค่กับบางคนเท่านั้นแหละ
“เมื่อไหร่อาหารจะมา หิวแล้วอ่า”
แค่กับเตย
THE J CLUB
หลังจากที่ฝากท้องไว้ที่คาเฟ่ของหวานและได้นั่งพูดคุยกันพอหอมปากหอมคอจนถึงช่วงเวลาเย็น เจย์กับเตยจึงเอ่ยลาเพื่อนสาวเพื่อที่จะได้มุ่งหน้ามายังไนต์คลับซึ่งเป็นธุรกิจส่วนตัวของสองแฝด
THE J CLUB เป็นอาคาร 3 ชั้นขนาดใหญ่ซึ่งประกอบไปด้วยชั้นแรกที่เปิดเป็นฟลอร์ดีเจ มีเคาน์เตอร์เครื่องดื่มอยู่อีกฝั่ง และโต๊ะเก้าอี้วางตามจุดต่างๆ เพื่อให้เหล่านักดื่มได้จับจองเมื่อเข้าใช้บริการ ชั้นสองจะเป็นโซนวีไอพีซึ่งมีทั้งหมด 6 ห้อง สำหรับชั้นนี้ลูกค้าที่เข้าใช้บริการมักจะเป็นนักธุรกิจ ข้าราชการระดับสูง ไม่ก็พวกนักการเมืองหรือลูกคนรวย เพราะจะมีความเป็นส่วนตัวกว่าชั้นล่าง อีกอย่างลูกค้าบางส่วนยังใช้สถานที่นี้เป็นสถานที่พูดคุยตกลงเรื่องธุรกิจ ไม่ได้มาแค่ดื่มเพียงอย่างเดียว
และชั้นบนสุดจะเป็นห้องทำงานของเจย์กับไจ๋รวมถึงห้องนอนด้วย เพราะบางครั้งสองแฝดจำเป็นต้องนอนค้างที่นี่เพื่อเคลียร์งาน ไม่ได้กลับไปนอนคอนโด แต่ก็นานๆ ครั้งนั่นแหละ เพราะเจย์กับไจ๋ไม่อยากให้เตยนอนคอนโดคนเดียว
รอยยิ้มสวยประดับแต่งแต้มบนใบหน้าของเตยทันทีที่พนักงานภายในร้านเดินเข้ามาทักทายอย่างเป็นมิตร พนักงานที่เดอะเจคลับไม่มีใครไม่รู้จักเตย ทุกคนรู้ว่าเตยเป็นคนสำคัญของ เฮียเจย์ เฮียไจ๋
เจย์พยักหน้าให้กับพนักงานบางส่วนที่ยกมือขึ้นไหว้ตน ก่อนจะก้มลงกระซิบบางอย่างที่ใบหูขาว
“ขึ้นไปข้างบนกับกูไหม”
ข้างบนที่เจย์หมายถึงคือชั้นสามซึ่งเป็นห้องทำงานนั่นแหละ
“อยากอยู่ข้างล่าง”
เตยค่อนข้างสนิทกับพนักงานทุกคนที่นี่ ดังนั้นการอยู่ท่ามกลางเหล่าพนักงานของเดอะเจคลับไม่ได้ทำให้เตยรู้สึกอึดอัดแต่อย่างใด กลับกันเตยอาจจะได้ช่วยงานเล็กๆ น้อยๆ บ้างก็ได้ ความจริงแล้วคนตัวเล็กเคยขอสองแฝดทำงานที่นี่ด้วยแหละ แต่ถูกปฏิเสธเสียงแข็งพร้อมกับโดนดุไปชุดใหญ่
‘กูไม่ให้ทำนะเตย อย่าดื้อ’
‘กูอยากทำงาน ไม่อยากเกาะมึงแบบนี้ ให้กูทำเถอะนะๆ เป็นเด็กเสิร์ฟก็ได้’
‘กูมีเงินเลี้ยงมึงตลอดชีวิต อยู่กับกู กูไม่อยากให้มึงลำบาก’
‘จะมาเลี้ยงกูทำไมเล่า’
‘แล้วเลี้ยงเมียมันผิดตรงไหน? พอๆ เลิกพูด’
นั่นแหละ จบแบบนั้นแหละ ดื้อด้านเถียงต่อเลยโดนจัดไปชุดใหญ่จนแสบรู ทั้งโดนดุทั้งโดนเอา เขาเลยขอยอมแพ้ ไม่เป็นพนักงานของที่เดอะเจคลับก็ได้ แต่ถ้ามาช่วยงานนิดๆ หน่อยๆ อันนี้พวกแฝดมันไม่ได้ว่าอะไรเขานะ
“มึงไปเคลียร์งานเถอะ ต้องทำส่วนของไจ๋ด้วยนี่”
เตยเอ่ยบอกคนตัวสูงที่ยังคงยืนมองกันนิ่งๆ ไม่ได้ขยับตัวไปไหน ด้วยเหตุนี้ทำให้พนักงานบางส่วนแสร้งก้มหน้าทำหน้าที่ของตนอย่างตั้งใจ แต่เตยเห็นนะว่ามีแอบเหลือบมองแฝดคนพี่ที่ยืนทำหน้าเป็นยักษ์อยู่
“อืม”
จุ๊บ
เสียงตอบรับในลำคอมาพร้อมกับริมฝีปากหยักที่โน้มลงมาจุ๊บเบาๆ บนริมฝีปากสวยอย่างกะทันหันจนเตยต้องเบิกตากว้างเพราะตกใจ กำปั้นน้อยเตรียมยกขึ้นทุบแฝดคนพี่สักทีสองที แต่ทว่าเจย์จุ๊บเสร็จแล้วรีบสาวเท้าเดินขึ้นไปชั้นสามโดยไม่หันมามองคนที่ยืนหน้าแดงเพราะโดนขโมยจุ๊บอยู่กลางร้าน
ใบหน้าของเตยแดงก่ำกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อครู่ท่ามกลางสายตาของพนักงานในร้านที่เบิกตากว้างด้วยความตกใจไม่ต่างกัน นี่ไม่ใช่ครั้งแรก แต่ก็ไม่ควรมาจุ๊บปากเขาโชว์ชาวบ้านแบบนี้ไหมวะ!
“พี่เตยยย เฮียเจย์จุ๊บจิ๊บพี่ไม่เกรงใจพวกหนูเลย”
หลังจากที่แผ่นหลังกว้างของเจย์หายวับไปกับมุมบันได ฝนซึ่งเป็นพนักงานเสิร์ฟที่อายุน้อยที่สุดของเดอะเจคลับจึงได้รีบวิ่งเข้ามาคุยกับเตย
“เฮียเจย์ของฝนมันร้าย”
“พี่เตยอย่าว่าเฮียหนู”
“ร้ายทั้งเฮียเจย์เฮียไจ๋นั่นแหละ”
ริมฝีปากสวยยู่น้อยๆ เมื่อเอ่ยถึงฝาแฝดที่มีตำแหน่งเป็นถึงเจ้าของเดอะเจคลับ และการกระทำนั้นส่งผลให้ฝนต้องหลุดหัวเราะออกมาเบาๆ เธอชอบมาคุยกับพี่เตยบ่อยๆ เพราะนอกจากอีกฝ่ายจะเป็นคนสวยมากๆ แล้วก็ยังใจดีอีกด้วย บางครั้งพี่เตยก็นินทาเฮียเจย์กับเฮียไจ๋ให้ฟัง บันเทิงสุดๆ แต่ถ้าเจ้าของร้านรู้ โดนเชือดแน่
“แล้วนี่มีอะไรให้พี่ช่วยไหม”
“ไม่ต้องง นั่งสวยๆ ก็พอ”
คราวนี้เตยถึงกับยกมือขึ้นนวดขมับตัวเองแรงๆ หนึ่งที เพราะไอ้เด็กตรงหน้าดูท่ามันจะไม่ยอมให้เขาแตะงานสักอย่างในร้าน พอหันไปสบตากับคนอื่นๆ ทุกคนก็ล้วนส่งยิ้มมาให้ แต่เป็นรอยยิ้มที่บอกเป็นนัยว่า เชิญนั่งอยู่เฉยๆ เถอะจ้า
ก็แล้วใครมันจะกล้าไปใช้แรงงานหวานใจของเฮียแฝดกันเล่า