ชานนท์ดันให้หญิงสาวนอนลงบนเตียงแล้วเบียดร่างแข็งแรงให้เสียดสีกับร่างเย้ายวนด้านล่าง ปุณณิศาหน้าแดงระเรื่อ เนื้อตัวสั่นสะท้านกับสัมผัสที่ไม่เคยพบเจอ และเมื่อสบตากับนัยน์ตาที่เต็มไปด้วยไฟปรารถนาก็ทำให้เธอแทบจะไม่เป็นตัวของตัวเอง
“แสดงเก่งดีนี่”
เสียงทุ้มกระซิบก่อนจะส่งปลายลิ้นเข้าไปตวัดหยอกล้อกับซอกคอและติ่งหู ขบเม้มเบาๆ ทำให้ปุณณิศาปั่นป่วนไปทั้งท้องน้อย ชายหนุ่มประกบปากจูบอีกครั้งส่งปลายลิ้นร้อนสอดเข้าไปในโพรง ปากนุ่ม เกี่ยวพันกับเรียวลิ้นเล็กอย่างหิวกระหาย ความหวานที่ได้รับยิ่งทำให้ชานนท์รู้สึกหลงใหล ไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนที่กระตุ้นอารมณ์ดิบเถื่อนของเขาให้ลุกโชนได้มากเท่านี้มาก่อนเลย
ความรู้สึกต่อต้านในคราแรกเริ่มเปลี่ยนเป็นความแปลกใหม่ปุณณิศากำลังจะหมดแรงเพราะฤทธิ์จูบจากเขา
“อ่า...”
ชานนท์ครางด้วยเขาพอใจกับการตอบสนองเงอะงะของ คนที่เขาคิดว่าเธอกำลังเสแสร้ง กายของเขารุ่มร้อนและจูบก็เริ่มร้อนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ กว่าเขาจะเขายอมผละออกจากปากอวบอิ่ม ปุณณิศาก็แทบจะขาดอากาศหายใจ
ชายหนุ่มสูดดมกลิ่นกายหอมกรุ่น เขาไล้ปากและจมูกลงไปยังซอกคอระหง ยอมรับเลยว่ากลิ่นกายของเธอช่างหอมและเย้ายวนอย่างที่ไม่เคยได้รับจากใครมาก่อน
“อื้อคุณ...”
“ชานนท์ ผมชื่อชานนท์”
เขากระซิบบอกชื่อตัวเองที่ข้างหู ก่อนจะลากลิ้นไปตามลำคออีกครั้ง เขาทำราวกับว่ากำลังลากปลายลิ้นลงบนไอศกรีมรสโปรด นั่นก็ทำให้หญิงสาวร้องครางออกมาอย่างไม่อาจจะอดกลั้นได้ร่างกายเย้ายวนเริ่มดิ้นพล่านกับการจู่โจมของคนมากประสบการณ์ หญิงสาวครางกระเส่าใบหน้าหวานแดงก่ำด้วยพายุอารมณ์ที่กำลังก่อตัวขึ้นมาอย่างห้ามไม่อยู่
ฝ่ามือร้อนกุมอกอิ่มที่ไม่เคยต้องมือชายใดมาก่อน ปุณณิศาทั้งเขินทั้งเสียวซ่านจนครองสติแทบไม่อยู่
“อื้อ...คุณนนท์”
หญิงสาวอยากจะร้องขอให้เขาหยุดแต่ก็ช้าไปเมื่อตอนนี้เขาดึงชุดเกาะอกของเธอจนมันขาดออกจากกันอย่างง่ายดายจนเผยให้เห็นความอวบอิ่มที่สะดุดตา
ปุณณิศาสะท้านไปทั้งร่างเมื่อริมฝีปากของเขาไล่ลงมาต่ำยังเนินอกอิ่ม มือหนึ่งอ้อมไปด้านหลัง เขาปลดตะขอบราเซียร์ของเธอออกด้วยความชำนาญ
“เธอไม่ได้ไปศัลยกรรมมาใช่ไหม”
ชานนท์เงยหน้าขึ้นมาถาม แล้วก้มลงมองความอวบอิ่มอย่างหื่นกระหาย ยิ่งเห็นเธอส่ายหน้าเขาก็ยิ่งพอใจกับคำตอบ ชายหนุ่มก้มลงไปพิสูจน์ด้วยปลายลิ้นร้อนและเพียงแค่สัมผัสส่วนปลายเม็ดทับทิมก็แข็งชูชันต้อนรับอย่างท้าทาย
“อื้อ...คุณนนท์”
เสียงหวานครางสะท้านเมื่อเจอทั้งปลายลิ้น ปากและฟันของเขาหยอกเย้าลงบนทรวงอกอิ่มอย่างหนักหน่วง ความเสียวซ่านที่พุ่งพรวดเข้ามาโจมตีทำให้สาวสั่นไปทั้งตัว
ชานนท์กำลังสับสนเพราะเธอทำเหมือนไม่เคยถูกใครสัมผัสมาก่อน เขาเงยหน้าขึ้นมามองเธอเล็กน้อยจากนั้นก้มหน้าลงดูดกลืนเม็ดทับทิมสีสวยเข้าปากสลับเปลี่ยนข้างไปมามือใหญ่บีบเคล้นอย่างหลงใหลในความอวบอิ่ม
และเมื่อได้ยินเสียงหวานดังขึ้นมือที่ฟอนเฟ้นอกอวบก็เลื่อนลงต่ำลงมายังหน้าท้องแบนราบผ่านชั้นในตัวบางลงไป
“อ๊ะ...”
ปุณณิศาครางเสียงสั่น เมื่อนิ้วร้ายกำลังคลี่กลีบกุหลาบซึ่งเริ่มมีละอองน้ำหวานให้แยกออกจากกัน ปลายนิ้วสะกิดบนยอดเกสรที่ไวต่อความรู้สึก จนร่างหญิงสาวสั่นสะท้าน ปุณณิศาบิดตัวเกร็งร่างในบางครั้งเสียงร้องครางยังคงดังขึ้นเรื่อยๆ
ชานนท์ส่งปลายนิ้วที่ลูบไล้บนกลีบเกสรกุหลาบ ก่อนจะกดเข้าไปโพรงอุ่นร้อนอย่างช้าๆ
“อ๊ะ....”
“เธอชื่ออะไร ฉันจะได้เรียกถูก”
“หนูชื่อปุณณิศาค่ะคุณนนท์”
“ชื่อเพราะดีนะ เสียงก็เพราะ เวลาเสร็จอย่าลืมเรียกชื่อฉันล่ะ จำได้ใช่ไหมว่าฉันชื่ออะไร”
เขาถามขณะที่มือก็กดนวดอยู่ในโพรงถ้ำราวกับกำลังหาอะไรบางอย่าง
“อื้อ..คุณนนท์ หนูจำได้”
เสียงหวานตอบกระท่อนกระแท่นเพราะร่างกายกำลังถูกปลุกเร้าอย่างหนักจนแทบจะครองสติไม่อยู่
“ปุณณิศา....”
เสียงครางเรียกเธอแหบพร่าเพราะความคับแน่นที่รัดนิ้วเอาไว้ เขาสั่นสะท้านอยากแทรกร่างเข้าหาจนห้ามแทบไม่อยู่
ปากร้อนของเขายังคงวนเวียนดูดดุนเม็ดทับทิมเข้าปากอย่างไม่ยอมหยุด ปลายนิ้วร้ายก็ไม่หยุดการเคลื่อนไหวสักจุดเดียว ในขณะที่ปุณณิศารู้สึกเหมือนใจจะขาด มือกดศีรษะเขาให้แนบชิดอกอิ่ม ส่วนปากก็ครวญครางอย่างน่าอาย
ชานนท์หลอกล่อเธอด้วยแรงดูดดึงที่ยอดอกอิ่มอีกมือก็ดึง แพนที่สีขาวก็หลุดออกจากร่างแล้วส่งนิ้วเขาไปอีกครั้ง เมื่อเสียงหวานร้องครางอย่างเร้าใจ เขาก็แน่ใจแล้วว่าเธอพร้อม ชายหนุ่มไม่รอช้าที่จะปลดกางเกงของตนออกแล้วหยิบถุงยางอนามัยมาสวมใส่อย่างเร่งรีบ ปุณณิศานอนมองการกระทำของเขาด้วยความรู้สึกหวาดกลัวแต่เธอมาไกลเกินกว่าจะถอย อีกเพียงอึดใจเดียวเงินจำนวนห้าหมื่นบาทก็จะเป็นของเธอ
“ฉันรู้ว่าของฉันมันใหญ่ แต่ไม่ต้องกลัวหรอกเพราะฉันเชื่อว่าเธอจะทำให้มันเล็กได้ ปุณณิศา”
เขากระซิบแหบพร่าก่อนจะจับเรียวขาให้แยกออกจากกันปุณณิศาส่ายหน้าพลางกัดริมฝีปากตัวเองแน่น นั่นยิ่งทำให้เธอดูเร่าร้อนขึ้นไปอีกมาก เนื้อตัวเธอสั่นสะท้าน เขาไม่รู้ว่าเธอสั่นเพราะกลัวหรือสั่นเพราะเสียวกันแน่
ชายหนุ่มยิ้มที่มุมปากเพราะคิดว่าเธอกำลังแสดงบทบาทสาวพรหมจรรย์อยู่ เขาก้มลงมองตากับเธอในระยะประชิด ก่อนจะบดจูบอย่างเร่าร้อน จูบให้เธอหยุดการต่อต้าน มือข้างหนึ่งประคองอกอิ่มบีบเคล้น ส่วนอีกข้างประคองท่อนเอ็นร้อนถูไถกับกลีบกุหลาบและน้ำหวานที่ไหลรินอย่างปลุกเร้า ปุณณิศาแทบคลั่งกับการกระทำของเขา ปากร้อนผละจากปากอิ่มไปดูดกลืนยอดอกสีสวยที่กำลังชูชัน เมื่อเห็นเธอกำลังเคลิ้มเขาก็ส่งท่อนเอ็นที่เคลือบไปด้วยน้ำหวานของกุหลาบเข้าไปด้านในอย่างเต็มแรง
“อ๊ะ!....หนูเจ็บ”
ปุณณิศาร้องด้วยความเจ็บและตกใจ น้ำตาไหลลงมาทาง หางตา ร่างกายที่เคลิบเคลิ้มเมื่อครู่หายไปจนหมดสิ้น ทิ้งไว้แค่เพียง ความเจ็บปวดราวกับร่างกายถูกฉีกออกเป็นชิ้น
“ปุณณิศา......”
ชานนท์ก็หยุดชะงักด้วยความตกใจ ประหลาดใจ ก่อนจะซบหน้าลงกับซอกคอหอมกรุ่น ชายหนุ่มหายใจเข้าออกแรงๆ เพื่อระงับความดิบเถื่อนในอารมณ์รักของตน เขาน่าจะเชื่อสิ่งที่เธอแสดงออกแต่เพราะเขาคิดว่าเธอเสแสร้งก็เลยไม่มีความอ่อนโยนอย่างที่ควรจะเป็น ยิ่งได้ยินเสียงสะอื้นเบาๆ เขาก็ยิ่งรู้สึกผิด
“ฉันไม่รู้ เจ็บมากไหม”
“คุณนนท์ เอาออกก่อนได้ไหม หนูเจ็บ”
ปุณณิศาตอบด้วยเสียงสั่นเครือ แววตาเธอเต็มไปด้วยความเจ็บปวด น้ำตายังคงไหลรินชายหนุ่มปาดมันออกเบาๆ แต่ถ้าให้เขาหยุดตอนนี้เขาคงได้ขาดใจตายแน่ๆ
“เธอเจ็บคนเดียวที่ไหน ฉันก็เจ็บ เธอรัดฉันแน่นมาก”
“งั้นคุณเอาออกก่อนได้ไหมคะ”
“ได้ที่ไหนละ มาถึงขั้นนี้แล้ว ฉันจ่ายเธอไปตั้งห้าหมื่นถ้าหยุดตอนนี้ฉันก็เสียเงินฟรีน่ะสิ เดี๋ยวเธอก็รู้สึกดีขึ้นเชื่อฉันนะปุณณิศา”
ชานนท์ก้มลงใช้ปากร้อนครอบครองเต้างามดูดดึงโลมเลียอย่างเมามัน ปุณณิศาเองก็หมดแรงจะต่อต้านสุดท้ายก็ต้องยอมโอนอ่อนผ่อนตามเขาอารมณ์ของเขา
ท่อนเอ็นร้อนที่อยู่ในช่องทางรักอันคับแน่นเริ่มขยับตัวอย่างช้าๆ เพื่อให้เธอได้ปรับรับตัวตนของเข้าให้ได้มากที่สุด มือก็โอบกอดและดันแผ่นหลังให้อกอิ่มแนบชิดปากร้อน ส่วนเอวสอบก็ควบจังหวะไม่ได้หยุดนิ่งและนั่นก็ทำให้ปุณณิศาได้เห็นโลกใบใหม่ที่ไม่เคยรู้มาก่อนว่ามันมีอยู่จริง
“อื้อ.... คุณนนท์......อ่าห์....”
เสียงหวานครางเรียก ขณะที่มือเล็กดศีรษะให้แนบชิดอกอิ่ม ชานนท์ขยับกายเคลื่อนไหวในจังหวะที่เริ่มแรงและเร็วขึ้น ตามลำดับไปตามอารมณ์กำลังพุ่งสูง ปากร้อนยังคงดูดกลืนยอดอกสีสวยไว้ในปากอย่างไม่ยอมปล่อยราวกับทารกน้อยที่กำลังหิวกระหาย เสียงครางเล็ดลอดออกมาเป็นระยะด้วยความพอใจที่ได้ดูดกิน
“ปุณณิศา... เธอมันสุดยอด”
“คุณนนท์ อื้อ....."
เธอครางเรียกชื่อเขาแทบไม่ขาดปากนั่งยิ่งกระตุ้นให้เขาขยับสะโพกเข้าออกรัวเร็วขึ้น
ทุกจังหวะที่สอดประสานทำเอาปุณณิศาสั่นสะท้านไปทั้งร่างเหนื่อยหอบราวกับวิ่งมาหลายกิโล แต่ในความเหนื่อยนั้นกลับมีความรู้สึกอย่างอื่นร่วมอยู่ด้วย
“อ่าห์ เธอรัดฉันแน่นมาก เสียวที่สุดเลย เธอเก่งมากมาก”
“คุณนนท์ขา หนูใจจะขาด มันรู้สึกแปลกๆ ไม่ไหว หนูว่าหนูจะไม่ไหว”
“อีกนิดนะ รับรองว่าเธอจะได้เห็นดาวนับล้านดวงเลยที่เดียวปุณณิศา”
ชานนท์เร่งจังหวะสะโพกให้เร็วขึ้นแรงขึ้น เพื่อส่งเธอไปยังดินแดนสวรรค์
เสียงหวานกรีดร้องร่างกายเกร็งกระตุกติดๆ กันจนเขาต้องกอดไว้แน่น สองมือจิกไปบนไหล่หนา รู้สึกสมองว่างเปล่าและเหมือนกับเห็นดาวนับล้านดวงลอยอยู่เต็มไปหมดอย่างที่เขาบอกจริงๆ
เมื่อเธอสุขสมอย่างรุนแรงช่องทางรักก็ตอดรัดถี่รัวไปตามกลไกลธรรมชาติชานนท์ขยับเข้าออกหนักหน่วงอีกไม่กี่ครั้งเขาก็สุขสมตามเธอไปติดๆ
“อ่าห์...เธอเด็ดมากฉันชักติดใจแล้วสิ ต่อกันเลยนะ”