ดิลลับ

1404 คำ
“คุณนนท์หนูไม่ไหวแล้ว” ปุณณิศาร้องขอเธอกำลังจะหมดแรงในขณะที่เขายังคงไม่ยอมหยุดพัก “อีกครั้งปุณ” ปุณณิศาไม่คิดมาก่อนเลยว่าการร่วมรักครั้งแรกของเธอจะเกิดความรู้สึกมากมายได้ขนาดนี้ ทั้งสุข ทั้งเสียว ทั้งทรมาน ยิ่งเห็นใบหน้าหล่อชื้นไปด้วยเหงื่อยามที่เขาอยู่ด้านบนตัวเธอแล้วก็ยิ่งทำให้อารมณ์ปรารถนาของเธอพุ่งขึ้นสูงได้อย่างง่ายดาย “แน่นมาก ฉันไม่เคยรู้สึกแบบนี้มาก่อนเลยปุณเธอทำให้ฉันแทบคลั่ง” “คุณนนท์..อื้ม..หนูจะถึงอีกแล้ว...” “พร้อมกันนะปุณ อื้อ....อ่าห์.....” เสียงแหบพร่าครางอย่างสุขสม ความรู้สึกที่ช่องทางรักโอบรัดมันทำให้เขาฉีดพ่นลาวารักออกมาอย่างมากมายไม่รู้จบ ชานนท์รีบถอดเกราะป้องกันออกจากนั้นสวมกอดเธอไว้แน่นอย่างที่ไม่เคยทำแบบนี้กับคู่นอนคนไหนมาก่อน “ฉันมีความสุขมากปุณณิศา เธอก็มีความสุขเหมือนกันใช่ไหม” เขากระซิบข้างหู แต่อีกคนกลับนอนนิ่ง พอเขาก้มหน้ามองก็เห็นว่าเธอหลับไปแล้ว “ฉันไม่อยากให้เธอทำแบบนี้กับใครเลยปุณณิศา” เมื่อได้ครอบครองเธอเป็นคนแรกเขาก็รู้สึกหวงแหนและยอมไม่ได้ถ้าจะให้ใครมาทำแบบนี้กับเธอ เขาไม่เคยติดใจใครแบบนี้มาก่อนในเมื่อเธอสะอาดละไม่เคยผ่านมือชายคนไหน มันก็คุ้มค่าที่เขาจะยอมจ่ายให้เธอมากกว่าที่เธอต้องการ ชายหนุ่มอาบน้ำล้างคาบเหงื่อไคลแล้วเดินลงไปข้างล่าง เขาอยากคุยเรื่องของเธอกับเมคิน “หายไปนานเลยนะ แล้วเด็กฉันล่ะ” “ยังนอนอยู่ เดี๋ยวให้เพื่อนเธอเอาชุดไปให้เธอเปลี่ยนก่อนกลับด้วยนะ” เมคินเดินไปบอกกัญญาวีร์ให้ขึ้นไปดูเพื่อนบนห้องก่อนจะเดินกลับมาคุยกับเพื่อนอีกครั้ง “ฉันดีใจที่นายมาวันนี้” “มันเกิดอะไรขึ้น ทำไมจู่ๆ เธอเปลี่ยนใจไปทำงานแบบนั้นล่ะ” “เธอจำเป็นต้องใช้เงิน” “คนเราก็ต้องจำเป็นต้องใช้เงินกันทั้งนั้น ฉันว่าเป็นข้ออ้างเปลี่ยนงานหรือเปล่า เพราะงานนี้ได้เงินดีกว่าเชียร์แขกเยอะเลยนะ” “แม่เธอนอนโรงพยาบาลน่ะ ต้องหาเงินมาจ่ายค่ารักษา ฉันให้เธอเบิกเงินเดือนล่วงหน้าไปสองเดือนแล้วแต่มันก็ยังไม่พอ น้องเธอก็ต้องเตรียมตัวไปเรียนต่างประเทศอีก” เรื่องน้องชายของเธอเขาก็เคยได้ยินเธอคุยกับเพื่อนแต่เรื่องแม่ของเธอเขาเพิ่งเคยได้ยิน “แน่ใจเหรอว่าที่เธอเล่ามาเป็นเรื่องจริง” “อือ อาทิตย์ที่แล้วแม่เธอเข้าโรงพยาบาลเพราะรถชนเห็นว่ามีเลือดออกในสมองแต่ตอนนี้ดีขึ้นแล้ว ค่าใช้จ่ายมันเยอะคู่กรณีก็ช่วยแต่มันก็มีส่วนต่างจากประกัน เธอก็เลยต้องรีบหาเงิน” “หมายถึงจากนี้เธอจะเป็นเบอร์ตองของที่นี่ตลอดเหรอ” ชานนท์ไยอมไม่ได้แน่ๆ ถ้าหากเธอจะกลับเข้าไปนั่งในตู้เดิมอีก “ไม่หรอก เธอว่าจะทำแค่ครั้งเดียว ดูมึงสนใจเธอนะ” “มึงก็รู้ว่ากกูกำลังหาใครสักคนไปหลอกปู่ กูอยากให้เธอรับงานนี้มึงช่วยคุยให้หน่อย” “ทำไมไม่คุยเองล่ะ” “กูกลัวเขาไม่เชื่อ ให้มึงลองเกริ่นก่อน แล้วพรุ่งนี้กูจะมาฟังคำตอบ” ก่อนกลับชานนท์ก็ทิ้งเช็คจำนวนหนึ่งแสนบาทให้กับปุณณิศา เมคินเห็นจำนวนเงินแล้วยิ้ม เขาพอจะเดาออกว่าเพื่อนคนนี้คงมีความสุขไม่น้อยถึงได้จ่ายให้เธอมากกว่าที่ควรจะจ่าย ถ้าปุณณิศารับขอเสนอของชานนท์ก็คงจะดีกับทั้งสองฝ่าย “ปุณ ปุณ” “อือ กัญญา” “เป็นไงบ้าง เขาทำร้ายปุณหรือเปล่าเจ็บมากไหม” “เจ็บสิ ไม่คิดมาก่อนว่าครั้งแรกมันจะเจ็บแบบนี้” “ลุกไหวไหม” “ไหว กัญญาไปทำงานต่อเถอะเดี๋ยวเราเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วจะตามลงไป” “ไหวแน่นะปุณ” ปุณณิศาพยักหน้า พอเพื่อนเดินออกจากห้องไปแล้วหญิงสาวก็นั่งร้องไห้ “แม่ขา ปุณขอโทษนะคะที่ทำแบบนี้ แต่ปุณไม่มีทางออกแล้วจริงๆ” ใช่ว่าเธอไม่หาทางออกอื่น แต่ก่อนหน้านั้นเธอกับมารดาก็ไปหยิบยืมจากคนในตลาดมาบ้างแล้ว ถ้าไปยืมอีกก็คงไม่มีใครยอมให้ กว่าปุณณิศาจะจะลงมาจากชั้นสามก็เกือบจะถึงเวลาปิดร้าน เธอทั้งเหนื่อยและเจ็บ การก้าวขาแต่ละครั้งนั้นช่างยากลำบากแต่ก็พยายามเดินลงมาจากชั้นสาม “ปุณ นี่เช็คแขกฝากให้” เมคินส่งเช็คเงินสดให้เธอ “ขอบคุณค่ะ” ปุณณิศายกมือไว้ก่อนแล้วถามต่อขึ้นหลังจากเห็นตัวเลขที่อยู่บนในเช็ค “หมดนี่เลยเหรอคะ” “อือ หมดนั่นแหละ” ปกติแล้วจะต้องหักค่าตัวของเด็กที่ร้าน แต่สำหรับปุณณิศาแล้วเขาอยากจะช่วยเธอจึงไม่คิดจะหักแม้แต่บาทเดียว “แต่ปุณว่ามันเยอะเกินไปนะคะ” “ไม่เยอะหรอก แค่นี้คนหน้าแข้งไอ้นนท์มันไม่ล่วงหรอก” “รับไปเถอะปุณ เงินที่เหลือจากค่ารักษาแม่จะได้เอาไปจ่ายเจ๊น้ำ ขานั้นดอกเบี้ยโหดมาก” กัญญาวีร์ก็เคยไปกู้เงินเจ๊น้ำเลยพอจะรู้ว่าดอกเบี้ยนั้นมันโหดมากแค่ไหน “ขอบคุณค่ะคุณเมคิน” หญิงสาวยกมือไหว้อีกครั้ง “จะขอบคุณฉันทำไม คนที่ต้องขอบคุณก็คือไอ้นนท์นะ” “ปุณฝากขอบคุณเขาด้วยนะคะ” “ปุณ ฉันมีเรื่องจะคุยด้วยหน่อย ไม่รีบกลับใช่ไหม” “งั้นเราไปรอที่รถนะปุณ” “ไม่ต้องไปหรอกกัญญา ฟังด้วยกันก็ได้ จะได้ช่วยตัดสินใจกับเพื่อนไง” เมคินรู้ว่ากัญญาวีร์มีทักษะการพูดที่ดีและจะโน้มน้าวให้ปุณณิศาให้รับงานได้อย่างแน่นอน แล้วเมคินก็เล่าเรื่องที่ชานนท์จะจ้างให้เธอเป็นภรรยาหลอกๆ และพาเข้าไปอยู่ที่บ้าน เพื่อให้คุณปู่เลิกจับคู่เขากับผู้หญิงอื่น “แค่แกล้งเป็นภรรยาใช่ไหมคะคุณเมคิน” คนที่ถามคือกัญญาวีร์ “ก็ประมาณนั้น” เขาไม่รู้ว่าเพื่อนจะจ้างแค่เป็นภรรยาหลอกหรือจ้างไปนอนด้วยเพราะเท่าที่สังเกตดูชานนท์จะติดใจปุณณิศามากกว่าทุกคนที่เขาเคยเห็น “เขาจะจ้างเท่าไหร่คะ แล้วปุณจะยังมาทำงานที่นี่ได้ไหม” “เรื่องค่าจ้างฉันก็ไม่แน่ใจ ปุณต้องไปคุยกับมันเอง ส่วนเรื่องมาทำงานที่นี่คงยากหน่อย เพราะถ้าปู่เขารู้คงไม่ดีแน่” “งั้นปุณไม่รับค่ะ ถ้าไม่ได้มาทำงานที่นี่ปุณก็ต้องขาดรายได้ อีกอย่างปุณก็รับเงินเดือนมาแล้วสองเดือนนะคะ” “ไม่ยากนี่ ปุณก็ให้เขาจ่ายเงินเดือนคืนให้คุณเมคิน ส่วนค่าจ้างเขาก็ต้องให้มากว่าทำงานที่นี่ รายได้เฉลี่ยเดือนหนึ่งก็ประมาณสี่หมื่น ถ้าเพื่อนคุณเมคินตกลงให้มากกว่านี้มันก็คุ้มนะ ไม่ต้องนอนดึกด้วย” “มันจะมากเกินไปไหมคะคุณเมคิน” “เรื่องค่าจ้าง เดี๋ยวฉันจะคุยให้อีกทีนะ ถ้าได้ตามนี้ปุณตกลงไหม” “ก็น่าสนใจนะคะ แต่ปุณยังต้องแบ่งเวลาไปดูแลแม่ ปุณคงไปอยู่กับเขาไม่ได้ตลอดหรอกค่ะ” แม้งานที่เมคินเสนอจะฟังดูสบายแต่ถ้าไม่ได้ดูแลมารดาเธอก็ไม่อยากรับ “เอางี้นะ เดี๋ยวพรุ่งนี้ฉันจะนัดเขามาเจอที่นี่ ส่วนเรื่องค่าจ้างและรายละเอียดค่อยคุยกันอีกทีได้ไหม” เมคินตัดสินใจแทนเพื่อนไม่ได้ ไม่ใช่เพราะเรื่องเงินแต่เป็นเรื่องที่เธอยังไม่พร้อมจะไปอยู่กับชานนท์ตลอดเวลาเพราะต้องดูแลมารดา เขาไม่รู้ว่าเพื่อนจะของตนเองจะโอเคกับเรื่องนี้หรือเปล่า
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม