บทที่ 12

1326 คำ
"กระดากปากสักนิดไหมวะตอนพูด" "..." ขวัญนรีส่ายหน้าพรืดพร้อมส่ายสะโพกวนไปมาบนตักแข็ง ในกางเกงสารวัตรหนุ่มมีท่อนไม้ขนาดเขื่องซ่อนอยู่ พอไถครูดน้องสาวกับไม้ท่อนนี้ เธอก็ค้นพบอีกหนึ่งความรู้สึกแปลกไหม มันรู้สึกดี รู้สึกสุขสมยากจะบรรยาย หญิงสาวกดตัวลงให้ใจกลางความสาวแนบสนิทไปกับท่อนไม้เนื้อแข็งชิดขึ้น แล้วขยับเอวถี่ แรกๆ ก็ยังเงอะงะอยู่บ้าง แต่พอรู้จังหวะจะโคน เอวบางก็พริ้วไหวเริงระบำเป็นงานขึ้นมาภายในเสี้ยววินาที "อื้อ แข็งดีจัง" "ยัยเด็กบ้าเอ้ย! ลงไปเดี๋ยวนี้เลย ไปถูที่อื่นไป" เขมราชตวาดไล่ ใบหน้าคมคร้ามเหยเกเล็กน้อยเพราะความเสียวปลาบที่ไม่คิดว่าจะเกิดขึ้น เขายังยืนยันคำเดิมว่าไม่ได้มีอารมณ์พิศวาสผู้หญิงคนนี้แม้แต่ปลายนิ้วก้อย หัวใจสี่ห้องของเขาปรายฟ้ายังเป็นเจ้าของเหมือนเดิม เพราะงั้นเรื่องนอกกายแฟนสาวจึงไม่เคยอยู่ในสมอง แต่ตอนนี้มันเกินจะต้านทานจริงๆ กลไกร่างกายผู้ชายมันตื่นง่ายกับเรื่องพรรค์นี้แค่ไหน ผู้หญิงอาจจะไม่เข้าใจ แต่ผู้ชายด้วยกันรู้ดี ก่อนจะรู้สึกผิดกับปรายฟ้าไปมากกว่านี้ เขมราชรวบเอวเล็กคอดเหมือนเด็กขาดสารอาหารหมายจะยกเธอเหวี่ยงลงกลับที่เดิม "ดะ...เดี๋ยวค่ะ หนูกำลังจะเสร็จ อีกนิดเดียว หนูขออีกนิดเดียว ฮึก" แขนเรียวคล้องลำคอหนาฝังหน้าแดงปลั่งลงบนแนวบ่าแข็งแรง ทำตัวเป็นกาวตราช้างอย่างรู้ทัน ทำให้เต้าทรวงนุ่มคัพบีบดเบียดกับแผงอกแน่นหนั่นเต็มๆ "เธอนี่มัน...ร่านจริงๆ อย่างกับหมาตัวเมียติดสัตว์" "ฮื้อ...หนูขอโทษ" "เฮ้อ..." ลมหายใจร้อนลวกถูกเป่าพรืดออกจากริมฝีปากหยัก เขมราชหลับตาทิ้งท้ายทอยลงกับเบาะรองศีรษะอย่างเอือมระอา ด่าจนปากเปียกปากแฉะ ยัยเด็กร่านก็ไม่เห็นจะสะทกสะท้าน มีแต่ถูเอาๆ ลูกเดียว ทำราวกับว่าเขาเป็นตุ๊กตายางอย่างไรอย่างนั้น รู้ไปถึงไหนได้อายไปถึงนั่น ผู้พิทักษ์สันติราษฎร์บำบัดความใคร่ให้ประชาชน "หนูอยากจูบคุณจัง อึ่ก เราจูบกันได้ไหมคะ" เงยหน้าจากบ่าแล้วขอเขาตรงๆ "ฉันไม่จูบกับผู้หญิงไม่ใช่แฟน" เขมราชลืมตาถลึงดุคนได้คืบแล้วจะเอาศอก "งั้นคุณก็มาเป็นแฟนกับหนูสิ...แค่นาทีเดียวก็ได้ หนูอยากจูบคุณตอนจะเสร็จ" "ไม่ได้ ฉันมีแฟนแล้ว กำลังจะแต่งงาน" "คุณมีแฟนแล้วเหรอคะ" นัยน์กลมโตมีน้ำใสเอ่อคลอหม่นแสงลง ไม่ทันแล้วความรู้สึกผิดที่ก่อเกิด เธอกำลังจะเสร็จ ปากทางอ่อนนุ่มขมิบเข้าออกตอดรัดอากาศถี่รัวครั้นใกล้จะถึงจุดสุดยอด "อ๊าง..." ดวงหน้าหวานแหงนเริ่ด กายขาวสั่นระริก น้ำหวานจากช่องทางรักกระฉอกเปรอะเปื้อนกางเกงสีกากีจนชื้นแฉะ ซึมไปถึงชั้นในสีเข้มของเขมราช ขวัญนรีหายใจหอบฮัก นัยน์ตาอ่อนเชื่อมเหลือบมองใบหน้าหล่อคมแสนเย็นชาที่จ้องหน้าเธอนิ่งๆ ด้วยความอับอาย ทว่าลึกๆ ก็ติดใจกับความหวามซ่านที่ไม่เคยพานพบมาก่อน "ปากบอกไม่เคยมีผัว แต่น้ำเยอะฉิบหาย ร่านโดยกำเนิดเลยสินะ" "เป็นเพราะฤทธิ์ย***าๆ นั่นต่างหาก” "เสร็จแล้วก็ลงไปสิ" ใบหน้าหล่อคมบุ้ยใบ้ไปทางเบาะนั่งข้างคนขับ เดชะบุญที่เรื่องบนเตียงเขาค่อนข้างอึดพอสมควรเลยไม่แตกตามหญิงสาวไปง่ายๆ "หนูยังไม่หายอยาก" "อยากจะเป็นชู้กับฉันนักเหรอ" "ปะ...เปล่าค่ะ ก็เมื่อกี้ที่คุณบอกจะซื้อยานอนหลับ..." "เออ เดี๋ยวพาไปซื้อ ลงไปใส่เสื้อผ้าดีๆ ก่อน" ขับรถออกมาไม่ไกล ก็เจอร้านขายยาร้านหนึ่งซึ่งเภสัชกรกำลังจะปิดร้าน ถ้ามาช้ากว่านี้อีกนิด ขวัญนรีไม่อยากจะคิดเลยว่าจะเกิดอะไรขึ้น อารมณ์หวิวหวามยังคงคุกรุ่นในตัวเธอ "อะ รีบกินซะ" เขมราชเป็นคนลงไปซื้อมาให้ "ขอบคุณค่ะ" ขวัญนรีรีบตบยานอนหลับเข้าปากสองเม็ดแล้วดื่มน้ำขวดที่สารวัตรหนุ่มมีติดอยู่ในรถพร่องขวดตาม ขณะยกมือเช็ดริมฝีปาก ขวัญนรีก็ฉุกคิดอะไรอะไรบางอย่างได้ ตากลมหลุบต่ำมองขวดน้ำในมืออีกครั้ง แบบนี้เท่ากับเธอจูบปากเขาทางอ้อมด้วยหรือเปล่านะ ผิดศีลข้อที่สามอีกแล้วเหรอ โอ้ย! ของขวัญนี่แกทำบ้าอะไรลงไป ใจคอแกจะปีนต้นงิ้วให้ได้เลยหรือไง "เอาล่ะ ต่อไปก็รีบบอกทางกลับบ้านก่อนที่เธอจะน็อคคารถฉันมาซะดีๆ" @ บ้านอานันทรัพย์ไพศาล เป็นเวลาเกือบเที่ยงคืนแล้ว คมสันต์กับวิมาลายังคงไม่นอน สองสามีภรรยานั่งรอการกลับบ้านของขวัญนรีอย่างใจจดใจจ่อ "คุณไม่น่าอนุญาตให้นัง...เอ่อ น้องขวัญออกจากบ้านเลยนะคะ ดึกป่านนี้แล้วยังไม่กลับบ้านอีก ไม่รู้ไปหลงทางหรือเกิดอุบัติเหตุที่ไหน ฉันห้ามแล้ว คุณก็ไม่ฟัง เอ๊ะ! หรือว่าน้องขวัญหนีกลับนิวซีแลนด์ไปแล้วคะคุณสันต์" "เป็นไปไม่ได้หรอก ยัยขวัญไม่มีทั้งเงิน ทั้งโทรศัพท์ พาสปอร์ตผมก็ให้น้ำหวานฉีกทิ้งไปแล้ว เพื่อนในไทยสักก็ไม่มีสักคน ตัวเปล่าเล่าเปลือยแบบนั้นไปไหนไม่รอดหรอก เราขึ้นไปนอนกันเถอะ คืนนี้ยังไงมันก็ต้องกลับมา" "ดูคุณมั่นใจในตัวลูกสาวคนนี้จังเลยนะคะ" "เพราะผมรับปากคุณแล้วไงคุณวิว่าจะส่งยัยขวัญให้เสี่ยเจริญ" "ได้ยินคุณพูดอย่างนี้ วิก็สบายใจค่ะ" สบายใจมาก เพราะหล่อนรับปากกับเสี่ยเจริญไปแล้วว่าจะนังลูกเลี้ยงไปดูตัวภายในสองสามวันนี้ "คุณผู้หญิงคุณผู้ชายคะ คุณของขวัญกลับมาแล้วค่ะ แต่ไม่ได้กลับมาคนเดียวนะคะ ไม่รู้พาผู้ชายที่ไหนกลับมาด้วยค่ะ" สาวใช้เพียงคนเดียวที่อานันทรัพย์ไพศาลมีปัญญาจ้างในตอนนี้แจ้นเข้ามารายงาน สองสามีภรรยาหันขวับไปทางประตูบ้าน หัวคิ้วคนทั้งคู่พร้อมใจกันยับย่น วิมาลาหูผึ่ง เต้นเร่าๆ ในอก กลัวว่าผู้ชายคนนี้จะเป็นผัวขวัญนรี ขืนเป็นอย่างนั้นคงเสียราคาแย่ เพราะหล่อนแอบป้ายยาเสี่ยเจริญไปแล้วว่าลูกเลี้ยงยังสดๆ ซิงๆ ไม่เคยผ่านมือชายใดมาก่อน "เจ้าเขมมาได้ยัง ทำไมของขวัญถึงไปอยู่กับหลานได้ แล้วทำไมลูกสาวลุงถึงสลบคอพับอย่างนั้น" เป็นคนคุ้นเคยกันนี้นี่เอง เขมราชเป็นลูกชายคนเล็กของธวัชชัย เพื่อนรักเพื่อนยากที่เคยเป็นผู้ช่วยเขาหาเสียงสมัยลงสมัครส.ส.ใหม่ๆ เขมราชค้อมศีรษะให้ผู้ใหญ่ มือเขาไม่ว่างเพราะกำลังอุ้มลูกสาวเพื่อนพ่ออยู่ ใบหน้าคมคร้ามไร้แววประหลาดใจ ตั้งแต่ที่หญิงสาวบอกให้ไปส่งบ้านอดีตรัฐมนตรีคมสันต์ เขาก็รู้แล้วว่าเธอคือลูกสาวคนโตอีกคนที่ถูกส่งไปเรียนเมืองนอกตั้งแต่เด็กๆ เพราะเข้ากับแม่เลี้ยงไม่ได้ "พอดีผมออกไปตรวจผับนะครับ เลยบังเอิญเจอน้องเมาหลับอยู่ ลองเช็กบัตรประชาชน เห็นนามสกุลเลยรู้ว่าเป็นลูกสาวคุณลุง" บอกความจริงไปไม่น่าเป็นผลดีทั้งตัวเขาแล้วก็เธอ "เขมไม่ได้เจอของขวัญอยู่กับผู้ชายที่ไหนใช่ไหมจ๊ะ" วิมาลาถามอย่างลืมตัว "ไม่ครับ" "งั้นลุงวานเขมอุ้มน้องขึ้นไปส่งที่ห้องนอนทีนะ" "ได้ครับ"
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม