จะต้องแต่งงานมีสามีเป็นตัวเป็นตนแล้วยังไง สุดท้ายผู้หญิงเราก็ควรจะยืนด้วยลำแข้งตัวเองอยู่ดี เสียดายที่เธอไม่มีปริญญาเป็นใบเบิกทาง งานที่พอจะส่งใบสมัครไปได้จึงจำกัดอยู่ไม่กี่อย่าง มีแต่งานใช้แรงงานทั้งนั้น กระนั้นขวัญนรีก็ไม่เกี่ยง หญิงสาวถือคติที่ว่างานคือเงินและเงินคืองาน จะมากจะน้อยเงินก็คือเงิน ต่อลมหายใจให้ชีวิตในวันต่อไปได้
"เงินเดือนเก้าพันนะ โอทีไม่มี ขาด ลา มาสาย ตาย ห้ามเด็ดขาด ช่วงนี้ที่ร้านลูกค้าเยอะ ขาดงานไปคนหนึ่ง คนที่เหลือก็ต้องทำงานหนักขึ้น กฎพวกนี้ เธอรับได้หรือเปล่า ถ้ารับได้ก็มาเริ่มงานตั้งแต่วันพรุ่งนี้เลย" ขวัญนรีมาสมัครงานในตำแหน่งเด็กเสิร์ฟที่ร้านอาหารญี่ปุ่นแห่งหนึ่งในห้างสรรพสินค้าสุดหรู ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากบ้านอานันทรัพย์ไพศาล สามารถเดินทางไปกลับด้วยรถไฟฟ้าได้ แต่จากบ้านออกมาถึงสถานีเธอต้องเดินเท้าออกมา
"รับได้ค่ะ"
ผู้จัดการสาวบอกถึงกฎของการทำงานร่วมกันอีกเล็กน้อยก็ปล่อยให้ขวัญนรีกลับพร้อมกับไม่ลืมย้ำให้เด็กสาวมาทำงานในวันพรุ่งนี้ให้ตรงเวลา
ขวัญนรีไม่อยากรีบกลับบ้านไปปะทะคารมกับวิมาลาให้เมื่อยปาก ไหนๆ ก็มาถึงห้างแล้ว ขอเดินเล่นตากแอร์ให้ฉ่ำปอดหน่อยแล้วกัน
มัวแต่กวาดตามองเสื้อผ้าแบรนด์เนมสวยๆ ในหุ่นระหงผ่านกระจกหน้าช็อปที่อยู่เรียงรายติดกันเพลิน ไม่ทันมองว่ามีผู้หญิงคนหนึ่งกำลังเดินหิ้วถุงพะรุงพะรังออกมาจากช็อป ทว่าคราวนี้ขวัญนรีไม่ใช่คนผิด เป็นอีกฝ่ายที่มัวแต่ก้มหน้าชื่นชมกับข้าวของมูลค่าหลายล้านในถุงช็อปปิงจนเป็นฝ่ายชนขวัญนรีก่อน
"โอ้ย! เดินประสาอะไรของเธอเนี่ย ดูตาม้าตาเรือหน่อยสิ" ไฮโซสาวโวยวาย แว่นกันแดดทรงโตหลุดออกจากเบ้าหน้า ในความคิดของขวัญนรีผู้หญิงคนนี้เป็นคนสวยมากทีเดียว แต่พอเจ้าหล่อนอ้าปากแว้ดๆ เท่านั้นแหละ ความสวยที่ว่าก็แทบจะไม่เหลือ
"ขอโทษค่ะ คุณเป็นอะไรมากหรือเปล่าคะ ลุกขึ้นไหวไหม ให้ฉันช่วยพยุงไหมคะ"
"ไม่ต้อง! ฉันลุกขึ้นเองได้"
"งั้นเดี๋ยวฉันช่วยเก็บของนะคะ"
"ห้ามแตะต้องของของฉันนะ ถ้าของฉันเสียหายขึ้นมา น้ำหน้าอย่างเธอคงไม่มีปัญญาชดใช้หรอก"
วันนี้ขวัญนรีสวมเสื้อยืด กางเกงยีนขายาว และรองเท้าผ้าใบมาสมัครงาน สภาพเธอมันไม่ได้แย่เลยสักนิด ก่อนออกจากบ้านเธอก็หมุนตัวส่องกระจกแล้วส่องอีก เช็กความเรียบร้อยตั้งหลายรอบ แต่พอมาเทียบกับชุดเดรสปักคริสตัลชวาลอฟกี้ทั้งตัวแล้ว มันเลยดูมอซอซอมซ่อขึ้นมาทันตา
"ค่ะ งั้นก็เชิญคุณช่วยตัวเองไปนะคะ ฉันขอตัว" ขออนุญาตเชิดใส่ ถ้าจะเห็นน้ำใจคนเป็นของไร้ค่าขนาดนี้
ผู้หญิงคนนั้นทำให้ขวัญนรีหมดอารมณ์จะเดินห้างต่อไปโดยปริยาย ลงจากรถเมลล์ขวัญนรีก็เดินทอดน่องเข้ามาในหมู่บ้านหรู บ้านอานันทรัพย์ไพศาลอยู่หลังสุดท้าย เพราะเป็นหลังที่แพงที่สุด ใช้เวลาเดินมากหน่อย หากมองในแง่ดีก็ถือว่าเป็นการออกกำลังกายไปในตัว
ปิ้นนนนนน!
"ว้าย!"
ทว่าขณะเดินทอดน่องชิดริมถนนกินลมชมวิวช่วงกลางวันแสกๆ อยู่ดีๆ จู่ๆ รถยนต์สปอร์ตสองที่นั่งคันหนึ่งแล่นมาด้วยความเร็วสูงก็พุ่งเข้าใส่ราวกับตั้งใจจะชนเธอให้ตายคาที่ ขวัญนรีหลับตาปี๋ กรีดร้องเสียงแหลม
เอี๊ยดดดด!
รถสปอร์ตเบรกกะทันหัน กันชนอยู่ห่างจากร่างเล็กไม่ถึงห้าเซนติเมตร ฉิวเฉียดยิ่งกว่าเส้นยาแดงผ่าแปด
แกร็ก...คนขับเปิดประตูลงจากรถ เป็นจังหวะเดียวกันกับที่เปลือกตาบางเปิดขึ้น
"คุณเขม! เป็นคุณเองเหรอ" ไม่มีอะไรน่าตกไปกว่าที่คนขับรถเป็นเขมราชแล้ว
"ใช่" สองมือหนาล้วงกระเป๋ากางเกงด้วยท่าทางชิลจัดในชุดนอกเครื่องแบบ ทั้งที่เมื่อไม่กี่วินาทีเมื่อครู่เขาเกือบพรากลมหายใจเธอ
"ทำแบบนี้ทำไมคะ หนูไปทำอะไรให้คุณอีก ทำไมถึงกับจะต้องฆ่าแกงกันด้วย คุณรู้ไหมว่าเมื่อกี้หนูกลัวมากขนาดไหน" นัยน์ตากลมเริ่มมีน้ำใสคลอหน่วย
"นี่มันยังน้อยไปสำหรับผู้หญิงน่าไม่อายอย่างเธอ"
"หนูไปทำอะไรให้ คุณก็บอกมาสิคะ ไม่งั้นหนูแจ้งจับตำรวจจับคุณข้อหาพยายามฆ่าแน่"
"กล้าเหรอ!"
"โอ้ย! คุณเขม หนูเจ็บนะ" เขมราชกระชากต้นแขนกลมกลึงแล้วบีบแน่น ขวัญนรีเบ้หน้าเพราะความเจ็บ พยายามขืนแขนออกจากมือหนา แต่แรงเขาเยอะมาก น่ากลัวว่าแขนเธอจะหักเป็นสองท่อนเอา
"แรด ร่าน หน้าด้าน ไร้ยางอาย มันต้องคันขนาดไหนวะ ถึงอยากได้ผัวคนอื่นจนตัวสั่น เธอกล้าดียังไงถึงไปตอแหลลุงสันต์ว่าโดนฉันเอา แล้วจะให้ฉันรับผิดชอบด้วยการแต่งงาน หึ ถามจริง ไปอ่านนิยายเรื่องไหนมา"
อ้อ ที่แท้ก็เรื่องนี้นี่เองที่ทำให้เขากลายเป็นหมาบ้า
"คุณกำลังเข้าใจหนูผิดนะ ฟังหนูอธิบายก่อน"
"หรือถ้าเธอติดใจ 'มัน' มาก ก็จับ 'มัน' ซะให้พอ"
กำลังจะถามว่า 'มัน' ไหน ฝ่ามือหยาบก็ปล่อยให้ต้นแขนกลมกลึงเป็นอิสระ แล้วคว้ามือเธอไปกุมหมับเข้าที่เป้ากางเกงยีนสีเข้มที่นูนออกมานิดๆ
"นี่คุณทำบ้าอะไรของคุณ" จะดึงมือออก เขาก็ไม่ยอมปล่อย ตรึงไว้อยู่อย่างนั้น มิหนำซ้ำฝ่ามือหนายังทั้งกดและบดหลังมือขาวไปมากับเป้ากางเกง ไม่นานท่อนเนื้อไร้กระดูกก็เริ่มแข็งขืน ขวัญนรีหน้าแดงก่ำ ทั้งร้อนวูบวาบที่แก้ม กะพริบตาอีกที เธอก็ได้ของแถมเป็นน้ำใสๆ เหนียวหนืดที่ซึมออกมาจากเป้าเขา
"พอใจหรือยัง ฉันอุตส่าห์แถมน้ำเ****นให้ด้วย ทีนี้ก็รีบแจ้นไปบอกพ่อเธอให้ล้มเลิกความคิดบ้าๆ นี่ได้แล้ว ถ้าไม่อยากโดนฉันถอนหงอก"
ขวัญนรีชักมือกลับ เช็ดน้ำเขากับชายเสื้อยืด คล้ายว่ารังเกียจ แต่ความจริงแล้วเธอไม่มีความรู้สึกนั้นแม้เศษเสี้ยวเลย บอกแล้วไงว่าเขาเป็นผู้มีพระคุณของเธอ
"หนูไม่เคยบอกพ่อว่ามีอะไรกับคุณ"
"เห็นมีเขางอกบนหัวฉันเหรอ"
"มีค่ะ อันเบ้อเริ้มเลย"
"นี่เธอ!"
"บ้านหนูกำลังจะล้มละลาย คุณคงไม่รู้ พอพ่อเห็นหนูกลับมากับคุณในสภาพไม่มีสติ ท่านเลยทึกทักเอาเองว่าหนูมีอะไรกับคุณแล้ว"
"จะบอกว่าลุงสันต์คิดจะปอกลอกฉันงั้นสิ"
"ค่ะ พ่อบอกว่าพ่อคุณรวยมาก" ขวัญนรีตอบตามตรง
"เหอะ" เขาแค่นเสียงในลำคอ
"แต่หนูบอกพ่อไปแล้วนะคะว่าจะไม่แต่งงานกับคุณเด็ดขาด เพราะคุณกำลังจะแต่งงานกับแฟน หนูไม่อยากทำบาป แย่งของรักของคนอื่นเขาว่าจะอาภัพเรื่องความรักตลอดชีวิต"