“อื้ม ฉันรู้อยู่แล้วแหละว่านายต้องทำได้แบบนั้น” พีรดาหยิบพิซซ่ามากินอย่างเอร็ดอร่อย ถ้ารู้ว่าจะต้องมากินแบบนี้ ตอนไปพบว่าที่หุ้นส่วน เธอคงไม่กินอะไรมาจนเริ่มอยู่ท้องบ้าง
“แล้วพี่ภูมิล่ะเป็นไงบ้าง”
เมื่อถึงเวลา ปริญตัดสินใจเอ่ยถามออกมา เพราะตั้งแต่ที่คุยกัน พีรดายังไม่เอ่ยชื่อของคนรักแม้แต่น้อย และคำถามของเขาก็ทำให้เธอถึงกับหยุดกินไปครู่หนึ่ง
“เลิกกันแล้ว” หญิงสาวตอบแต่เพียงสั้นๆ เท่านั้น ก่อนจะกัดกินพิซซ่าในมือต่ออย่างไม่ใส่ใจ
“ว่าไงนะ! ตั้งแต่เมื่อไหร่ ทำไมฉันไม่เห็นรู้เรื่อง?”
ประโยคเหล่านั้นนั้นทำเอาปริญถึงกับช็อก เพราะคิดมาตลอดว่าภาคภูมิจะไม่มีทางปล่อยพีรดาออกมาแน่นอน เพราะเธอน่ารัก เก่ง มากความสามารถจนเป็นที่ต้องการของตลาดขนาดนี้ รวมถึงคนที่ตกช่าวอย่างเขาด้วย
“แล้วนายได้ติดต่อพี่ภูมิบ้างไหมล่ะ ตั้งแต่ที่เรียนจบ” พีรดาเอ่ยถามเสียงนิ่ง พร้อมกับหันไปสนใจอาหารต่อราวกับว่ามันเป็นเพียงเรื่องเล็กเท่านั้น
“ฉันไม่เคยพูดคุยกับพี่ภูมิอีกเลย รู้แต่ว่า พี่เขาเองก็ทำธุรกิจโรงแรมไม่ต่างจากเรา และฉันก็คิดว่าเธอกับพี่ภูมิน่าจะเป็นพาร์ทเนอร์ในการช่วยกันบริหารธุรกิจ”
ปริญพูดอย่างใจคิด เหตุที่ไม่ติดต่ออีกฝ่ายไปก็เพราะไม่อยากเป็นคนเลวที่หลงรักแฟนพี่ชายที่เคารพ และตัวของภาคภูมิเอง ตั้งแต่ที่ได้คบกับพีรดาก็แทบไม่ติดต่อหาเขาเช่นกัน
“อืม ก็ไม่แปลกที่นายจะไม่รู้ เพราะนายไม่ได้ติดต่อทั้งพี่ภูมิและฉัน” หญิงสาวพูดด้วยน้ำเสียงประชดประชัน เพราะปริญเป็นฝ่ายตีตัวออกห่างไปเอง มันก็ไม่แปลกที่เขาจะไม่รับรู้เรื่องราวในชีวิตของเธอ
“นานหรือยัง” เอ่ยถามออกไปด้วยความคาใจ หัวคิ้วเข้มเริ่มขมวดเข้าหากันพลางนึกด่าตัวเองในใจที่คิดเอง เออเอง ว่าภาคภูมิกับพีรดาคงไปด้วยกันได้ดี
“ก็ตั้งแต่เรียนจบใหม่ๆ”
พีรดาตอบสั้นๆ เพราะเรื่องระหว่างตนเองกับภาคภูมิถือว่าจบมานานแล้ว อีกอย่างก็ไม่อยากรื้อฟื้นมัน เพราะสิ่งที่ฝ่ายนั้นทำกับเธอ มันทำให้รู้สึกเกลียดและขยะแขยงเขาเกินทน
“บอกได้ไหมว่าเกิดอะไรขึ้น ฉันไม่ได้อยากยุ่งเรื่องส่วนตัว แต่แค่ไม่เข้าใจ ในเมื่อพี่ภูมิรักเธอขนาดนั้น” ปริญเอ่ยถามออกไปอย่างหาเหตุผล แอบรู้สึกดีใจที่พีรดาไม่ได้เป็นคนรักของภาคภูมิแล้ว แต่ก็ใช่ว่าตอนนี้ เธอจะยังไม่มีเจ้าของหัวใจ
“ฉันบอกเลิกเขาเอง เพราะเขาไม่ได้รักฉัน เขารักแต่ตัวเอง และนายก็ไม่ต้องถามละนะ เพราะเรื่องมันนานมาแล้ว ตอนนี้ ฉันไม่อยากรื้อฟื้นอะไรอีก”
พีรดามองหน้าปริญด้วยสายตาจริงจัง เธอไม่อยากเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นในปริญฟัง เพราะหากเขารู้คงผิดหวังในตัวพี่รหัสไม่น้อย
“ถ้าเธอไม่สบายใจที่จะพูดถึง ฉันก็จะไม่เซ้าซี้ ถ้าอย่างงั้น ฉันอยากพูดเรื่องระหว่างเรา” CEO หนุ่มเปลี่ยนเป็นเข้าเรื่องที่ตนเองอยากจะคุยกับพีรดามากที่สุด เพราะเขาไม่สามารถทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นได้
“เรื่องเมื่อคืนเหรอ?” เอ่ยตรงประเด็นเพราะรู้ดีว่า เขาคงมีเพียงเรื่องเดียวที่อยากจะคุยกับเธอ
“ใช่ จะทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นไม่ได้ ในเมื่อมันเกิดขึ้น และยิ่งได้รู้ว่า เธอมีฉันเป็นคนแรก มันยิ่งทำให้ฉันไม่อยากปล่อยเรื่องนี้ไปเฉยๆ”
ปริญพูดตามความรู้สึกจากใจ เขาเป็นลูกผู้ชายมากพอ และแน่นอนว่าต้องรับผิดชอบกับสิ่งที่เกิดขึ้น
“อะไรของนาย คนอย่างนายสนใจด้วยเหรอว่าจะเป็นคนแรกของใคร หรือใครจะเป็นคนแรกของนาย” คิ้วเรียวขมวดเป็นปม ขณะจ้องลึกสบดวงตากับคนตรงหน้า
“กับคนอื่น ฉันตอบไม่ได้ ความรู้สึกมันคงเป็นเคสๆ ไป แต่กับเธอ ฉันปล่อยไปไม่ได้” น้ำเสียงคราวนี้กลับแฝงความอ่อนโยนเข้ามาเพิ่ม ดวงตารีเรียวทอดมองสบประสานสื่อความรู้สึกหลากหลายส่งให้หญิงสาวรับรู้
“พูดแบบนี้ แล้วไม่คิดจะรับผิดชอบความรู้สึกของฉันตอนที่โดนนายตีตัวออกห่างบ้างหรือไง นายเป็นบ้าเหรอ ตอนนั้นก็อยากจะหนีฉันไปไกลๆ มาตอนนี้ก็มาทำตอแยอยู่ได้ แค่เมื่อคืน เราพลาด มันก็แค่คืนพลาดพลั้ง” พีรดาเลิกติ้วด้วยความไม่เข้าใจ เขาจะมาตอแยเธอเพื่ออะไร ในเมื่อเรื่องเมื่อคืน มันเกิดจากความผิดพลาด และเธอไม่ต้องการเรียกร้องอะไรทั้งนั้นฃ
“คืนพลาดพลั้งงั้นเหรอ แต่ฉันว่า ฉันยิงเข้าประตูไม่พลาดสักลูกเลยนะ จริงไหม” เห็นท่าทีดื้อรั้นอย่างเอาแต่ใจของสาวเจ้า ปริญก็อดแหย่กลับพร้อมยิ้มเล็กๆ ไม่ได้
“ปริญ! คนบ้า” เธอแหวใส่เขา ดวงหน้าสวยแดงขึ้นจนเห็นได้ชัด
“อ้าว! ฉันพูดจริงนี่ และเรื่องที่ฉันเคยตีตัวออกห่างเธอตอนนั้น ฉันขอโทษ ฉันแค่ไม่อยากเข้าไปรบกวนเวลาของเธอกับพี่ภูมิ อันนี้ฉันผิดเอง แต่เรื่องเมื่อคืนที่เกิดขึ้น มันคนละประเด็นกัน ฉันอยากจะรับผิดชอบเรื่องนั้น” ชายหนุ่มพูดด้วยสายตาจริงจัง ในเมื่อพีรดาเองก็ไม่ได้คบหากับภาคภูมิ ดังนั้น เขาก็มีสิทธิ์ที่จะก้าวข้ามคำว่า ‘เพื่อนรัก’ นี้เสียที
“นายไม่ต้องรับผิดชอบอะไรทั้งนั้นปริญ เพราะมันคือความผิดพลาด ฉันรู้ว่ามันก็แค่อารมณ์ชั่ววูบ นายไม่ต้องมารับผิดชอบหรอกเดี๋ยวฉันก็กลับภูเก็ตแล้ว เราต่างฝ่ายต่างแยกย้ายกันไปเหมือนเดิมเถอะ”
พีรดาพูดด้วยสายตาอ้อนวอน ทว่าแฝงความหวั่นไหวไม่น้อย ใจหนึ่งก็ไม่อยากทรมานกับความรู้สึกที่ให้ใครมารับผิดชอบทั้งที่ไม่ได้รักเธอแม้แต่น้อย แต่อีกใจก็ค้านให้ยอมรับ