น้องเพื่อน.มันส์.ยั่ว
Messy Relationship
แนว อีโรติก (5P)
ผู้เขียน : ตัวตึงดึงปฐพี / ยืนงงในดงนารี
“เอ่อ...พี่ไม่ได้ตั้งใจนะ” เดม่อนเห็นเธอตกใจก็รีบบอกทันที
“หนูว่าพวกพี่ขยับออกไปอีกหน่อยดีไหมคะ” ตอนนี้สาวน้อยรู้ตัวแล้วว่าไหล่ของเธอและของสองหนุ่มมันกำลังเบียดกันอยู่ นั่นทำให้เจเลอร์เอียงคอมองสบตาเธอ
“เบบี๋ไม่ชอบเหรอคะ” เขาเอ่ยถาม ซึ่งสาวน้อยไม่รู้เลยว่าทำไมเจย์เลอร์ถึงพูดแบบนี้
“หมายความว่ายังไงคะ”
“นุ่งแค่ผ้าขนหนูเบบี๋น่าจะหนาวใช่ไหม มีพวกพี่นั่งข้าง ๆ เบบี๋จะได้อุ่นไง” คนเจ้าเสน่ห์เอ่ยแล้วขยับยิ้มน้อย ๆ เดม่อนเห็นว่าไอ้คนที่พยายามปรามเขามาตลอดกำลังรุกใส่เธอก็ชักยั๊วะขึ้นมา
“อย่าทำยัยหนูตกใจ” เขาเอ่ยเสียงดุ พร้อมโอบไหล่เธอให้ขยับถอยจากเจย์เลอร์ นั่นทำให้ปั้นหยาถึงกับเบิกตาโต
“พี่ม่อน” เธอยกมือดันอกเขา แต่เดม่อนกลับทำเนียนโอ๋เธอ
“ไม่ต้องกลัวนะ พี่ไม่ให้ไอ้เจย์แกล้งเธอหรอก”
“พี่เจย์ยังไม่ได้แกล้งหนูเลยค่ะ” เธอแย้ง พอเข้ามาอยู่ในอ้อมแขนของเดม่อนแบบนี้ ทำให้เธอรู้ว่าเขาตัวใหญ่มากเลย
เจย์เลอร์ที่เห็นว่าไอ้เพื่อนเวรทำเนียนแถมยังได้กอดสาวน้อยก็ไม่ยอมเช่นกัน เขาเองก็อยากรู้ว่าเนื้อตัวปั้นหยาเป็นยังไง ไม่วายรุ่นพี่หนุ่มก็รั้งร่างเธอมาสู่อ้อมอกของเขาบ้าง
“พี่เจย์!” ปั้นหยาที่ถูกรั้งจนถลาขึ้นมานั่งตักเจย์เลอร์รีบดึงชายผ้าขนหนูปิดขาอ่อนไว้ ทำไมพี่ ๆ ถึงทำแบบนี้ล่ะ
“ไอ้ม่อนไว้ใจไม่ได้มันเจ้าชู้จะตายค่ะ” เสียงทุ้มกระซิบบอกข้างหู เจย์เลอร์ไม่คิดเลยว่าเนื้อตัวปั้นหยาจะนุ่มและหอมถึงขนาดนี้ ถ้าเขาและเดม่อนคิดเกินเลยกับเธอขึ้นมาจริง ๆ เห็นทีคงได้เปิดสงครามกันแน่นอน
“ยัยหนูอย่าไปฟัง! มันนั่นแหละเพลย์บอย” เดม่อนแย้งเสียงขุ่น ไอ้เพื่อนเหี้ยกล้าขายกันซึ่งหน้า แถมยังเอาปั้นหยาไปนั่งตักอีก
“ไม่จริงหรอก พี่เป็นคนเรียบร้อยค่ะ” เจย์เลอร์เอ่ยเสียงอ้อนแล้วเกยคางลงกับไหล่ลาด สายตาคู่คมฟาดฟันกับเดม่อนไม่หยุด
“เรียบร้อย...มาเป็นร้อยก็เรียบดิมึง” เดม่อนว่าใส่
“พอแล้วค่ะ ทำไมต้องเถียงกันด้วย หนูว่าป่านนี้พี่เท็มป์น่าจะเข้าห้องไปแล้วนะคะ” ปั้นหยาปรามทั้งสองคน
“มึงปล่อยน้องได้แล้ว” เดม่อนเอ่ย นั่นทำให้เจย์เลอร์กระตุกยิ้ม
“เบบี๋ไม่อุ่นเหรอ พี่กอดแบบนี้ไม่ดีรึไงคะ”
“ไม่ค่ะ! หนูจะไปตะ...”
“เปิดประตู!” ยังเอ่ยไม่จบเสียงของเท็มป์ที่ฟังดูดุดันกว่าปกติก็ทำให้ปั้นหยาสะดุ้งโหยง
“ไขเข้าไปดิ กูว่าพวกมันอยู่ข้างใน” ไม่ใช่แค่เท็มป์ แต่ยังมีกันเนอร์ที่ดูเหมือนจะรู้แล้วว่าเดม่อนและเจย์เลอร์อยู่ในนี้
“ฉิบหายแล้วไง!” เดม่อนเอ่ยด้วยสีหน้าจริงจัง ยังไม่ทันได้คิดหาข้อแก้ตัว เท็มป์ก็ไขประตูเข้ามาเสียแล้ว
“พี่เท็มป์...” สาวน้อยร้องเสียงหลง ในขณะที่เจย์เลอร์คลายอ้อมแขนออก ปั้นหยาจึงรีบปรี่ไปหาพี่ชาย ซึ่งภาพของเธอที่มีเพียงผ้าขนหนูห่อหุ้มร่างสวยแบบหมิ่นเหม่ ทำให้กันเนอร์ขมวดคิ้วมุ่น เขาถอดเสื้อแจ็คเก็ตที่สวมอยู่มาคลุมให้เธอเงียบ ๆ ในขณะที่เท็มป์เดินเข้าไปซัดหมัดใส่หน้าเจย์เลอร์อย่างจัง
พลั่ก!
“ปั้นหยาคือน้องสาวกูใครก็ห้ามแตะ! กูบอกตั้งแต่วันแรกแล้วไม่ใช่” เท็มป์เอ่ยย้ำเสียงขุ่น มองสบตาเพื่อนผ่านเลนส์แว่น แต่อีกฝ่ายกลับแค่นเสียงหยัน ยกหลังมือขึ้นปาดเลือดที่มุมปากออกลวก ๆ
“ก็แค่ลูกพี่ลูกน้อง ต้องบอกว่าไม่มีความเกี่ยวข้องทางสายเลือดเลยถึงจะถูก ที่มึงโมโหขนาดนี้เพราะเห็นเบบี๋เป็นน้องจริงดิ”
เจย์เลอร์เอ่ยเสียงเยาะหยันจี้ใจดำเพื่อน ทำเอาเดม่อนและกันเนอร์ถึงกับอึ้ง เพราะไม่มีใครรู้เรื่องที่เจย์เลอร์พูดเลยสักคน แน่นอนว่าก่อนหน้านี้พวกเขาก็เข้าใจว่าปั้นหยาเป็นน้องสาวที่มีความเกี่ยวข้องทางสายเลือดของเท็มป์เช่นกัน นั่นคงเป็นเหตุผลที่เจย์เลอร์พยายามปรามเดม่อนที่เริ่มทำตัวใกล้ชิดสนิทสนมกับเธอ พยายามบอกกันเนอร์ว่าอย่าได้แตกคอกันเพราะเรื่องของปั้นหยา แต่ว่าไม่นานมานี้เจเลอร์ได้ไปล่วงรู้มาว่าสาวน้อยไม่ได้มีความข้องเกี่ยวในเชิงเครือญาติกับเท็มป์เลย ยิ่งได้เห็นว่าเท็มป์มีปฏิกิริยาอย่างไรตอนมองปั้นหยานุ่งผ้าขนหนู เจย์เลอร์ก็ยิ่งแน่ใจว่าที่เพื่อนหวงเธอมากมายขนาดนั้น อาจจะไม่ใช่ในเชิงน้องนุ่งก็เป็นได้ คำว่า ‘พี่ชาย’ อาจจะเป็นเพียงข้ออ้างของเท็มป์
“ตกลงยัยหนูไม่ใช่น้องมึงเหรอ” เดม่อนถามย้ำเสียงดุ
“ไหนว่าเป็นลูกสาวของน้องชายพ่อมึงไง” กันเนอร์ว่า
“พ่อเธอเป็นลูกบุญธรรมคุณปู่” เมื่อเลี่ยงไม่ได้แล้วเท็มป์จึงต้องบอกความจริงออกไป ซึ่งเรื่องนี้ปั้นหยาเองก็รู้อยู่แล้ว แต่การที่ต้องฟังเขาพูดว่าเธอที่ไม่เหลือใครให้พึ่งพิงไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกันเลย มันทำให้ปั้นหยารู้สึกเศร้าใจเหลือเกิน
“ไม่ใช่พี่น้องทางสายเลือดจริง ๆ เหรอวะ แต่มึงคงไม่ได้คิดแบบที่ไอ้เจย์พูดใช่ไหม ว่าไง?” เดม่อนถามไปตามตรง ตอนนี้เจย์เลอร์ดูเหมือนจะสนใจปั้นหยาจริง ๆ และเขาเองก็จะไม่ยอมแพ้ไอ้หมอนั่นด้วย แต่ถ้าศึกรักครั้งนี้มีเท็มป์มาเพิ่มอีกคนเขาจะทำยังไง ปั้นหยาดูชอบใจพี่ชายของเธอจะตาย เท็มป์ทั้งอบอุ่นและอ่อนโยนกับเธอขนาดนั้น
“บอกแล้วไงว่าปั้นหยาเป็นน้องกู” เท็มป์แทบจะกัดฟันพูด และถ้อยคำของเขาทำสาวน้อยปั้นหยาสะท้านวาบในอกทีเดียว เพราะรู้ว่าไม่เกี่ยวข้องกันทางสายเลือดทำให้เธอรู้สึกดีเหลือเกินที่มีเขาคอยใส่ใจ แต่สุดท้ายแล้วเท็มป์ก็คิดกับเธอแบบพี่ชายน้องสาวสินะ