น้องเพื่อน.มันส์.ยั่ว
Messy Relationship
แนว อีโรติก (5P)
ผู้เขียน : ตัวตึงดึงปฐพี / ยืนงงในดงนารี
“ก็ดี...งั้นกูจะจีบน้องมึง คงไม่เป็นไรใช่ไหม” เจย์เลอร์จงใจใช้คำว่า ‘น้อง’ แทนที่จะเรียกเบบี๋อย่างที่เคย นั่นก็เพื่อให้เท็มป์ตระหนักถึงคำพูดของตัวเองเอาไว้ หากอยากขีดเส้นให้เธอเป็นเพียงน้องสาว ก็ขอให้มันทำตัวเป็นพี่ชายที่แสนดีต่อไปเถอะ
“น้องกูยังเด็ก” คนเป็นพี่แย้งเสียงดุ
“ไม่ใช่! เบบี๋จะสิบเก้าแล้ว เธอเรียนปีหนึ่งแล้วนี่”
“พี่น้องก็ดูแลได้แค่ตัว มึงคงห้ามไอ้เจย์ไม่ได้” กันเนอร์ว่า
“มึงเห็นด้วยกับมันเหรอวะ” เท็มป์ไม่อยากจะเชื่อเลย
“เปล่า! เรื่องนี้ตัวเล็กสิต้องเลือก...เธอโตแล้ว” คนที่ปกติแทบจะไม่ออกความคิดเห็นเอ่ย ก่อนไหวไหล่ใส่ราวไม่ยี่หระกับท่าทีไม่สบอารมณ์ของเท็มป์ นี่มันอะไรกัน! ทำไมจู่ ๆ ไอ้พวกเวรนี่ถึงได้พุ่งเป้าไปหาปั้นหยา ไหนว่าเธอเป็นแค่เด็กน้อยยังไม่โตไง
“หวังว่ามึงคงไม่อยากมีเอี่ยวด้วยนะ” เดม่อนหยั่งเชิงกันเนอร์
“บอกแล้วไงว่าตัวเล็กเป็นคนตัดสินใจ”
“พวกมึงบ้าไปแล้ว จะไม่มีใครต้องเลือกอะไร และตอนนี้แยกย้ายกลับห้องไปได้แล้ว เลิกมาป้วนเปี้ยนที่ห้องน้องกูซะ นี่คือคำเตือนสุดท้าย!” เท็มป์ตัดบท เขาไม่รู้เลยว่าจะเอายังไงกับปั้นหยา ไอ้ความกรุ่นโกรธที่ก่อตัวขึ้นในใจของเขาก็เช่นกัน ไม่เคยโมโหเธอเท่าวันนี้เลย ทำไมเธอถึงให้เจย์เลอร์กับเดม่อนเข้ามาในห้อง ทำไมต้องโกหกเขา!
“หึ! หลีกทางให้กูก็จบแล้ว” ในตอนที่เจย์เลอร์กำลังจะเดินผ่านไป ไอ้ตัวดีก็เอ่ยขึ้นเสียงเบาให้แค่เท็มป์เท่านั้นที่ได้ยิน สายตาของเพื่อนที่บ่งบอกว่าเรื่องปั้นหยาไม่ใช่เรื่องล้อเล่น ทำให้คนฟังยิ่งขุ่นใจ
และเมื่อในห้องเหลือเพียงแค่เขากับเธอ ปั้นหยาที่รู้แล้วว่าเท็มป์ปักสถานะให้เธอเป็นเพียงแค่น้องสาว ก็ทำเพียงเดินไปยังตู้เสื้อผ้า
“หนูชอบไอ้เจย์เหรอ” เจ้าของร่างสูงเดินตามมาคุยให้เข้าใจ เจย์เลอร์แม้จะเป็นคนพูดจาสุภาพอ่อนโยน รูปหล่อ ดูไม่มีพิษภัย แต่ไอ้หมอนั่นเป็นเพลย์บอยตัวพ่อเลยล่ะ เจ้าชู้ชนิดที่เปลี่ยนสาวสามคนในหนึ่งวันยังเคยมี แล้วแบบนี้เขาจะแน่ใจได้ยังไงว่าเพื่อนจะมีใจให้เธอจริง ๆ
“หนูไม่ได้ชอบใครเป็นพิเศษ หนูเป็นน้องสาวของพี่ หนูขอโทษที่โกหกแถมยังปกปิดเรื่องก่อนหน้านี้ แต่เพราะหนูกลัวว่าพี่จะไม่เข้าใจและโกรธหนู ระหว่างหนูกับพี่ ๆ มันไม่มีอะไรเลยค่ะ”
เธอบอกเขาพลางค้นหาเสื้อผ้าในตู้ ก่อนที่สายตาจะเหลือบไปเห็นในกระจกว่าเท็มป์ที่ยืนซ้อนอยู่ด้านหลังกำลังกวาดสายตามองเรือนร่างของเธออยู่ นั่นทำให้ปั้นหยาเม้มริมฝีปากแน่น ก่อนที่สาวน้อยจะคลายปมผ้าขนหนูออก ซึ่งทันทีที่ผืนผ้าร่วงลงพื้นและเปิดเปลือยเนื้อตัวของเธอให้เขาเห็น เท็มป์ถึงกับเบิกตาโต
“ปั้นหยา!”
“ทำไมต้องตกใจด้วยคะ ช่วยเก็บผ้าให้หนูหน่อยไม่ได้เหรอ”
“พี่...” เขาไม่รู้เลยว่านั่นมันประโยคอะไร การเห็นเธอเปลือยกายต่อหน้าต่อตาไม่ใช่เรื่องน่าตกใจเหรอ เท็มป์ราวกับสมองเบลอไปชั่วขณะ เขาทำเพียงโน้มร่างสูงโปร่งลงไปคว้าผ้าขนหนูของเธอ แต่ในจังหวะที่กำลังเงยหน้าขึ้น ปั้นหยาก็หมุนตัวกลับมาพอดี ทำให้ปลายจมูกของเท็มป์เฉียดปลายถันสีหวานของเธอ สาวน้อยถึงกับร่างสะท้านวาบและเผลอร้องครางออกมาเบา ๆ
“อื้อ...”
“พี่ไม่ได้ตั้งใจ พี่...” คนเป็นพี่ชายได้ยินอย่างนั้นก็ละล่ำละลักอธิบาย แต่สายตาที่ถูกความอวบสวยล็อกไว้ ก็ทำให้เท็มป์ยืนตัวแข็งทื่อ
“หนูยังไม่ได้ว่าอะไรสักหน่อย” สาวน้อยเอ่ยเสียงเบา สองแก้มนวลเนียนซับสีระเรื่อเอียงอายอย่างน่ามอง
“งั้นหนูแต่งตัวนะ พี่จะออก...”
“เดี๋ยวค่ะ! พี่เท็มป์เห็นหนูเป็นน้องจริง ๆ เหรอคะ” ยังเอ่ยไม่จบคำสาวน้อยก็ถามมาเสียก่อน ซึ่งคำถามนี้มันไม่เคยยากเย็นเลยหากต้องตอบออกมา แต่วันนี้เท็มป์กลับไม่มีคำตอบให้เธอเสียอย่างนั้น
“หนูแต่งตัวนะ พี่ง่วงแล้ว” เขาบอกเธอแค่นั้นแล้วรีบเดินออกไปทันที เพราะตอนนี้ร่างกายที่มันร้อนราวกับไฟ แถมส่วนที่ไม่ควรจะอ่อนไหวก็ดันชูชันขึ้นมาจนปวดหนึบไปหมด กับปั้นหยาเขาคิดยังไงกับเธอกันแน่ ทำไมวันนี้มันถึงได้น่าปวดหัวขนาดนี้วะ
หลังคนเป็นพี่ชายออกไปแล้ว ปั้นหยาทำเพียงหัวเราะให้กับความหน้าไม่อายของตัวเอง เพราะรู้ว่าหวั่นไหวกับความใจดีของเท็มป์มากแค่ไหน เพราะรู้ว่าไม่ใช่สายเลือดเดียวกันเธอจึงแอบหวังเล็ก ๆ ว่าเขาจะมองเธอเป็นอย่างอื่นบ้าง แต่วันนี้แม้แต่การยืนแก้ผ้าต่อหน้าเขามันก็ไม่ได้ทำให้เท็มป์คิดกับเธอเป็นอย่างอื่นเลย
“พี่น้อง...คงได้แค่นี้สินะ เขาไม่ชอบสินะ” สาวน้อยเอ่ยเสียงเครือ กลีบปากเล็กเผยยิ้มขมขื่นออกมาทั้งน้ำตา