กายสูงใหญ่แต่งกายเต็มศักดิ์ชินหวางอ๋องหันขวับมาตามเสียงทัดทานจากเจ้ากรมพิธีการ ชินหวางอ๋องเล่ออี้มองกลับมาด้วยสีหน้าเรียบเฉยไม่บ่งบอกอารมณ์ใด แม้ใบหน้าไม่ได้บ่งบอกความรู้สึกต่อคำกล่าวของซานฟง แต่ไอสังหารราวกับพญามัจจุราชจากนรกเย็นเยียบแผ่ออกจากกายเขา ดวงตาสีหมึกคล้ายน้ำนิ่ง ร่างสูงสง่ายังยืนอยู่ข้างโลงศพของชายาเอกหวินชิง
ซานฟงหายใจเหนื่อยหอบ บุรุษผู้มีเคราสีขาวผมขาวโพลนภายใต้อาภรณ์ตำแหน่งเจ้ากรมพิธีการแห่งวังหลวงกำลังจับจ้องท่านอ๋องพร้อมสายตาถามหาความยุติธรรม
คนเช่นนาง คนอกตัญญูต่อบ้านเมืองอย่างเลวร้ายที่สุด มีอภิสิทธิ์ใดได้รับชีวิตหลังความตายอย่างสง่างาม สุสานงดงามอลังการยิ่งกว่าสุสานของฮองเฮาทุกพระองค์ อาภรณ์บนร่างนางนั่นอีกเล่าที่แม้แต่อาภรณ์ของทุกสตรีวังหลังรวมกันยังไม่อาจเทียบเคียงชุดส่งศพพระชายาเอกหวินชิง
สิ่งที่ชินหวางอ๋องทำอยู่เรียกได้ว่าตาบอดแล้วตาบอดอีก ตาบอดซ้ำซากเฉกเช่นคนโง่งม
หากนับตามความผิดของนาง ตามกฎแห่งราชสำนัก นางผู้คิดคด สตรีใจบาป ควรตกตายด้วยวิธีการห้าม้าแยกร่างหรือจับใส่กรงหมูถ่วงน้ำให้สาสม เหตุใดชินหวางอ๋องผู้ขึ้นชื่อว่าต้องผดุงความยุติธรรม บริหารราชกิจแทนฝ่าบาทผู้ยังทรงพระเยาว์ถึงได้กระทำการอันอยุติธรรมเยี่ยงนี้
ซานฟงพร้อมเชื้อพระวงศ์ผู้อื่นปรึกษาหารือเรื่องพิธีศพมาหลายครั้งแล้ว แต่จนแล้วจนรอดก็ไม่มีผู้กล้าทัดทานชินหวางอ๋องเล่ออี้ บุรุษผู้ที่ใครก็ทราบดีว่าการขวางทางชินหวางอ๋องเท่ากับรนหาที่ตาย ผู้ไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้ว ผู้ขี้เกียจหายใจจงแส่เข้าไปขวางทางบุรุษผู้ได้ชื่อว่าพยัคฆ์ทมิฬ
เจ้ากรมพิธีการคิดกลับไปกลับมาถึงความเหมาะสมจึงกล้าบังอาจทูลทัดทาน นางผู้ซึ่งประวัติศาสตร์ราชวงศ์เล่อถึงกับลบประวัติไปจากหนังสือบันทึกต้นตระกูลราชวงศ์ จะมีสิทธิ์อันใดได้นอนในสุสานหรูหราเทียมหน้าเชื้อพระวงศ์ผู้อื่น
แม้งบประมาณการก่อสร้างสุสานเคียงใจนี้จะเป็นทรัพย์สินส่วนพระองค์ของชินหวางอ๋องเล่ออี้ แต่หากนึกถึงความเหมาะสมมันไม่เหมาะสมด้วยประการทั้งปวง
ดวงวิญญาณชั่วของสตรีเช่นนางควรลงไปรับกรรมในปรภพ ศพของนางควรตัดหัวเสียบประจาน ทิ้งร่างเน่าเปื่อยให้แร้งกาทึ้งศพจึงจะสมควร
"สิ่งใดเหมาะสมหรือไม่เหมาะสมข้าตัดสินใจเองได้ ต้องรบกวนเจ้าผู้ที่มีศักดิ์ต่ำชั้นมาบอกกล่าวข้าอย่างนั้นรึ" เสียงเยียบเย็นเจือไอสังหารของท่านอ๋องดังขึ้น
"ในยามนี้พระองค์เหยียบยืนอยู่จุดใด ควรทำเช่นไร จึงจะไม่เกิดข้อครหาต่อเชื้อพระวงศ์ผู้อื่นพระองค์ย่อมทราบดี แต่พระองค์ไม่ทำ"
"เจ้ากล้าตำหนิข้า" เล่ออี้แค่นเสียง ดวงตาคมปลาบมองเจ้ากรมพิธีการด้วยแววตายิ้มเยาะ
"หากพระองค์ใช้อำนาจในทางไม่ถูกต้อง ซ้ำกระทำตามใจตนเองใครเล่าจะนับถือ"
"หมายความว่าอย่างไร" ชินหวางอ๋องยังคงสงบนิ่งเหมือนผิวน้ำ
"ดวงจิตอันต่ำช้า ร่างกายอันเปรียบเหมือนอาวุธของอดีตพระชายาเอกหวินชิง ไม่สมควรฝังร่วมกับทุกคนในราชวงศ์เล่อให้เสื่อมเสียเกียรติยศอันภาคภูมิของเชื้อพระวงศ์ผู้อื่นผู้ล่วงลับไปแล้ว หากฝังร่างนางในสุสานราชวงศ์ วิญญาณบรรพชนย่อมไม่มีทางสงบสุข"
รอยยิ้มอ่อนจางปรากฎบนใบหน้าท่านอ๋อง
"สุสานเคียงใจเป็นสุสานของข้า แม้ยามข้าตายร่างข้าย่อมต้องถูกนำมาฝังที่นี่ หากดวงวิญญาณของนางชั่วช้าจนสวรรค์ไม่ให้ไปเหยียบย่างแม้นรกยังไม่เปิดประตูรับ วิญญาณบรรพชนรังเกียจดวงวิญญาณของนางถึงปานนั้น ข้าประสงค์จะกักขังดวงวิญญาณของนางไว้ในสุสาน ทรมานดวงวิญญาณของนางด้วยวิญญาณของข้าทุกชาติภพ"
"พระองค์ยังยืนกรานจะฝังนางในที่แห่งนี้อย่างนั้นหรือพ่ะย่ะค่ะ"
"เมื่อเจ้าพูดเองว่าข้ารู้ดีว่าข้าเหยียบยืนอยู่จุดใด เป็นเจ้าสินะผู้ไม่รู้ตัวว่าตนเองยืนอยู่จุดต่ำต้อยเพียงใด มีสิทธิ์อันใดมาเสนอสิ่งไม่ควร" แววตาเรียบเฉยไร้ซึ่งอารมณ์ มีเพียงวาจาที่คล้ายว่าไม่พอใจ
"กระหม่อมขอคัดค้านอย่างเต็มที่ หากพระองค์จะกระทำผิดต่อวิญญาณบรรพชนย่อมหมายถึงความอกตัญญู อาจเกิดสิ่งเลวร้ายตามมาในภายภาคหน้า วิญญาณบรรพชนไม่เป็นสุข ฟ้าดินพิโรธ จะทำให้บ้านเมืองร่มเย็นได้อย่างไร" ซานฟงคัดค้านยืนยันเสียงแข็งเช่นเดิม
เสียงเชื้อพระวงศ์ผู้อื่นพากันส่งเสียงอื้ออึง แม้แต่เหล่าเชื้อพระวงศ์ยังไม่กล้าทัดทาน ทุกคนต่างรู้ดีว่าผู้ขวางชินหวางอ๋องนั้นย่อมจบชีวิตอย่างรวดเร็วซ้ำศพยังไม่สวยอีกด้วย ใครเล่าจะกล้าเอ่ยปาก ใครเล่าจะกล้าเอาเรือไปขวางลำน้ำเชี่ยว
ยิ่งท่านอ๋องเพิ่งประทานยาพิษให้พระชายาเอกด้วยพระองค์เอง ไม่มีใครรู้เลยว่าสภาพอารมณ์ท่านอ๋องอยู่ในลักษณะใด ควรเอาเท้าเข้าไปแหย่ปากเสือหรือไม่ แม้เชื้อพระวงศ์รวมถึงวงศาคณาญาติไม่เห็นด้วยกับการฝังศพ แต่ทุกคนยังอยากมีชีวิตอยู่ต่อ ไม่มีใครกล้าเอามือค้ำแผ่นฟ้าเช่นเจ้ากรมพิธีการซานฟง
ยิ่งท่าทางเฉยชาของท่านอ๋องที่มีต่อคำแนะนำแกมบังคับอันฟังดูแล้วเสียดใจยิ่งนัก ยิ่งไม่รู้เลยว่าน้ำใต้มหาสมุทรอันนิ่งสงบนั้นเป็นเช่นไร
"ขอขอบใจเจ้ามากนะซานฟง เจ้าช่างภักดีกับบ้านเมืองเสียจริง"
"กระหม่อมไม่อาจทนเห็นความอยุติธรรมอย่างใหญ่หลวงได้"
"ข้าจะตบรางวัลให้เจ้าอย่างงาม ในฐานะเจ้าทำหน้าที่อย่างแข็งขัน"
ซานฟงได้แต่นิ่งค้าง ยืนนิ่งเหมือนตอไม้ ไม่นึกว่าชินหวางอ๋องผู้เหี้ยมโหดเกรียงไกร จะยอมทำตามจารีตโบราณอันคร่ำครึ มันช่างเป็นสิ่งที่น่ายินดีเหมือนพลิกฟ้าในคืนเดียว
ชินหวางอ๋องเล่ออี้เดินเข้าใกล้เจ้ากรมพิธีการ เขาประสานมือในแขนเสื้อ ยืนมองเจ้ากรมพิธีการชั่วอึดใจหนึ่ง
มีดสั้นเงาวับจากในแขนเสื้อเล่ออี้ตวัดเพียงครั้งเดียวบนลำคอของเจ้ากรมพิธีการ เลือดสดคาวคลุ้งพุ่งกระเซ็นเป็นฝอยออกจากบาดแผลลึกบนลำคอที่ถูกตัดขาดอย่างเฉียบพลัน เส้นเลือดใหญ่และหลอดลมขาดสะบั้นเพียงสะบัดข้อมืออย่างไม่ต้องใช้แรง ร่างของเจ้ากรมพิธีการล้มตึงลงบนพื้น เลือดไหลออกจากปากแผลแดงฉานเจิ่งนองพื้นสุสาน
"ทำความสะอาดให้หมดจดอย่าให้เหลือแม้แต่กลิ่นคาว พระชายาข้าคงไม่ชอบใจนัก"
นางกำนัลหลายร้อยชีวิตได้แต่ยืนหน้าซีดราวกับวิญญาณหลุดออกจากร่าง บางส่วนโงนเงนคล้ายจะเป็นลม องครักษ์เกราะทองเข้ามาเก็บกวาดซากศพเจ้ากรมพิธีการเพียงพริบตา เลือดบนพื้นสุสานถูกทำความสะอาดด้วยผ้าชุบน้ำอย่างรวดเร็วจนแทบมองไม่ทัน พร้อมโรยผงหอมดับกลิ่น นางกำนัลวิ่งกรูเข้ามาขัดพื้นจนสะอาดเงาวับดังเดิม
"สุสานนี้มันเป็นสุสานของข้า ข้าจะฝังดวงวิญญาณใดไว้รอข้ามันก็เรื่องของข้า มีใครอยากทัดทานสิ่งใดอีกหรือไม่ ข้าจะฝังมันผู้นั้นไว้รอข้าที่นี่เช่นเดียวกับซานฟง"
เสียงเงียบกริบ ไม่มีแม้แต่เสียงเดียวกล้าคัดค้าน ทุกคนยืนหายใจอย่างยากลำบาก
"ฝังร่างเจ้ากรมพิธีการไว้หน้าสุสาน วิญญาณคุณธรรมย่อมเหมาะกับการเฝ้าสุสานของข้ากับพระชายายิ่งนัก"
เขามองโลงศพแกะสลักของนาง ปากยกยิ้มขึ้นอย่างละมุน
สายตาเหม่อลอยของชินหวางอ๋องจับจ้องมองโลงศพอันงดงาม พิธีการถูกดำเนินต่อไป การส่งศพอย่างยิ่งใหญ่สมพระเกียรติดำเนินต่ออย่างราบรื่น
เขานำมีดสั้นประจำกายกรีดเลือดนางออกมาจากร่างศพ เลือดไหลรินจากปลายนิ้วของพระชายาใส่ในขวดกระเบื้องเคลือบ ชินหวางอ๋องเก็บเลือดของนางใส่ขวดไว้ในอกเสื้อ
"รอพี่ก่อนนะชิงเอ๋อร์"
เสียงแผ่วเบาเปล่งออกจากลำคอเขา มันคล้ายกับไม่ใช่คำกล่าวลา