คุณพงศกรได้แต่ยืนจ้องมองแผ่นหลังของลูกสาวคนโตด้วยความรู้สึกเป็นห่วง แต่เพราะไม่ใช่คนที่พูดจาหวานหูเวลาพูดคุยกับลูกสาวก็เลยเหมือนจะทะเลาะเบาะแว้งกันตลอดเวลา ชายสูงวัยนั่งลงที่เก้าอี้อีกครั้งครุ่นคิดถึงเรื่องอนาคตของลูกสาวกับลูกเขยหมาด ๆ สิงหนาทไม่ใช่คนเลวร้ายเพราะเขารู้จักกับชายหนุ่มมานานหลายปี กับคนอื่นชายหนุ่มเคารพรักเสมอ แตกต่างจากเวลาพูดคุยกับคุณกรกฎและครอบครัวใหม่ของผู้เป็นพ่อมากมายนัก ซึ่งคุณพงศกรก็เข้าใจสิงหนาทเป็นอย่างดี แต่ที่น่าสงสารกว่าคงจะเป็นเพราะสิงหนาทมีแม่ที่เจ้าคิดเจ้าแค้นและสอนลูกมาให้เป็นคนแบบนี้ ทั้งที่เนื้อแท้ของสิงหนาทชายหนุ่มเป็นคนจิตใจที่อ่อนโยน
"แล้วจะต้องเอายังไงต่อไปดีนะ" คุณพงศกรถึงกับกุมขมับ ทั้งที่เพิ่งจะตื่นนอนเมื่อไม่ถึงหนึ่งชั่วโมงที่แล้ว เช้านี้กลับไม่สดใสเหมือนอย่างทุกวันที่ผ่านมาเลย ไม่ชอบเวลาที่รัตติกาลกล่าวหาว่าเขาไม่รักลูก ทั้งที่พ่ออย่างเขาเองรักลูกมากกว่าใครอยู่แล้ว เพียงแค่แสดงออกได้ไม่อ่อนโยนเท่านั้นเอง
ทางด้านสิงหนาทชายหนุ่มตื่นนอนขึ้นมาด้วยอาการที่หงุดหงิดหัวเสีย เพราะคนข้างกายไม่รู้ว่าเธอหายไปไหนแล้วในเวลานี้ สิ่งที่เกิดขึ้นคือความตั้งใจของเขาที่มีมาตั้งแต่ต้น เพราะในความคิดไม่ได้แต่งงานกับรัตติกาลเพียงเพราะกอบกู้หน้าของครอบครัวเอาไว้เท่านั้น แต่เพราะเขามีบางสิ่งบางอย่างที่จะต้องทำให้สำเร็จหลังจากนี้ ก่อนที่เสียงโทรศัพท์มือถือจะดังขึ้นถี่ระรัวจนต้องรีบกดรับสายอย่างไม่รอช้า
"รีบกลับมาบ้านเดี๋ยวนี้ เรามีเรื่องต้องคุยกัน" เสียงปลายสายออกคำสั่ง พร้อมกับกดวางสายไม่รอให้ชายหนุ่มได้ตอบรับคำหรือปฏิเสธแต่อย่างใด
"คิดว่าเป็นพ่อจะสั่งอะไรก็ได้งั้นสิ" เสียงทุ้มสบทขึ้นอีกครั้ง ก่อนจะโยนโทรศัพท์ลงบนเตียงพร้อมกับลุกขึ้นเดินหายเข้าไปภายในห้องน้ำ ชำระร่างกายเพื่อที่จะได้กลับไปยังบ้านหลังใหญ่ที่บิดารอคอยเขาอยู่
เวลา 14:00 น
สิงหนาทเดินทางกลับมายังบ้านหลังใหญ่ของผู้เป็นบิดา ไม่บ่อยครั้งนักที่เขาจะเดินทางมาหาบิดาที่นี่ ก็ตั้งแต่บิดาแต่งงานมีครอบครัวใหม่ บ้านที่เคยอบอุ่น บ้านที่เคยเต็มไปด้วยความรักของวันวานมันไม่ใช่ความทรงจำที่ดีสำหรับเขาอีกต่อไปแล้ว
เป็นจังหวะเดียวกันกับที่รถตู้คันใหญ่เลี้ยวเข้ามาภายในบ้าน สิงหนาทมองแว๊บเดียวก็รู้ว่าเป็นรถที่มาจากสนามบินแน่ ๆ ถ้าให้เดาไม่ผิดคงจะเป็นน้องชายต่างแม่ที่เพิ่งเดินทางมาจากต่างประเทศ สิงหนาทยืนกอดอกจ้องมองรถตู้คันนั้นที่จอดสนิทอยู่ตรงหน้า พร้อมกับประตูรถที่ถูกเปิดออก เผยให้เห็นใบหน้าหล่อที่ดูอ่อนเยาว์กว่าเขาหลายปีนัก นฤเบศร์ยิ้มทักทายคนเป็นพี่พร้อมกับพนมมือยกขึ้นไหว้ด้วยความนอบน้อมเช่นทุกครั้งที่ได้เจอกัน
"สวัสดีครับพี่สิงห์ ขอโทษด้วยนะพี่ผมมาไม่ทันงานแต่งพี่เลย ว่าแต่พี่สะใภ้ผมล่ะอยู่ที่ไหน"
"มาไม่ทันก็ดี ถ้ามาทันแกอาจจะหัวใจวายตายไปแล้วก็ได้ ฉันมีอะไรจะเซอร์ไพรส์แกด้วยนะ หึหึ" สีหน้าที่เรียบเฉยตอบกลับ ก่อนจะหมุนตัวเดินเข้าไปภายในบ้าน ตามติดด้วยนฤเบศร์ที่เดินเข้าบ้านไปพร้อมกัน
ภายในห้องรับแขกของบ้านทั้งพ่อและแม่นั่งรอคอยพร้อมหน้าพร้อมตา ก่อนที่คุณนวลอนงค์และคุณกรกฎจะเดินเข้าไปทักทายลูกชายคนเล็ก โอบกอดกันด้วยความรักใคร่ ลืมแม้กระทั่งที่จะทักทายสิงหนาทที่ยืนอยู่ไม่ไกลเลย สิงหนาทจ้องมองภาพตรงหน้าอยู่เพียงครู่ ก่อนที่เขาจะเบือนใบหน้าหนี ไม่อยากจะยืนอยู่ตรงนี้เลยด้วยซ้ำ
"แกมาก็ดีแล้วสิงห์ ตามฉันก็ไปในห้องทำงานด้วย" คุณกรกฎหันมาพูดกับลูกชายคนโต สิงหนาทหันหน้ากลับมามองอีกครั้งพร้อมกับชักสีหน้าไม่พอใจใส่
"ทำไมต้องให้ผมไปคุยในห้องทำงานด้วย คุยมันตรงนี้แหละ ผมรู้ว่าพ่อจะพูดเรื่องอะไร"
"ฉันบอกให้เข้าไปคุยในห้องทำงานก็ต้องห้องทำงานสิ ธุระส่วนตัวจะคุยตรงนี้ไม่ได้"
"ทำไมครับ พ่อกลัวลูกชายสุดที่รักจะรู้เหรอว่าเจ้าสาวของผมเมื่อคืนคือว่าที่เมียของมันในอนาคต"
สิงหนาทหันกลับไปประจันหน้ากับน้องชาย นฤเบศร์จ้องมองทั้งพี่และคนเป็นพ่อสลับกันไปมา เขาไม่เข้าใจในสิ่งที่สิงหนาทพูดออกมาเมื่อครู่เลยสักนิด
"หมายความว่ายังไง?"
"ไม่มีอะไรหรอก แกเพิ่งมาถึงเหนื่อย ๆ ให้แม่แกพาขึ้นไปพักผ่อนก่อนไป แม่แกเขาบ่นคิดถึงแกมากนะเบสท์ ไปสิคุณนวลพาลูกขึ้นไปพักผ่อน" คุณกรกฎหันไปสั่งภรรยาและบอกกับลูกชายคนเล็กอีกครั้ง
"พี่สะใภ้ของแกชื่อรัตติกาล พฤกษ์ลดากุลนะไอ้เบสท์"
นฤเบศว์ถึงกับมองจ้องหน้าทุกคนสลับกันไปมา ชื่อที่พี่ชายเอ่ยขึ้นเมื่อครู่คือชื่อคนรักของเขา แต่สิงหนาทกลับบอกว่าเธอเป็นพี่สะใภ้ของเขาแล้วมันคืออะไรกันแน่
"ไม่ใช่ลินลดาเหรอครับที่จะมาเป็นพี่สะใภ้ของผม?"
"เบสท์แกฟังพ่อก่อนนะ พอดีมันเกิดเรื่องนิดหน่อย เจ้าสาวก็เลยถูกเปลี่ยนตัวกะทันหัน แต่มันไม่มีอะไรเกิดขึ้นทั้งนั้นเพราะว่าพี่แกแค่แต่งงานให้พิธีมันผ่านพ้นไปด้วยดีเท่านั้นเอง"
สิงหนาทหันกลับไปมองจ้องหน้าบิดาอีกครั้ง ก็รู้ดีว่าคนเป็นพ่อต้องรู้เรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนนี้แล้ว
"รัตติกาลเป็นเมียผมทั้งพฤตินัยและนิตินัยครับพ่อ ไม่ใช่การแต่งงานหลอก ๆ อย่างที่พ่อบอกกับไอ้เบสท์เลย ทำไมเหรอครับกลัวว่ามันจะรับไม่ได้กับความจริงที่เกิดขึ้นหรือไง ถึงต้องชักแม่น้ำทั้งห้ามาพูดเอาใจมันแบบนี้"
"ก็เพราะว่าแกมันไม่เป็นลูกผู้ชาย แกตกปากรับคำกับทุกคนเป็นอย่างดีว่ามันจะมีอะไรเกินเลยเกิดขึ้น แต่สิ่งที่แกทำมันเป็นเหมือนคนไม่รักษาคำพูด แกรักใครเป็นไหมสิงห์หรือว่าแกรักแต่ตัวแกเอง แกไม่สงสารหนูดาวหรือยังไงถึงไปย่ำยีเขาแบบนั้น"
"ผมก็แค่ทำหน้าที่ผัวที่ดี มันผิดเหรอครับพ่อ รัตติกาลเป็นเมียผม เมียที่ถูกต้องตามกฎหมาย ผมบอกเอาไว้ตรงนี้เลยว่าผมจะไม่ยอมหย่ากับรัตติกาลแน่ ๆ พ่อบอกลูกชายสุดที่รักของพ่อด้วยห้ามมันมายุ่งกับคนของผมเด็ดขาด ไม่งั้นผมเอาตายแน่" พร้อมกับปรายสายตาหันไปจ้องมองหน้าน้องชายต่างแม่อย่างผู้มีชัยชนะที่เหนือกว่าอีกครั้ง
นฤเบศร์จ้องมองหน้าพี่ชายยังมึนงงกับสิ่งที่ได้ยินเต็มสองหู รู้สึกชาไปทั้งตัวจนแทบพูดอะไรออกมาไม่ได้แล้วในเวลานี้ ผู้หญิงที่เขารักกลายมาเป็นพี่สะใภ้อย่างไม่ทันให้ตั้งตัวเลย....