เสียงรถบิ๊กไบค์ดังสั่นมาทางเข้าโรงเรียน ฉันหันไปมองก็จำได้ว่าเป็นรถของเพลิง ถึงแม้ใส่หมวกกันน๊อกแต่รอยสักที่แขนขวาทั้งแขน ฉันก็จำได้ว่าเป็นเขา หัวใจฉันอยู่ๆก็เต้นแรงเมื่อสบตากับร่างสูงที่ถอดหมวกกันน๊อคออก เมื่อผู้ปกครองมากันครบก็เข้าไปคุยกันในห้องปกครองเพื่อหาข้อตกลงร่วมกัน แต่เหมือนผู้ปกครองต่างฝ่ายก็ต่างร้อนแรกทั้งคู่ จนตอนนี้จะนักเรียนทะเลาะกันก็เป็นผู้ปกครองทะเลาะกัน ยกเว้นเขาที่นั่งนิ่งเฉย แต่ผู้ปกครองของธีรภัทรไม่ยอมความ เนื่องจากโดนรุม 10 ต่อ 2 ทางโรงเรียนก็พยายามเจรจาไกล่เกลี่ย หม่อยากให้มีเรื่องราวต่อ ฉันกลายเป็นพยานคนสำคัญที่เห็นว่าทั้งคู่โดนรุมต่อยจริง พร้อมทั้งกล้องวงจรปิดจากบริเวณนั้น เมื่อยอมจำนนนต่อหลักฐาน อีกฝ่ายเลยพยายามเสนอเงินเพื่อแลกกับการยอมความ แต่ผู้ปกครองของธีรภัทรก็ยังไม่ยอม เพราะบ้านนักเรียนฉันทั้งสองคนมีฐานะดีทั้งคู่
‘งั้นให้เด็กๆขอโทษกันได้มั๊ยครับ แล้วโรงเรียนสัญญาว่าจะดูแลเด็กๆ ไม่ให้มีเรื่องแบบนี้อีก’ ครูสมคิดหัวหน้าฝ่ายปกครองพยายามเสนอ เพื่อให้เรื่องจบได้แล้ว
‘แน่ใจนะว่าไม่มีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นกับน้องผมอีก นอกจากนักเรียนขอโทษกันแล้ว โรงเรียนก็ควรขอโทษนะที่ดูแลนักเรียนไม่ได้จนเกิดเหตุการณ์แบบนี้’ คำพูดแรกที่หลุดออกมาจากเขา แต่สายตาปรายมามองครูที่ปรึกษา เธอนึกในใจจะโทษเธออีกหรอ จนในที่สุด ก็หาข้อสรุปได้ เป็นที่พอใจ ผู้ปกครองจึงได้กลับพร้อมกับตอนโรงเรียนเลิกพอดี
หลินเธอเหนื่อยมากวันนี้ การที่ต้องมีชีวิตวนเวียนอยู่แต่ห้องปกครองทำให้เธอเสียพลังงานมาก เธอหอบของพะรุงพะรังขึ้นรถเธอที่ได้รับมรดกตกทอดจากพี่ชาย เนื่องจากเงินเดือนครูก็ไม่ได้เยอะ เธอเลยยังไม่คิดซื้อรถคันใหม่ พอเริ่มสตาร์ท เสียงมันดังแค่กๆ ราวกับมันไอ แล้วก็เงียบไป
‘อ้าว เห้ย รถเป็นอะไรอีก เหนื่อยจะแย่แล้ววันนี้ มันวันบ้าอะไรเนี่ย’ หลินพยายามสตาร์ทอีก 2-3 ที แต่ก็ไม่เป็นผล คราวนี้ มันไม่มีเสียงอะไรดังขึ้นมาเลย เธอน้ำตาปริ่มๆ เพราะเหนื่อย รวมทั้งอารมณ์ของคนประจำเดือนจะมา มันนอยๆ วีนๆ ยังงัยไม่รู้ พอเธอลงจากรถ เพลิงกับเพชร ก็ขับรถมาเทียบรถเธอพอดีและเป็นเพชรที่ร้องทักขึ้น
‘ครูรถเป็นอะไรครับ’ เพขรเห็นท่าทีเก้ๆกังๆของครู ก็รู้ได้ทันทีว่ารถครูน่าจะมีปัญหา
‘ไม่รู้อ่ะ พอครูจะสตาร์ทมันดังแคร่กๆ แล้วก็เงียบไปเลย’ เธอพูดด้วยตาแดงก่ำๆ น้ำตาก็คลอๆ เหมือนมาจ่อจะไหลแล้ว ให้ตายเถอะ เธอนอยชะมัด
‘เฮีย ลงไปดูให้ครูหน่อย’ เพชรลงจากรถและบอกให้พี่ชายไปช่วยดูรถครูให้หน่อย เพราะสงสารที่เธอเริ่มจะร้องไห้แล้ว ไหนบอกว่าโตแล้ว เพลิงนึกในใจ เจอแค่นี้น้ำตาก็จะไหลแล้ว ขี้แยชะมัด ตาแดงๆ ทำให้จมูกและปากพลอยแดงชื้นไปด้วย ดูแล้วน่าแกล้ง มากกว่าน่าสงสารนะ
เพลิงลงไปเปิดกระโปรงรถเธอดู ปรากกฏว่าน้ำมันเครื่องเธอแห้งผากมาก เขาคิดว่าปัญหาใหญ่แล้ว ตัวห้องเครื่องของรถน่าจะมีปัญหา ตอนแรกคิดว่าเป็นที่แบต
‘ถ่ายน้ำมันเครื่องล่าสุดตอนไหนเนี่ย’ ชายหนุ่มพูดเชิงทำเสียงดุๆ เข้าก้มลงมองดูห้องเครื่องของรถให้เธอ นักเรียนผู้หญิง ม ปลายที่เดินผ่าน มาส่งเสียงกรี๊ดเขาเป็นแถว หลินนึกขวางตา เขาแก่จะตายอยู่แล้ว เด็กยังชอบอีกหรอ! ชิส์
‘เพชรๆ คนที่ดูรถให้ครูหลิน ใครอ่ะ พี่นายหรอ หล่อจัง สูงก็สูง ขาวก็ขาวๆ’ หลินเชื่อแล้วว่าเธอหัวโบราณไป เธอเกิดในยุคที่โดนสอนมาว่า ผู้หญิงให้เก็บอาการรักนวลสงวนตัว แต่ต่างกับเด็กสมัยนี้โดยสิ้นเชิง ถ้าผู้หญิงชอบเขา ก็สามารถเขาไปจีบ เข้าไปทักผู้ชายได้ก่อน
‘ใช่ พี่เราเอง’ เพชรหันไปตอบสาวๆ แต่หน้าพี่ของเขาบึ้งเหมือนโกรธใครมา
‘เขามีแฟนยังอ่ะ’ หลินถึงแม้ไม่ชอบแต่เธอก็แอบฟัง คำถามของนักเรียนจบเหมือนเธอเองก็ลุ้นไปกับคำตอบด้วย บ้าจริง! ไม่ใช่เรื่องอะไรของเธอ
‘ยัง แต่มีคนที่ชอบแล้ว’ จึก!! ทำไมฉันพลอยรู้สึกไปกับคำตอบแปลกๆ ของเพชรด้วย มีคนที่ชอบแล้วหรอ พอเพชรพูดจบ เพลิงก็หันไปมองหน้าครูสาว ทำไมหน้าเธอบึ้งไป หรือไม่ชอบที่เด็กมาวุ่นวายกับเขา เขาไม่ได้ทำอะไร เด็กนักเรียนพวกนี้มายุ่งกับเขาเอง
‘แบบนี้ต้องลากไปดูที่อู่อ่ะ ที่นี้ไม่มีเครื่องมือ เพชร โทรหาไอโจดิ๊ บอกว่าเอารถสไลด์มาหน่อย’ เพลิงหันมาบอกกับครูสาว พร้อมทั้งสั่งเพชรให้โทรหาลูกน้องเขา
‘กรี๊ดดดด พี่แกเท่มาก กร้าวใจสุด ยิ่งมีรอยสักนะ’ เหมือนนักเรียนหญิงยังไม่เลิกบ้าผู้ชาย แต่ครูอายแทน เหมือนเขาหันมามองเธอ แววตาเหมือนขบขันน้อยๆ
รอสักพักรถสไลด์ที่โจเป็นคนขับก็มา เพลิงให้เพชรเอารถบิ๊กไบค์กลับพร้อมโจ ส่วนคนตัวเล็กเขาให้นั่งรถสไลด์ไปพร้อมกับเขา เธอดูงงๆ ที่ทำไมเขาไม่ให้โจขับรถสไลด์แต่ก็ไม่กล้าพูดอะไร ขึ้นรถไปกับเขาแต่โดยดี เพราะต้องตามไปที่อู่ ไปตกลงเรื่องซ่อมรถและราคากัน หลินคิดในใจเธอทั้งเหนื่อย ทั้งง่วง ทั้งหิว อยากทิ้งตัวลงบนที่นอนจะแย่ รถบ้านี้ ทำไมต้องเสียตอนนี้ด้วยนะ