Chapter 5
...
“น้อง ๆ ดูนี่”
เมื่อมีคนมาสะกิดที่แขน เจ้าขาก็สะดุ้งตกใจจนหลุดออกจากภวังค์เรื่องราวในอดีต แต่แล้วก็ต้องผงะตกใจสุดขีดที่หันไปเห็นชายฉกรรจ์ผิวเข้มหนวดเครารกรุงรัง ส่วนล่างโป๊เปลือยกำลังเอามือชักรูดแก่นกายดำเมี่ยมขนาดสั้นป้อมจนมือสั่น พร้อมทั้งแลบลิ้นเลียขอบปากที่แห้งผาก แล้วมองเจ้าขาด้วยแววตาหื่นกามอย่างน่ากลัว
“กรี๊ด! ไอ้โรคจิต!”
ผัวะ!!
เจ้าขาดีดตัวลุกจากที่นั่งยกเท้าถีบไปกลางเป้าคนโรคจิตสุดแรงตีน
แต่ถึงจะถีบกลางกายคนโรคจิตแรงแค่ไหน เหมือนกับว่ามันไม่รู้สึกจุกเจ็บอะไรเลยสักนิด มันแค่เซถอยหลังไปเพียงเล็กน้อยเท่านั้น อีกทั้งพอมันตั้งหลักได้ มันจ้องเจ้าขาด้วยสีหน้าโกรธเคือง เจ้าขาที่เห็นมันจ้องเขม็งแบบนั้นก็รีบวิ่งหนีทันที
ในขณะที่เธอวิ่งหนีหน้าตั้งไปทางหลังคลับ หวังจะไปอยู่ในที่คนเยอะ ๆ กลับได้ยินฝีเท้าหนักวิ่งตามมาติด ๆ เจ้าขาที่วิ่งไปถึงลานจอดรถ แล้วเห็นซีวิคปลดล็อกรถพอดี เธอจึงเร่งความเร็วสุดฝีเท้าวิ่งไปขึ้นรถของเขาอย่างถือวิสาสะ
“อะไรของหล่อนเนี่ย ลงจากรถพี่ซีวิคเลยนะนังบ้า!!” สาวสวยที่เดินควงแขนซีวิคออกมาจากคลับโวยวายเสียงแหลมปรี๊ดด้วยความไม่พอใจ ที่มียัยแว่นวิ่งมาจากไหนก็ไม่รู้ จู่ ๆ ก็มาเปิดประตูขึ้นรถพี่ซีวิคเฉยเลย และที่ทำให้สาวสวยปรี๊ดแตกจนคีพลุคไว้ไม่อยู่ก็ตรงที่ยัยแว่นไปนั่งเบาะข้างคนขับ ซึ่งที่ตรงนั้นมันควรเป็นที่นั่งของเธอ
“หนูขอไปด้วยคนนะคะ” ก็ไม่ได้อยากขัดจังหวะการสวีตหวานของทั้งคู่หรอก แต่ที่เจ้าขายอมหน้าด้านขอไปกับพวกเขาด้วย เพียงเพราะตอนนี้เธอต้องเกาะกลุ่มอยู่กับคนเยอะ ๆ เพื่อให้ไอ้โรคจิตเลิกตามเธอก่อน
“ไม่ให้ไป!! ลงมาจากรถของพี่ซีวิคเลยนะนังหน้าด้าน!!” สาวสวยคนนั้นดึงแขนเจ้าขาสุดแรงให้ลงจากรถ แต่ทว่าเจ้าขากลับเอามือข้างหนึ่งจับเบาะรถไว้แน่น
ซีวิคที่เห็นสาวสวยนมโตพยายามดึงยัยเด็กแว่นลงจากรถให้ได้ เขาก็เลยดึงมือผู้หญิงคนนั้นออกจากแขนเรียวเล็กของยัยเด็กแว่น จากนั้นเขาปิดประตูรถเพื่อให้ยัยเด็กแว่นอยู่ในรถไปก่อน
“หยุดบ้าได้แล้ว!”
“พะ...พี่ซีวิคว่าเบลเหรอคะ” เบลหน้าเหวอทันทีที่ จู่ ๆ ก็โดนซีวิคต่อว่าทั้งที่เธอไม่ได้ทำอะไรผิดสักนิด คนที่ควรโดนเขาต่อว่าคือนังแว่นหน้าด้านที่นั่งบนรถนู่น ไม่ใช่มาต่อว่าเธอ
“อืม...พี่ว่าเธอนั่นแหละ” ซีวิคตอบกลับด้วยน้ำเสียงนิ่ง
“พี่ว่าเบลทำไมคะ เบลไม่ได้ทำอะไรผิดสักหน่อย”
“เธอไม่ได้ทำอะไรผิดหรอก แต่พี่รำคาญเสียงแว้ด ๆ ของเธอ คืนนี้แยกย้ายกันตรงนี้ก็แล้วกัน”
“แยกย้ายอะไรกันคะ พี่กับเบลยังไม่ได้ทำความรู้จักกันบนเตียงเลย” สาวสวยหน้าอกสะบึ้มขยับตัวเอานมโต ๆ ไปเบียดแขนแกร่งหวังบิลต์อารมณ์ให้ส่วนล่างของเขาตื่นตัว
“ตอนนี้พี่ไม่อยากรู้จักเธอแล้ว” ถึงผู้หญิงคนนี้จะสวยบาดตาบาดใจจนน่าหลงใหลเอามาก ๆ แต่พอเห็นเธอโวยวายใส่ยัยเด็กแว่นด้วยน้ำเสียงแว้ด ๆ จนแสบแก้วหู มันพลอยทำให้เขาหมดอารมณ์เรื่องอย่างว่ากับผู้หญิงคนนี้ไปเลย
“พี่ซีวิค!” เบลเรียกซีวิคเสียงดังพร้อมทั้งกระทืบเท้าอย่างขัดใจที่โดนซีวิคปฏิเสธแบบไร้เยื่อใยสุด ๆ ทั้งที่อยู่ในคลับเขาดูสนใจเธอมาก
“จะตะโกนอะไรหนักหนาวะ หนวกหูชะมัด” ซีวิคปัดมือผู้หญิงคนนั้นออกจากแขนด้วยความรำคาญ จากนั้นเขาก็เดินไปขึ้นรถตำแหน่งคนขับ และเมื่อซีวิคขึ้นรถมาปุ๊บ เจ้าขาก็เอ่ยถามทันที
“แฟนพี่ไม่ไปด้วยกันเหรอคะ” เจ้าขาถามแบบมึน ๆ ทั้งที่เธอก็พอจะรู้ว่าที่หญิงสาวคนนั้นเดินสะบัดตูดเข้าคลับไปด้วยท่าทางกระฟัดกระเฟียดสาเหตุก็มาจากที่เธอขอติดรถไปด้วย แต่จะว่าไปผู้หญิงคนนั้นไม่มีน้ำใจเอาเสียเลย
“แฟนบ้าแฟนบออะไรของเธอวะ ฉันไม่มีแฟน”
“อ้าว...ถ้าเธอไม่ใช่แฟนพี่ แล้วเธอเป็นอะไรกับพี่คะ”
“ฉันจำเป็นต้องตอบเธอด้วยเหรอ?” ซีวิคมองเจ้าขาด้วยแววตาดุ
“หนูก็แค่ถามเฉย ๆ เอง” เจ้าขายิ้มแห้งให้ซีวิคหน้าจ๋อย
“ยุ่งไม่เข้าเรื่อง”
“ขอโทษค่ะ”
“พูดจบแล้ว ก็ลงไปจากรถของฉันซะ”
“ไม่ลงค่ะ หนูเจอโรคจิต” เจ้าขาชี้นิ้วออกไปนอกรถให้ซีวิคดูคนโรคจิตที่ยังยืนมองเธออยู่ห่าง ๆ
“เจอโรคจิตก็เรื่องของเธอสิ มันเกี่ยวอะไรกับฉันวะ ลงไปจากรถของฉันเดี๋ยวนี้”
“อย่าไล่หนูลงจากรถเลยนะคะ สงสารหนูเถอะ” ถึงเขาจะเคยถอดเสื้อผ้าโชว์เธอมาทั้งตัว แต่เขาก็ไม่ได้ดูน่ากลัวเหมือนไอ้คนโรคจิตที่ป้ายรถเมล์ อีกทั้งถึงแม้ระหว่างเธอและเขาจะมีเรื่องกันมาก่อนหน้านี้ แต่นาทีนี้เธอยอมหน้าด้านหน้าทนขอความเห็นใจจากเขา เพื่อให้ตัวเองรอดพ้นจากคนโรคจิตที่แม้เธอจะอยู่บนรถสปอร์ตแล้วก็ตาม แต่มันยังไม่ยอมไปไหน มันยังคงยืนมองเธออยู่ห่าง ๆ
“ทำไมฉันต้องสงสารคนที่ยกเข่ากระแทกลูกชายของฉันสามครั้งในวันเดียว แล้วทำไมฉันต้องสงสารคนที่พูดจาหยามฉันว่าฉันจูบไม่เป็น?” พอได้โอกาสเอาคืน เขาก็ต้องคิดบัญชีกับยัยเด็กแว่นให้หมด
“ที่หนูพูดว่าพี่จูบไม่เป็น หนูขอถอนคำพูดค่ะ ความจริงแล้วพี่จูบเก่งมาก จูบจนแทบจะดูดวิญญาณหนูออกจากร่างเลยค่ะ แต่ที่หนูพูดไปแบบนั้นเพราะหนูโกรธที่พี่จูบหนู”
“เธอมีสิทธิ์อะไรมาโกรธฉัน ทั้งที่เธอเป็นคนหาเรื่องฉันก่อน” จุดเริ่มต้นมันก็มาจากที่เธอผลักเขาออกจากลิฟต์นั่นแหละ ถึงเธอจะขอโทษแล้วก็ตาม แต่เขาก็ยังหมั่นไส้ยัยเด็กคนนี้อยู่ดี
“เอาเป็นว่าหนูขอโทษพี่อีกครั้งนะคะ อย่าถือสาเด็กตาดำ ๆ ที่ไม่รู้ความอย่างหนูเลยนะคะ”
“ขอโทษผู้ใหญ่มันต้องกราบด้วยสิ”
“โอเคค่ะ งั้นพี่เลื่อนเบาะถอยหลังหน่อยค่ะ หนูจะได้กราบบนตักถนัด ๆ”
“กราบสวย ๆ ล่ะ”
“ค่าาา” เจ้าขาตอบรับน้ำเสียงหวาน
“หึ...” ซีวิคกระตุกยิ้มมุมปากร้าย ๆ จากนั้นเขาก็เลื่อนเบาะถอยหลังพร้อมกันนั้นก็ยกแขนกอดอกอย่างผู้ชนะ
“หนูกราบขอโทษด้วยนะคะที่หนูเคยล่วงเกินคุณพี่” ว่าจบเจ้าขาก้มกราบทันที
“โอ๊ย!! ยัยบ้าเอ๊ย ฉันจุก!” ซีวิคร้องโอดโอยเสียงหลงด้วยความจุกเสียดกลางกายที่เจ้าขาเอาหัวของเธอกระแทกกลางเป้าของเขาอย่างแรง
“พี่เป็นไรคะ”
“จุกหรรมน่ะสิถามได้”