ตอนที่ 4 นางใน

917 คำ
อวี้เฟิ่งเดินออกจากห้องนอนในเรือนไม้ของตน ก้าวเดินไปครัวเพื่อทำอาหารกับเหล่าคนครัว วันนี้นางเลือกไก่ตุ๋นโสมแดงไปให้เตี่ยของนางพร้อมกับหมั่นโถว อวี้เฟิ่งและสาวใช้สองนาง พอนางเข้าเรือนเห็นขันทีผู้หนึ่งกำลังส่งราชโองการให้เตี่ยของนาง อีกทั้งพ่อบ้านและบ่าวรับใช้กำลังนั่งคุกเข่า พอขันทีผู้นี้เอ่ยให้พวกเขาตามสบาย พวกเขาจึงลุกขึ้นยืน ขันทีผู้นี้จึงกล่าวกับเตี่ยนางว่า “การคัดเลือกนางในครั้งนี้ อาจจะเป็นครั้งเดียวและครั้งสุดท้ายในสมัยของต้าหวางพระองค์นี้ พระองค์ไม่ชอบให้สตรีเข้ามาอยู่ในวังมากนัก แต่ครั้งนี้พระองค์จะเลือกเพียงหนึ่งเดียวให้มารับใช้ต้าหวาง ขอท่านพิจารณาให้ดีถี่ถ้วนด้วย ขอรับใต้เท้าไป๋” “ข้าขอถามนางก่อน ข้าจะไม่ฝืนใจลูกเป็นอันขาด ถ้านางสมัครใจอีกสามวันข้าจะพานางเข้ากรมพิธีการทันที” “ขอให้ท่านใต้เท้าสุขภาพ ดูแลตัวเองด้วย ข้าเป็นห่วงท่านนะใต้เท้าไป๋” “ขอบคุณใต้เท้าที่เป็นห่วงข้า ข้าก็ขอให้ท่านมีแต่ความสุข” เมื่อไป๋เจิ้นกล่าวจบ หย่งเยี่ยมหาขันทีก้มโค้งคำนับไป๋เจิ้นด้วยความนอบน้อม แล้วเดินออกจากประตูหน้าเรือน อวี้เฟิ่งที่ยืนแอบฟังผู้ใหญ่สองคนพูดคุยกันที่ข้างประตูกับสาวใช้ของนาง ทว่าเตี่ยของนางกลับรู้ว่านางแอบฟังอยู่จึงแสร้งทำเป็นไม่เห็น เรียกอวี้เฟิ่งเสียงดังจนนางสะดุ้งตกใจ “อวี้เฟิ่ง” “เจ้าค่ะ” อวี้เฟิ่งตอบรับด้วยความตกใจ นางจึงก้าวเดินมาในห้องโถงที่บิดาของนางยังอยู่ อวี้เฟิ่งรู้งานจึงเดินไปรินน้ำชาให้เตี่ยทันที “นั่งลงก่อน” เมื่อไป๋เจิ้นกล่าวเช่นนี้นางจึงนั่งลงบนเก้าอี้ ความเงียบจึงปกคลุมรอบห้อง จนกระทั่งไป๋เจิ้นเอ่ยขึ้นก่อน “เฟิ่งเอ๋อร์ เอ่ย เฟิ่งเอ๋อร์ ข้าเลี้ยงดูเจ้าตั้งแต่เหนียงชินของเจ้าจากไป ถ้านางยังอยู่นางคงต้องสอนใจให้เหมือนกุลสตรีเช่นนางเป็นแน่” ไป๋เจิ้นเอ่ยแล้วดื่มชาในถ้วยที่อวี้เฟิ่งเทใส่ไว้ให้ อวี้เฟิ่งอยากฟังเรื่องของเหนียงชินยิ่งนัก นางแทบไม่เคยถามเหนียงชินมาก่อน เพราะกลัวว่าเตี่ยจะคิดมาก นางเคยถามสาวใช้ของนางนามว่าเม่ยเหริน ว่าเหนียงชินของนางเป็นคนเช่นไร อวี้เฟิ่งนึกถึงตรงนี้ ไป๋เจิ้นจึงกล่าวต่อ “เหนียงชินของเจ้านางงดงามดุจเทพเซียนลงมาจุติ นางงดงามทั้งภายนอกและภายในชอบทำบุญให้ทานแก่คนยากจน อีกทั้งนางมีวาจาที่อ่อนหวานและสุภาพเรียบร้อย หมี่เยี่ยนางเป็นลูกของชาวบ้านไม่ใช้ลูกของเหล่าขุนนาง งานในจวนคนจัดการทั้งหมดถึงจะมีสาวใช้ก็ตามที สิ่งใดไม่ต้องใจนาง นางจะรื้อใหม่จัดการจนตนพอใจ นางไม่ค่อยใช้บ่าวรับใช้ นางมีความเมตตาแก่บ่าวรับใช้ จึงเป็นที่รักของคนทั้งจวน ทั้งที่ข้าห้ามนางก็ตาม นางดื้อรั้นเช่นเจ้าไม่ค่อยใส่ใจในคำของข้านัก” “เตี่ยท่านหลอกด่าข้าหรือเปล่า” อวี้เฟิ่งเอ่ยถามแผ่วเบา “เฟิ่งเอ๋อร์ ความจริงแล้วข้าอยากจะพูดกับเจ้าเรื่องการแต่งงานของเจ้า เจ้าก็บ่ายเบี่ยงตลอด ลูกชายของท่านฮัวมาสู่ขอเจ้า เจ้าก็ฉีกหน้าข้าโดยการเอาน้ำชาราดใส่หัวเขา” “ก็เขาเกี้ยวพาข้าอย่างจาบจ้วง ข้าไม่ชอบเจ้าคะ” อวี้เฟิ่งกล่าวด้วยน้ำเสียงหนักแน่น “เฟิ่งเอ๋อร์ ข้ามีเจ้าเป็นเพียงลูกสาวคนเดียว เกอเกอของเจ้าก็เป็นแม่ทัพอยู่ชายแดน ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะกลับมา ตอนนี้เจ้าแต่งงานไป ข้าจะได้สบายใจ” “เตี่ยท่านก็รู้ว่าข้าจะไม่แต่งงานกับใครทั้งนั้น ถ้าไม่ใช่คนที่ข้ารัก” อวี้เฟิ่งกล่าวบอกเตี่ยของนาง แล้วรินน้ำชาใส่แก้วให้เขา “อวี้เฟิ่ง เตี่ยไม่เคยหวังได้ลาภยศหรือเกียรติศักดิ์จากเจ้า ข้ารู้มาตลอดว่าเจ้าชอบต้าหวางพระองค์นี้เป็นอย่างมาก แต่ข้าจะทิ้งให้เจ้าอยู่ในวังอย่างเดียวดายเช่นนี้ได้อย่างไร” ไป๋เจิ้นถอนหายใจยาวๆ ด้วยความหนักใจ ไป๋เจิ้นรู้ดีในวังแก่งแย่งชิงดีกันแค่ไหน เขาไม่อยากให้ลูกสาวเพียงคนเดียวเข้าไปอยู่ในวังตามลำพังก็เพราะเช่นนี้ อวี้เฟิ่งเห็นเตี่ยของนางเป็นเช่นนี้ จึงวางลงบนมือของเขา จึงเอ่ยกล่าว “เตี่ยข้าเทิดทูนและบูชาท่าน ข้าไม่เคยหวังเป็นเพียงนางใน ได้ใกล้ชิดต้าหวาง อีกทั้งข้าอยากแบ่งเบาความกลัดกลุ้มในพระทัย ถ้าข้าทำให้ต้าหวางสบายพระทัยได้ ถือเป็นเกียรติสูงสุดของอวี้เฟิ่งแล้ว ข้ารู้อีกว่าต้าหวางไม่โปรดให้อิสตรีใกล้ชิด ขอเพียงได้รับใช้ต้าหวางชีวิตนี้ ข้าไม่แต่งงานก็ได้ เตี่ยยังมีท่านพี่ที่อยู่ชายแดนตอนนี้เขามีลูกคนที่สามแล้ว ท่านอย่ากังวลเรื่องของข้าเลย” อวี้เฟิ่งเอ่ยขึ้นจริงจัง ไป๋เจิ้นถอนหายใจยาวๆ “เจ้าพูดเช่นนี้ ข้าก็ไม่มีอะไรจะพูดอีกแล้ว อีกสามวันเจ้าเดินทางเข้าเมืองฉางเทียนก็แล้วกัน” “เจ้าค่ะ” อย่าลืมเม้นท์และมอบหัวใจ เป็นกำลังใจให้ไรท์ด้วยนะ
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม