บทที่2เงา 02

1231 คำ
“เสร็จแล้วก็กลับไป” แทนที่ได้รับเอกสารนั้นคืนแล้วจะกลับ ปวริศากลับยังไม่ยอมขยับเท้า ตอนนี้เขาต้องการจะล้มตัวลงนอนเป็นที่สุด เพราะใกล้จะพยุงตัวเองไม่ได้แล้ว ที่ปวริศายังไม่ไป เพราะใจเจ้ากรรมดันอยากจะถามถึงอาการเขาเสียงนั้นก็ต้องกลืนหายไปในลำคอเพราะมีเสียงหนึ่งแทรกขึ้นมา ทำเอาใจเซล้ม “ใครมาหรือคะธร” “พนักงานเอาเอกสารมาให้เซ็นครับ” ถึงภาธรจะไม่เอ่ยชื่อ เสียงที่หวานปานระฆังแก้วแบบนี้หล่อนจำได้แม่นว่าคือ มาติกา…อดีตคนที่เขารักและคงยังรักจนถึงปัจจุบัน เนื้อตัวและหัวใจของหญิงสาวชาไปทั่ว พร้อมกับคำสบถที่ก่อขึ้นในใจ เธอยังเจ็บไม่จำ อยากจะไปห่วงหาเขาทั้งที่เขาไม่เคยต้องการ เธอมันโง่เอง ไม่ได้เจ็บแค่นั้น สถานะที่เขาให้ก็เจ็บไม่แพ้กัน พนักงานส่งเอกสารหรือ... “หรืออยากจะเข้ามา” ไม่พูดเปล่า ภาธรยังคว้าข้อมือเล็กทำท่าจะดึงให้เข้าห้อง สีหน้าแววตาของเขาดูกรุ้มกรุ่มด้วยความร้ายอย่างไม่อาจจะคาดเดาได้ “หวานไม่เข้า” หล่อนสะบัดมือออกแล้วรีบเดินหนี เธอก้าวไปให้ไว้ที่สุดและทันทีที่พ้นจากสายตาเขา หญิงสาวก็เกือบจะทรงตัวไม่อยู่ เจ้าหล่อนก็สูดลมหายใจเข้าลึกแล้วบอกตัวเองว่าอย่าให้เขาชนะ เพราะรู้ว่าบุรุษใจร้ายต้องการจะเห็นหล่อนพ่ายแพ้และแสดงความอ่อนแอออกมา น้ำตาเม็ดกลมใสๆ หยดย้อยมาจากขอบตา แต่ร่างระหงก็ปาดมันออก หญิงสาวทิ้งก้นลงนั่งที่ป้ายรถเมล์ ใช่เธออ่อนไหว แต่ก็ไม่ได้อยากจะอ่อนแอตลอดไป หญิงสาวพยายามปรับอารมณ์และสีหน้า เพราะตระหนักดีว่าความอ่อนแอคืออุปสรรคที่จะให้ชีวิตเดินหน้า ที่สำคัญไม่อยากให้ทุกคนเป็นห่วงและมันอาจจะหลุดลอยไปถึงหูของสรวิศ หญิงสาวกลับมาถึงออฟฟิศได้ไม่ถึงสามชั่วโมงกลับมีสายเรียกเข้าจากใครคนหนึ่ง ทำให้ปวริศาเม้มปากและชั่งใจอยู่นานว่าจะรับสายดีหรือไม่ เพราะสายนั้นคือมาติกา ยอมรับว่าความรู้สึกที่มีต่อมาติกามีมากหลายหลาก ที่โดดเด่นมากคือความอิจฉาและความละอายที่ทำให้ผู้หญิงดีๆ เดินไปในทางที่เสี่ยงอันตราย ทันทีที่ปลายสายกดรับ มาติกาก็รีบพูดด้วยความร้อนใจ “ตอนนี้ธรไม่สบายมากเลยค่ะ ตัวร้อนแล้วก็ปวดหัว” “ค่ะ” ปวริศาไม่เข้าใจว่ามาติกามีจุดประสงค์ใดกันถึงมาบอกเธอ “คุณหวานช่วยมาดูธรให้หน่อยได้ไหมคะ” “คุณป่านดูแลเขาคงจะดีกว่าหวาน” เพราะภาธรคงไม่ได้อยากจะเห็นหน้าเธอ เผลอๆเห็นหน้าจะขับไสไล่ส่งอย่างสาดเสียเทเสีย ทว่าหากเป็นมาติกาเขาคงได้กำลังใจ หายวันหายคืน “ป่านทำไม่ได้ค่ะ ป่านกำลังกลับไปปางไม้” พอได้ยินคำว่าปางไม้ มันก็ทำให้ใจคนฟังมีความรู้สึกผิด ใครๆก็ว่าที่นั่นไม่ต่างจากขุมนรก “หวานขอโทษ...” ริมฝีปากสั่นพร่าเอ่ยบอกจากใจ “ป่านจะยกโทษให้เมื่อคุณช่วยไปดูธรค่ะ” แม้มาติกาอยากจะสวนค้านไปเรื่องหนึ่งเมื่อล่วงรู้ความคิดของปวริศาว่าโทษตัวเองด้วยเรื่องใด แต่ตอนนี้ตอบออกไปแบบนี้จะดีกว่า ปวริศาเงียบ หัวสมองกำลังคิดหนัก “ป่านหวังว่าคุณหวานจะมา” นี่เป็นประโยคสุดท้ายในการสนทนา เมื่อพูดจบมาติกาก็ตัดสายเพราะเธอจำต้องรีบกลับ ก่อนที่ใครบางคนจะรู้ตัว หญิงสาวคิดใคร่ครวญหาคำตอบ มีสองสิ่งที่กำลังต่อสู้กันคือสมองและหัวใจ สติที่มีพร่ำบอกว่าอย่าไปเพราะไม่มีทางที่หัวใจจะไม่เจ็บ แต่หัวใจก็ห่วงหาเขาจนใจจะขาด มากที่สุดคือ การยกโทษของมาติกา เธออยากได้มันมากที่สุด เพื่อให้ความรู้สึกผิดเบาบางไปบ้าง ถึงจะเพียงเล็กน้อยเท่านั้นก็ตาม ในที่สุดก็ทำให้ปวริศาเลือกที่จะไป สองเท้าเดินออกจากออฟฟิศอีกครั้ง ในอีกไม่กี่นาทีต่อมาหญิงสาวก็มาหยุดอยู่หน้าห้องเดิมที่แตกต่างไปจากครั้งที่แล้วคือครั้งนี้ไม่ได้เคาะประตูแต่ไขกุญแจเข้าไปโดยกุญแจมาจากมาติกาที่ฝากไว้ที่นิติบุคคล หญิงสาวมาหยุดที่หน้าเตียงนอน โดยคนที่หลับไม่รู้ตัวสักนิดว่าเธอมา มือบางอังที่หน้าผากแล้วทำให้เกิดความกลัดกลุ้ม เพราะภาธรตัวร้อนจี๋ ปวริศาตั้งใจไปหยิบอุปกรณ์เช็ดตัว พอหมุนตัวไปก็พบว่ามันวางอยู่ที่โต๊ะข้างเตียงแล้ว คงเป็นฝีมือมาติกาและอดคิดเข้าข้างตัวเองไม่ได้ว่านี่คือสาเหตุที่กระดุมเสื้อเขาหลุด มันคงไม่ใช่สาเหตุนี้สาเหตุเดียว…แต่หล่อนไม่มีเหตุผลให้ต้องไปคิด…เพราะเขาไม่ใช่ของเธอและไม่เคยใช่มาตลอด ใจของภาธรไม่เคยโอนเอียงมาหาเธอแม้สักนิด หญิงสาวตัดความคิดฟุ้งซ่านออกจากหัว เรื่องเดียวที่สำคัญในตอนนี้คือลดไข้ของเขา ปวริศาแกะกระดุมชุดนอนออกแล้วค่อยๆไล่เช็ด เธอทำแบบนี้อยู่เป็นระยะๆ พร้อมกับมองกระดาษโน้ตที่มาติกาทิ้งไว้ให้ ‘ป่านให้ธรกินยาไปแล้วตอนเที่ยงตรง’ ตอนนี้ก็ใกล้บ่ายสี่โมงแล้ว โชคดีที่อุณหภูมิร่างกายเขาลดลงจนเป็นที่น่าพอใจ ถึงกระนั้น หญิงสาวก็ยังทำหน้าที่ต่อไป เพียงเริ่มเช็ดได้ไม่นาน ภาธรก็เริ่มขยับรู้สึกตัวขึ้น ทว่าคำแรกที่เขาเอ่ยก็ทำให้หล่อนใจบอบช้ำแล้ว “ป่าน” ทุกนาทีเขาคงมีแต่มาติกา “หวานไม่ใช่คุณป่าน” เป็นจังหวะเดียวกับที่ภาธรลืมตาขึ้นได้ “ไปให้พ้นหน้าซะ” เขาขับไล่น้ำเสียงแข็ง แววตาเผลอแสดงความหงุดหงิดให้เห็น แถมยังลุกจากเตียง ตอนนี้สีหน้าของเขาดูดีขึ้น ชายหนุ่มกำลังกวาดสายตามองไปทั่วๆห้อง “คุณป่านไปแล้ว” หญิงสาวตอบให้กระจ่าง สีหน้าของภาธรจึงเปลี่ยนเป็นดุเข้มกว่าเดิม ก่อนจะเห็นเขาคว้าอะไรบางอย่างขึ้น ทำให้ร้องค้านฉับพลัน “อย่าสูบมันอีกเลยได้ไหมคะ” เขาลดปริมาณลงมากแล้ว เพราะอยากจะเลิกได้หลายเดือน เนื่องจากคำขอทั้งพ่อและแม่ สูบไปก็ไม่ได้มีอะไรดีกับสุขภาพ เรื่องพวกนี้จะให้เลิกในวินาทีนั้นมันเป็นไปไม่ได้ เพราะมันมีสารให้เสพติด ทว่าเหตุใดกันถึงกลับมาสูบหนักอีก ทั้งที่เขาไม่ควรมีเรื่องให้เครียดแล้ว สิ่งที่ต้องการอย่างใบหย่าเขาก็ได้มันไปแล้ว ธุรกิจก็ดีดั่งเดิม “เอาหัวใจของฉันคืนได้ไหมเล่า” เขาตอบพลางมองหน้า “ถ้าทำได้หวานจะเอามาวางแทบเท้าให้เลยค่ะ” หญิงสาวบอกขณะที่ดวงตาวูบไหว ก่อนจะกลั้นใจพูดต่อ “ในเมื่อเลือกจะทำให้หวานเจ็บแล้ว ก็ช่วยดูแลตัวเองดีๆ หน่อยได้ไหมคะ”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม