EP:06 แสนดี

1527 คำ
เช้าวันหนึ่ง ไคโรมาวิ่งออกกำลังกายแต่เช้าตามปกติและก็ไม่ลืมแวะเข้ามาในตลาดสดช่วยแตงกวาและแม่ของเธอนั้นเปิดร้านในตอนเช้า เขาทำแบบนี้เป็นปกติทุกวัน แต่มันไม่ใช่หน้าที่หรอกแค่อยากช่วย ยิ่งแตงกวาและแม่ของเธอดีกับเขาขนาดนี้ เขายิ่งต้องตอบแทน "เอาล่ะๆ ขอบใจมากนะไค แค่นี้ก็พอแล้ว เดี๋ยวให้แตงมันไปจัดเอง" "ครับแม่" "ขอบคุณมากนะพี่ไค" "ครับ นี่จะกลับเข้าบ้านตอนไหน หืม?" "สายๆ เหมือนเดิมแหละ ถามทำไมเหรอ?" "พี่จะชวนเข้าเมือง" "ไปทำอะไร?" "เที่ยวไง เดี๋ยวพี่นัดเวลามาอีกที" "โอเคๆ" ตั้งแต่อยู่ด้วยกันมา คบกันมา ไคโรเป็นคนที่เสมอต้นเสมอปลายมาตลอด ไม่เคยผิดนัด แต่อาจจะมีสายเวลานัดบ้าง แต่เหตุผลก็เข้าใจได้ และมันก็เป็นแบบนี้มาโดยตลอด เรื่องผู้หญิง มือที่สาม นอกใจ แตงกวาไม่ได้คิดเลยเพราะไคโรไม่เคยทำตัวให้เธอต้องระแวง ถามว่ามีผู้หญิงสนใจไหม มันก็มีแหละ เพราะเขาหน้าตาดี หุ่นดี ภาพลักษณ์ภายนอกดูดีหมดเลย แต่เขาก็ไม่ได้สนใจผู้หญิงคนไหนเลย บรืน~ "รอพี่นานหรือเปล่า?" "ไม่นานๆ" "ทำไมใส่เสื้อแขนสั้นล่ะ?" "โป๊เหรอ?" "เปล่าๆ มันจะร้อนน่ะสิ" ไคโรทำทรงบ่นแต่ก็ถอดเสื้อฮู้ดที่ตัวเองใส่มาออกแล้วใส่ให้กับแฟนสาวแทน ปกติแตงกวาชอบแต่งตัวเปิดเนื้อหนัง เสื้อเอวลอย กางเกงยีนส์ขาสั้น แต่วันนี้เขาจะพาออกไปข้างนอก เธอก็เลยใส่เป็นเสื้อยืดธรรมดาและกางเกงยีนส์ขายาว "แล้วพี่ล่ะ?" "ไม่เป็นไร พี่ไม่ร้อนหรอก อย่างมากก็ดำ" "หือ?" "ขึ้นรถสิ" "....." "ไม่เป็นไรหรอก พี่กลัวผิวขาวๆ สวยๆ ของเรามันจะไม่สวย ใส่ไปเถอะ เสื้อพี่ซักแล้ว ไม่เหม็นเหงื่อแน่นอน" "ฉันก็ไม่ได้ว่ามันจะเหม็นสักหน่อย" "....." "เสื้อพี่ตัวใหญ่จัง" ตอนอยู่บนตัวของเขามันก็พอดีนะพอดีตัวเลย แต่พอได้มาอยู่บนตัวของเธอมันใหญ่มาก ใหญ่ยาวคลุมก้นของเธอลงไปมิดเลย "ไปกันเถอะ เดี๋ยวจะร้อน" "อื้ม" ไคโรขับรถพาแตงกวาไปที่ห้างในเมือง ทุกครั้งที่มีโอกาส ทุกครั้งที่ไม่ได้ซ้อมหรือมีวันหยุด เขาก็มักจะพาเธอไปเที่ยวแบบนี้เป็นประจำอยู่แล้ว "กินอะไรกันดีวันนี้" "ดูหนังกันก่อนมั้ย ฉันอยากดูหนัง" "เอาสิ เรื่องอะไร?" "หนังผีๆ" "โอเค" เขาตามใจ ถึงจะรู้ว่าเธอกลัวผีมากก็เถอะ แต่ในเมื่อเธออยากดู ก็ตามนั้น... ...สักพักต่อมา "กรี๊ด!!" เสียงของเธอดังกว่าใครๆ แถมนั่งขดตัวคว้าแขนล่ำๆ ของไคโรไปกอดไว้แน่นอีกต่างหาก กลัวผีแต่ก็อยากจะดูหนังผี ไอ้เขาก็ไม่ใช่คนขัดใจใครด้วยสิ "กรี๊ดฮือ...~" "ชู่วแตง อย่าเสียงดัง" "ฮือ ก็มันกลัวนี่" "รู้ว่ากลัว แต่เดี๋ยวเค้าจะไล่ออกจากโรงหนังเอานะ" พอถูกเตือนเธอก็พยายามไม่ส่งเสียงดังมาก แต่ก็ยังกลัวเหมือนเดิมแหละ จนกระทั่งหนังจบ แตงกวาก็รีบเดินออกมาทันที "กลัวผี แต่อยากดูหนังผีเนี่ยนะ" "ก็ใครจะไปคิดว่ามันจะน่ากลัวขนาดนี้" "ไปกินอะไรต่อดี?" "ชาบู" "โอเคครับ" "พี่ไค กินชาบูกันแล้ว เราไปกินไอติมกันต่อนะ" "หึหึ ได้สิ เรื่องกินเนี่ยไม่แผ่วเลยนะ" "แหงล่ะ มันอิ่มนี่" เวลาเขาซื้อของมาให้ก็เกรงใจ ไม่อยากให้เขาซื้อ แต่เรื่องของกินเธอไม่ปฏิเสธหรอก เพราะมันทำให้อิ่มไง "กินเก่งแบบนี้ แปลกนะไม่อ้วน" "ระบบเผาผลาญดีก็งี้แหละ" "จ้า" "พี่ไคไม่กินเหรอ" "เห็นเรากินได้ พี่ก็อิ่มใจแล้วล่ะ" "อย่าบอกนะว่าที่ไม่กินเพราะไม่มีตังค์จ่าย?" "หึหึ คิดได้นะเรา พี่อิ่มแล้ว กินเยอะไม่ค่อยได้" "อ้อ ลืมไปว่าพี่เป็นนักมวยต้องรักษาสมดุลร่างกาย" "อร่อยไหม?" "อร่อยค่ะ" "ก่อนกลับก็ซื้อโดนัทกลับไปฝากแม่ด้วยนะ" "ค่ะ แต่แม่บอกว่าไม่ต้องซื้อเยอะ กินไม่หมดค่ะ มันเสียก่อน" "โอเคครับ" พอนั่งกินชาบูกันจนอิ่มแปล้ ทั้งสองก็จูงมือกันเข้าร้านไอติมที่อยู่ใกล้ๆ กินของคาวไปแล้ว มันก็ต้องตบท้ายด้วยของหวานจริงไหม "อื้อ ก่อนหน้านั้นเหมือนเราจะบอกว่า ไปสมัครงานมาใช่ไหม แล้วเป็นยังไงบ้าง" "ไม่ผ่านค่ะ ประสบการณ์ไม่มี" "แล้วที่อื่นล่ะ?" "ยังรอพิจารณาอยู่ค่ะ" "นานแฮะ" "เค้าก็คงมองว่า ไม่เคยทำงาน ไม่มีประสบการณ์มาก่อน แต่ก็ไม่รู้จะปฏิเสธยังไง เลยบอกว่ารอพิจารณาอยู่" "ไม่เป็นไรหรอก เดี๋ยวก็คงมีงานที่เหมาะกับเราเข้ามาเอง" "ค่ะ" ไม่ได้งานก็ไม่ได้ซีเรียสอะไรหรอก ก็ดีเหมือนกัน เพราะเธอจะได้อยู่ช่วยงานแม่ เพราะตอนนี้แม่ของเธอก็ยังหาผู้ช่วยไม่ได้เหมือนกัน ดีไม่ดี เธอคงกลับมาคิดแบบเดิม ที่ไม่คิดจะทำงาน แต่ก็ไม่ได้จะอยู่เฉย เพราะแค่ช่วยงานแม่เธอก็วุ่นวายอยู่แล้ว "พี่ไค" "หือ?" "พี่เรียนจบอะไรมา เคยคิดอยากจะทำงานอย่างอื่นบ้างไหม" "ไม่รู้สิ ก็คงไม่อยากมั้ง อยู่แบบนี้ก็ดีนะ" "ต้องชกมวย แล้วเจ็บตัวกลับมาตลอดเนี่ยนะดี" "พี่ก็ไม่ได้คิดจะทำไปทั้งชีวิตสักหน่อยแตงกวา" "พูดตามตรงนะ เวลาเห็นพี่เจ็บตัวกลับมา ฉันใจคอไม่ดีทุกครั้งเลย แต่ก็ดีใจที่อย่างน้อยพี่ก็ยังกลับมา แต่ถ้าวันนึงมันไม่โชคดีล่ะ" "กลัวเหรอ หืม?" "กลัวสิ พี่เป็นแฟนของฉันนะ" "พี่สัญญาว่าพี่จะดูแลตัวเอง และทุกครั้งที่ได้ชกมวย พี่จะชนะกลับมา" "เฮ้อ..." มันก็น่าแปลกนะที่ความคิดของเธอและเขามันแตกต่างกันขนาดนี้ แต่ก็ยังเข้าใจกันได้ และก็ไม่เคยมีปัญหาที่ถึงขั้นทะเลาะเลิกรากันไป @เวลาต่อมา "วันนี้ฉันอิ่มมาก ขอบคุณนะที่พาไปเลี้ยง" "ครับ" "อยู่กินข้าวเย็นด้วยกันก่อนไหม" "ไม่เป็นไร พี่ต้องรีบกลับ ต้องไปรายงานตัวน่ะ" "จะมีชกมวยอีกแล้วสินะ" "พี่ไปก่อนนะ" "ขับรถกลับดีๆ ค่ะ" เพราะแบบนี้สินะ เขาถึงได้พาเธอเที่ยวบ่อยขนาดนี้ เธอน่าจะคิดได้ตั้งนานแล้วสิ น่าจะเอะใจตั้งแต่แรกแล้ว เพราะปกติก็ไม่ได้ชวนกันไปที่ไหนบ่อยเท่าไหร่ "กลับมาแล้วค่ะแม่ พี่ไคซื้อขนมมาฝากด้วย" "ไปไหนซะแล้วล่ะ กลับแล้วเหรอ?" "ค่ะ ต้องรีบกลับไปรายงานตัวค่ะ" "หน้าบูดทำไมนั่น เพิ่งกลับมาจากเที่ยวแท้ๆ" "แม่" "หือ?" "ตอนที่แม่คบกับพ่อ เคยมีความคิดที่ไม่ตรงกันไหมคะ แล้วจัดการยังไง ทะเลาะกันหรือเปล่า" "เราก็แค่ค่อยๆ ปรับตัว พ่อกับแม่ก็มีหลายอย่างที่ไม่ตรงกันเหมือนกัน แต่เราก็แค่ปรับตัวเข้าหากัน" "แต่แตงปรับตัวไม่ได้ค่ะ" จะบอกว่าเห็นแก่ตัว หรืออคติ หรือความคิดอะไรก็แล้วแต่ ที่มันทำให้เธอมองอาชีพนี้เปลี่ยนไป หรือแค่เพราะเธอไม่ชอบความรุนแรง เธอก็เลยอคติ "ไม่อยากให้พี่เค้าชกมวยเหรอ?" "แตงเข้าใจนะ ว่ามันเป็นอาชีพของเค้า" "เข้าใจ แล้วทำไมถึงทำหน้าแบบนี้" "แต่ทุกครั้งที่เค้าไปชกมวย เค้าก็เจ็บตัวกลับมาตลอดเลย ทุกครั้งที่เค้ากลับมาแตงรู้สึกดีใจแค่ว่า อย่างน้อยเค้าก็ยังมีชีวิต แต่ถ้าวันนึงมันไม่ได้โชคดีแบบนี้ล่ะแม่" "มันไม่เป็นอะไรหรอก อาชีพนี้ถึงมันจะดูรุนแรง แต่เขาก็มีกติกาอยู่ ไม่มีใครเค้าเล่นถึงตายหรอก" เธอเองก็พยายามคิดแบบนั้นเหมือนกัน แต่ทุกครั้งที่แฟนหนุ่มสะบักสะบอมกลับมา เธอรู้สึกว่ามันรุนแรงเกินเลยไปมากกว่านั้น เหมือนคิดจะเอาชีวิตกันมากกว่าเลย เนื้อตัวช้ำ หน้าตาก็เขียวปูด กว่าจะหายดี กว่าจะรักษาตัวเองได้ ก็ใช้เวลานานอยู่เหมือนกัน เขาไม่คิดจะรักตัวเองบ้างเลยหรือไง รักชีวิตของตัวเอง ทำไมชอบทำเหมือนกับว่าชีวิตของตัวเองมันไม่ได้มีอะไรแล้ว ต่อให้เจ็บตัว หรือตายไป มันก็เท่านั้น ทำไมชอบทำเหมือนว่าชีวิตตัวเองไม่มีความหมายกับใคร ถึงได้ถวายให้กับความรุนแรงไปหมดขนาดนั้น "อย่าคิดมากเลยลูก" "แตงจะพยายาม"
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม