6
เด็กวุ่นวาย
เธอสามารถรับรู้ได้ถึงความชอบและไม่ชอบ แล้วตอนนี้ก็ชอบใบหน้าไร้ที่ติของเขาจนไม่อยากหยุดมอง
“เธอมองเห็น?”
ใบชาพยักหน้าหงึกๆ ขณะที่ตายังมองหน้าเขาอยู่
“รู้รึเปล่าตัวเองชื่ออะไร” พอเขาถามเสียงนิ่งใบชาจึงง่วนคิดทันที เธอนึกได้ว่าเธอชื่อใบชา แม่ชื่อสริญญา หรือสริญ ส่วนพ่อชื่อพลพัฒน์ หรือพัฒน์ ท่านทั้งสองไม่อยู่แล้ว นี่คือสิ่งที่มีในสมองเท่านั้น
“ใบ... ชา”
หมอปรินซ์พยักหน้า แสดงว่าความทรงจำเธอยังพอมีอยู่บ้าง
“จำได้ไหมว่าเกิดอะไรขึ้น”
“...”
ใบชาพยายามนึก แต่ก็นึกไม่ออก และเขาก็ไม่เร่งรีบถามต่อ พอประเมินร่างกายและสมองมีการตอบสนองดีแล้ว ก็ค่อยๆถอดสายระโยงระยางตามตัวออกไป บางอย่างทำให้เธอรู้สึกเจ็บอยู่บ้าง แต่ก็พอทนได้ เพราะเอาแต่มองหน้าเขา
ในใบหน้านั้นมีความไว้ใจ ความสบายใจซ่อนอยู่ และคำพูดของพ่อก็ยังวิ่งอยู่ในหัว
‘พามาส่งให้คนที่ดูแลลูกสาวพ่อได้ไงลูก’
คนนี้รึเปล่า...
เธอเอียงคอมองหน้าเขา
และเมื่อคุณหมอหนุ่มถอดอุปกรณ์ทุกอย่างออกหมด เหลือแค่ตัวเธอที่นอนอยู่บนเตียง เขาก็กดปรับเตียงให้เธอนั่งเอนหลัง ถ้าไม่เห็นรอยเชือกที่คอเธอก็ไม่ต่างจากคนปกติทั่วไป ดวงตากลมโตไล่มองสำรวจทุกสิ่ง มองตัวเอง มองหมอปรินซ์ จากนั้นก็ยิ้มให้เขา
แต่เขาไม่ยิ้มตอบ คว้าขวดน้ำบิดแกร๊กแล้วใส่หลอดส่งให้เธอ
“แค่กๆ” ใบชารีบดื่มจนสำลัก
“อย่ารีบ”
“หิว ใบชาหิวค่ะ” เธอรู้จักความหิว เพราะมันเป็นปฏิกิริยาของร่างกาย หมอปรินซ์จดทุกอย่างใส่สมองไว้ หนูทดลองของเขาพอได้ดื่มน้ำชุ่มคอก็พูดได้มากขึ้น แต่ทว่าคนเป็นหมอที่รู้กลไกของร่างกายมนุษย์แอบอึ้งเล็กน้อย
ทำไมเธอหายเร็วยิ่งกว่าคนเป็นไข้หวัด?
“ขยับเท้าได้ไหม” ใบชาที่จับหลอดดูดน้ำขยับเท้าไปมาดุ๊กดิ๊ก
“แบบนี้เหรอคะ”
“อืม”
“ทำได้ค่ะ”
“จำอะไรได้ไหม นอกจากชื่อตัวเอง” เธอพยักหน้า
“จำได้ค่ะ ชื่อพ่อแม่และก็... เจ้าชาย” ปรินซ์ขมวดคิ้ว เพราะไอ้เจ้าชายเนี่ย เธอพูดมันคำแรกๆที่ฟื้นขึ้นมา
“เจ้าชายอะไร?” ใบชาปล่อยหลอด และค่อยๆยกมือชี้มาที่เขา นายแพทย์หนุ่มหลุบตามองตามนิ้วสวย จากนั้นถอยออกเล็กน้อยเมื่อนิ้วนั้นใกล้ตัวเขาเกินไป
“คุณคือเจ้าชาย...” เขาถอนหายใจออกมาทันที
“สมองกลับไปเลยสินะ”
“คะ?”
“ฉันเป็นหมอ ไม่ใช่เจ้าชาย” นิ้วชี้นั้นชี้กลับมาที่ตัวเอง
“แล้วใบชาล่ะคะ เป็นอะไร”
“เป็นศพ-_-” เธอยกมือเกาหัวเบาๆ
“เอ๊ะ ศพคือ... อะไร”
ปรินซ์รับรู้ได้ในทันที การฟื้นขึ้นมาของหนูทดลองตัวนี้ไม่ปกติ เธอลืมไปหลายสิ่ง และเหมือนจะต้องเรียนรู้ทุกอย่างใหม่อีกครั้ง เขาไล่ถามว่านาฬิกาที่แขวนอยู่เรียกว่าอะไร เธอไม่รู้จัก ถามว่าหลอดไฟคืออะไร เธอไม่รู้ เสื้อผ้าก็ไม่รู้ ไม่รู้อะไรเลยนอกจากความรู้สึก ชอบ และ ไม่ชอบ
“ชอบ หน้าคุณหมอ” เธอชี้มาที่หน้าเขาอีกครั้ง แต่เขาไม่สนใจ
“รู้สึกหิวไหม?”
“หิวค่ะ” และนี่ก็คืออีกอย่างที่รู้ ใบชาค่อยๆเปิดผ้าห่มออก เธอมองตัวเองที่อยู่ในชุดผูกอกหลวมๆ จากนั้นค่อยๆลุกขึ้นนั่ง แล้วเอียงตัวหย่อนขาลงข้างเตียง
“คุณหมอ ใบชาอยากเห็นหน้าตัวเองค่ะ”
หมอปรินซ์เดินไปคว้ากระจกให้ เมื่อรับไปส่องมือเรียวสวยก็ค่อยๆยกสัมผัสใบหน้าตัวเอง จากนั้นเชิดหน้าขึ้น... ใช้ปลายนิ้วเคลื่อนไปที่ลำคอขาวผ่องที่มีรอยช้ำเป็นเส้นๆ
“อันนี้... รอยอะไรคะ”
เขาไม่แน่ใจว่าจะบอกเธอไปตรงๆดีไหม เพราะไม่รู้ว่าระดับอารมณ์ใบชาอยู่ที่ระดับไหน
“ไว้เธอแข็งแรงขึ้นฉันจะบอก”
“ใครทำ หรือใบชาทำเอง”
“เหี้ยทำ”
เขาตอบมาด้วยน้ำเสียงนิ่งเรียบ จนเธอเอียงคอเล็กน้อยอย่างสงสัย แต่ไม่นานก็ลืมไปเพราะสนใจหน้าตัวเองในกระจก จริงๆแล้วเธอชอบหน้าตัวเองมาก ยกเว้นรอยตรงนั้น มันขัดตาขัดใจไปหน่อย
“รอยนี้มันจะหายไปไหมคะ”
“หาย แต่ต้องใช้เวลา”
“เวลายังไงคะ”
“อย่าถามมาก พูดจ้อไม่หยุด”
ใบชากะพริบตาปริบๆมองตามคนตัวสูงขี้รำคาญเดินออกไปจากห้อง เขาไม่ชอบให้ใครเซ้าซี้ ไม่ชอบอธิบายอะไรซ้ำๆ แต่สุดท้ายสองเท้าก็ชะงักฉุกคิดขึ้นมา เดินหนีเธอเหมือนหนีคนอื่นไม่ได้ ยัยนั่นเพิ่งฟื้น
สุดท้ายนายแพทย์หนุ่มก็ถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่าย แล้วเดินกลับไปใหม่ด้วยใบหน้าสุดเบื่อสุดทน
แต่กลับมาอีกทีใบชาก็ยืนอยู่ข้างเตียงแล้ว ปรินซ์มองชุดที่ลุ่ยตกลงมาและคอเสื้อกว้างเห็นเนินอก ยิ่งเสื้อของเธอเป็นเสื้อที่สามารถผูกได้จากข้างหน้า ไม่ผูกสักเส้นก็โป๊แล้ว
แถมเธอไม่ใส่บรา เห็นเนินอกไม่พอ ยังเห็นจุกน่ารักนูนขึ้นมาจากเสื้อด้วย
“ลุกขึ้นมาทำไม?”
“อย่าเดินหนีค่ะ ใบชาอยากคุย”
“แล้วเดินได้ไหม” เธอก้มมองเท้าตัวเองเล็กน้อย
“ก้าวขามา เดินมาหาฉัน” เรียวเท้าสวยค่อยๆยกก้าวไปข้างหน้า ตัวที่เอนไปโยกมาทำให้ร่างสูงก้าวมาหาเธอร่นระยะทาง
แต่แล้วก็เป็นไปตามคาด
“ว้าย”
แขนยาวๆของเขาคว้าจับเธอไว้ทันที ก้นนุ่มนิ่มเลยยังไม่ถึงพื้น จากนั้นหมอปรินซ์ก็ค่อยๆพยุงเธอขึ้น ก้มมองก็เห็นนม แขนก็โดนนม บ้าฉิบ! และเธอก็ไม่ปัดป้องหรือระวังตัวเองเลย
“วันหลังต้องใส่บรา-_-” พอยืนขึ้นได้ คุณหมอหนุ่มก็รีบบอกทันที
“บราคือ?”
สายตาเขามองไปที่หน้าอกเธอ แต่เจ้ากรรมนายเวรดลบันดาล เธอมองตามเขาแล้วจับเสื้อเปิดขึ้นพรึบ!
“อะไรคะ อันไหนคือบรา”
หมอปรินซ์หันไปทางอื่นยกมือกุมขมับ เขาสบถแปดพันรอบในหัว เพราะเห็นเต็มสองตา
“อันไหนคือบราคะคุณหมอ”
“เธอไม่รู้จักบรารึไง!” กัดฟันถามกลับไปแต่ยังไม่หันไปมอง
“ไม่รู้ค่ะ บอกหน่อยมันคืออะไร”
“เอาเสื้อลง แล้วอย่าเปิดเสื้อให้ใครดูแบบนั้นอีก”
ใบชาปล่อยชายเสื้อลงเขาถึงหันมา ถึงจะไม่ค่อยอยากดูแต่สมองก็เสือกจำดี นมเต็มอกเด่นซะขนาดนั้นคืนนี้เขาจะนอนหลับไหม แต่เขาต้องสอนเธอใหม่ทุกๆอย่าง คุณหมอหนุ่มจึงตั้งสติเรียกความอดทนอันน้อยนิดกลับมาอีกครั้ง แล้วจ้องหน้าซื่อๆของเธอ
“เดินมาใหม่”
เธอยิ้ม แล้วค่อยๆเดิน ทว่ารอบนี้ได้ผลเพราะเธอไม่ได้โฟกัสที่เท้าเกินไป ใบชามองหน้าคนยืนอยู่จึงทำให้คลายกังวลได้ และเมื่อเดินไปถึงเธอก็จับแขนเขาไว้ จนสายตานิ่งเรียบหลุบมองมือที่จับแขนตัวเอง
และจากนั้นก็มองหน้าที่ยิ้มแป้น
“แหะๆ เดินได้แล้วค่ะ^^”
“งั้นเดินตามมา”
เขาพาเธอออกไปโดยยอมให้จับแขนและเดินเคียงข้างกันไปแบบนั้น ใบชามองรอบๆห้องแล็บเหมือนเขาเป็นครูและพาเด็กอนุบาลมาทัศนศึกษา จนเธอเดินผ่านกรงหนูทดลองเห็นหนูวิ่งอยู่ในวงล้อ มือสวยที่จับแขนก็กระตุกแขนเขาทันที
“อะไรอีก”
“อันนี้อะไรคะ?”
“หนู” เธอยิ้มให้มัน แล้วหันมายิ้มให้เขา
“ชอบ น่ารัก”
“มันก็เหมือนเธอ”
“เหมือนยังไงคะ”
“เป็นแค่เครื่องมือทดลองของฉัน”
เธอไม่รู้ว่าคืออะไร และไม่ทันได้ถาม เพราะเขาพูดจบก็หยิบเมล็ดทานตะวันแห้งในซองส่งให้ จากนั้นหยิบอีกเมล็ดป้อนให้ดู ใบชาจึงทำตาม... ค่อยๆสอดเมล็ดทานตะวันป้อนเข้าไปในซอกกรงนั้น
เมื่อสองมือของเจ้าหนูรับไปและรีบแทะ ริมฝีปากสวยก็ยิ้มกว้างขึ้นอย่างมีความสุข อากัปกิริยาของเธอที่มีต่อสิ่งต่างๆอยู่ในสายตานายแพทย์หนุ่ม ผู้หญิงคนนี้กลับไปเป็นเด็กอีกครั้งรึไง
เด็กโง่
“ชอบจังค่ะ ชอบตัวนี้”
“อืม ตามมา”
เขาเดินนำไปอีก คนจับแขนไม่ปล่อยเลยจำเป็นต้องเดินออกไปตาม ถามทุกอย่างว่าอันนั้น อันนี้คืออะไร ปรินซ์แทบหัวจะระเบิด และเขาก็ได้รู้ว่าหลังจากนี้ต่อไปเขาไม่สงบสุข ไม่มีชีวิตสันโดษอีกแน่ๆ คิดว่าเธอจะนอนเป็นผักบนเตียงยาวๆแต่ผิดคาด
เขาพาเธอไปนั่งที่โต๊ะอาหาร และจับมือที่จับแขนอยู่ออกก่อนจะเดินไปที่ครัวเปิด แต่เดินยังไม่ถึงไหน คนตัวเล็กก็รีบลุกขึ้นวิ่งไปจับแขนหมับ ซบแก้มมาที่แขนเขามองรอบๆบ้านที่ออกไปทางมืดอย่างหวาดระแวง
“อย่าทิ้งใบชา อย่าไป” เขาจับมือเธอออกทันที
“อยู่ในบ้านไม่มีอะไร กลับไปนั่งซะ”
“กลัว”
อยู่ๆก็รู้สึกกลัวขึ้นมา คล้ายกับว่าซ้ายขวาหน้าหลังมีความอันตรายวิ่งเข้ามาหาได้ทุกเมื่อ หมอปรินซ์ก้มมองมือที่จับแขนเขาอีก และมองคนตัวเล็กแค่ไหล่ที่ยังกวาดตามองรอบๆบ้าน เขาเหนื่อยกับเธอจริงๆอยากอุ้มไปทิ้งที่ถังขยะให้รู้แล้วรู้รอด
แต่สุดท้ายก็ยอม... กดเปิดไฟให้สว่างขึ้นทั้งที่ไม่ชอบมันเท่าไหร่ ก่อนที่จะดึงมือเธอกลับไปนั่งที่เดิม
“นั่งอยู่เฉยๆ อย่าวิ่งอีก ในนี้มีแค่เธอกับฉัน”
“คุณหมอจะทำอะไรคะ?”
“ทำอาหารให้เธอกิน”
อาหาร? ยากจัง ไม่รู้ว่าที่เขาพูดหมายถึงอะไร แต่ก็เลือกเงียบไว้รอดูว่าคนตัวสูงที่เดินกลับไปยืนหลังเคาน์เตอร์จะทำอะไรต่อ
ระหว่างที่ตามองใบชาก็คอยลูบแขนตัวเองไปด้วย ตอนนี้เธอรู้สึกเหนียวตัวเล็กน้อยเพราะไม่ได้อาบน้ำมานาน อีกทั้งผ่านห้องชันสูตร นอนในโลงศพ จนมานอนเปื่อยบนเตียงในห้องแล็บ
หมอปรินซ์แอบเหลือบมอง
คงอยากอาบน้ำสินะ...
ถ้าอาบไม่เป็นแล้วต้องถึงมือเขา ส่วนไหนของเธอจะทิ่มตาเขาอีก?