2อาทิตย์ต่อมา
ก๊อกๆๆ
เสียงเคาะประตูดังขึ้นเบาๆหนึ่งครั้ง
ก่อนที่ประตูห้องจะถูกแง้มออกอย่างช้าๆ
“พี่…”
เสียงใสๆของอัลมอนด์ ดังขึ้นตามมา
น้องสาววัย14ปีในชุดนอนลายการ์ตูน เดินเข้ามาอย่างเงียบๆ พร้อมหมอนข้างในอ้อมกอด
แอลลี่ที่กำลังเก็บของใส่กระเป๋าเดินทางอยู่บนเตียงเงยหน้าขึ้น
“อัลมอนด์ ยังไม่นอนเหรอดึกแล้วนะ”
น้องสาวพยักหน้าเบาๆ ก่อนเดินเข้ามานั่งข้างพี่สาว
สีหน้าเธอไม่เหมือนทุกครั้งที่มักมาชวนคุยเรื่อง TikTokหรือการ์ตูน
แต่ครั้งนี้แววตาดูซึมๆแปลกไป
“พี่จะไปเรียนกรุงเทพจริงๆเหรอ”
เสียงถามเบาๆปนสั่นเครือ ทำเอาแอลลี่ชะงักไปชั่วครู่
มือที่กำลังจัดเสื้อผ้าอยู่หยุดนิ่ง
“อื้อ พี่สอบติดแล้วไงคะ คณะที่อยากเรียนด้วย”
อัลมอนด์ก้มหน้านิ่ง ก่อนจะพูดออกมาทั้งที่ยังไม่เงยหน้า
“หนูไม่อยากให้พี่ไปเลย จะไม่ได้เจอพี่ทุกวันแล้วนี่นา”
แอลลี่ค่อยๆวางเสื้อผ้าลง แล้วหันมาโอบไหล่น้องสาวเบาๆ
“อัลมอนด์”
เธอเรียกชื่อเบาๆ ก่อนจะใช้คางเกยลงบนหัวน้อง
“พี่ก็ไม่ได้อยากห่างหนูหรอกนะ แต่การไปเรียนครั้งนี้สำคัญกับพี่มากเลย”
“แล้ว พี่จะกลับมาบ้านบ่อยไหม”
เด็กสาวเงยหน้าขึ้น ดวงตากลมโตเริ่มมีน้ำเอ่อคลอ
“แน่นอนสิ พี่จะวิดีโอคอลหาทุกวันเลยด้วยซ้ำ! แล้วปิดเทอมเมื่อไหร่ พี่กลับแน่!”
แอลลี่ชูนิ้วก้อยไปตรงหน้าน้องสาว อัลมอนด์ยกมือเล็กเกี่ยวก้อยพี่สาวเบาๆ
“เราเกี่ยวก้อยกันแล้ว ห้ามงอแงนะ”
“ก็ได้ แต่พี่ห้ามลืมหนูนะ”
เสียงอัลมอนด์เบาเหมือนกระซิบ แล้วเธอก็ซบลงกับไหล่พี่สาวเหมือนทุกครั้งที่เคยทำตอนยังเล็ก
“พี่จะลืมได้ไง น้องสาวพี่ทั้งคน ”
“งั้นคืนนี้หนูนอนกับพี่นะ ”
น้องสาวขอเสียงอ้อน
“ได้อยู่แล้ว แต่ตอนนี้พี่ต้องเก็บของก่อน อีกไม่กี่วันพี่ต้องเดินทางแล้ว”
อัลมอนด์พยักหน้าเบาๆ ก่อนช่วยพี่สาวพับนั่นเก็บนี่
เช้าวันวันต่อมาที่โต๊ะอาหาร
“ม๊าว่าไงนะคะ!!”
เสียงแหลมของแอลลี่ ดังลั่นทันทีที่ได้ยินประโยคที่ม๊าพึ่งบอกไป
“จะให้หนูไปอยู่กับใครนะ!”
จูนชะงักไปนิดหนึ่ง ก่อนถอนหายใจแล้ววางช้อนลงเบาๆ
“ลูกฟังไม่ผิดหรอก กับพี่คูเปอร์นั่นแหละ ม๊าโทรปรึกษาทางลุงๆแล้ว เรื่องลูกจะไปเรียนกรุงเทพ ลุงปกป้องเลยอยากให้ไปอยู่กับพี่คูเปอร์ เพราะพี่เรียนมหาลัยเดียวกับลูกพอดี”
“ป๊า!!—ม๊า!!—หนูไม่ไปอยู่กับไอ้คนปากเสียนั่นหรอกนะคะ!!”
เสียงแอลลี่สูงขึ้นอีก
เธอวางช้อนในมือลงทันที หน้าตาเต็มไปด้วยความตกใจ และไม่พอใจแบบไม่ปิดบัง
“ม๊าก็รู้หนิคะ ว่าเขาน่ะไม้เบื่อไม้เมากับหนูแค่ไหน เจอกันทีไรทะเลาะกันทุกที นานๆเจอทีก็ยังปะทะกันตลอดเลยนะคะ!”
ลีโอวางไอแพทลงแล้วตั้งใจคุยกับลูกสาว
“รู้ได้ไงว่าพี่จะเป็นแบบนั้น ไม่เจอกันตั้ง2ปีแล้ว พี่คูเปอร์หนะโตแล้วนะ สามารถดูแลปกป้องลูกได้”
ลีโอพูดอย่างจริงจัง แต่แอลลี่กับเบ้ปาก
“แล้วป๊ารู้ได้ไงคะ ว่านายนั่นจะไม่ปากเสียใส่หนูอีก ”
เธอพูดด้วยสัญชาตญาณ ว่าคนอย่างนายนั่นไม่มีทางญาติดีกับเธอหรอก
“ถ้าลูกไม่ยอมไปอยู่กับพี่ ม๊าคงยอมให้ลูกไปเรียนกรุงเทพไม่ได้”
จูนพูดขึ้นอย่างเด็ดขาด เธอเองก็จะไม่ยอมให้ลูกสาว ได้ใช้ชีวิตในเมืองใหญ่โดยไม่มีคนดูแลหรอก
แอลลี่เบิกตาโต
“ม๊า!แบบนั้นไม่ได้นะคะ หนูอุตส่าห์สอบติดแล้วอ่า!!”
แอลลี่พูดเหมือนจะร้องไห้ มองหน้าป๊ากับม๊าอย่างอ้อนวอน
“ลูกอยู่คนเดียวในกรุงเทพ ม๊ากับป๊าก็ห่วง อีกอย่างคูเปอร์ก็เป็นพี่ เขาจะดูแลลูกได้แน่ๆ”
จูนพูดด้วยน้ำเสียงจริงจังขึ้นเล็กน้อย
“เขาน่ะเหรอคะ!จะดูแลหนู เขาเคยคิดว่าหนูเป็นน้องรึเปล่าเหอะ”
“งั้นลูกก็ต้องเลือก ว่าจะยอมอยู่กับพี่หรือจะเรียนที่นี่ ”
แอลลี่ถอนหายใจเฮือกใหญ่
“เฮ้อ!!นี่หนูจะต้องไปอยู่ห้องเดียวกับไอ้คนปากเสียนั่นจริงๆเหรอคะ”
หน้าตาแอลลี่ดูสิ้นหวังสุดๆ
“ห้องเดียวกันที่ไหนล่ะ คอนโดคูเปอร์มีสองห้องนอนใหญ่ๆ ลูกอยู่คนละห้องกับพี่ได้สบายเลย”
จูนพูดพลางตักข้าวต้มกินต่อ เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
“เหอะ!!งานนี้มีเละแน่ ถ้ามันเป็ความต้องการของทุกคน”
แอลลี่ตักข้าวเข้าปากไม่พูดอะไรต่อ ในหัวกำลังวางแผนจะเอาไงดี ตอนนี้อาจจะแกล้งยอมไปก่อน
แล้วไปตกลงกับนายนั่นทีหลัง ว่าจะขอไปเช่าคอนโดอยู่เอง
เขาเองก็คงไม่ชอบขี้หน้าเธอ พอๆกับเธอไม่ชอบขี้หน้าเขานั่นแหละ‘ฮึ่ย!!ม๊านะม๊า ไว้ใจคนผิดซะแล้ว’
ครืด ครืด
“องศา วันนี้ว่างป่ะ”
หลังทานมื้อเช้าเสร็จ แอลลี่ก็กลับขึ้นห้อง แล้วรีบโทรหาเพื่อนสนิท
{ว่างดิ มีอะไร}
“ไปบ้านแพรวากัน ฉันมีเรื่องจะปรึกษา”
แอลลี่พูดอย่างเหนื่อยใจ ชวนองศาไปบ้านแพรวาเพื่อประชุมเครียดกันหน่อย
{ได้ดิ เจอกันที่บ้านแพรวาเลยนะ ฉันจะออกไปเดี๋ยวนี้}
“โอเค!”
หลังจากตกลงกับเพื่อนเสร็จ แอลลี่ก็รีบอาบน้ำแต่งตัว หยิบกุญแจรถแล้วเดินลงไปข้างล่าง
“นั่นลูกจะไปไหนแอลลี่”
ม๊ารีบถามเมื่อเห็นลูกสาวตั้งท่าจะออกไปข้างนอก
“ไปหาแพรวาค่ะ เดี๋ยวเย็นๆหนูกลับนะคะบอกป๊าด้วย”
พูดจบก็รีบออกจากบ้านไป
“ขับรถดีๆนะลูก”
จูนได้แต่ตะโกนตามหลังลูกสาวอย่างเป็นห่วง