“เรียกหนูออกมาทำไมเนี่ย”
บลูอดที่จะบ่นกระปอดกระแปดใส่พี่กะเทยตรงหน้าไม่ได้ วันหยุดเขาต้องได้นอนทั้งวันสิ เมื่อวานก็ใช้พลังงานกับลูกค้าไปตั้งเยอะ การรับจ้างเป็นอีหนูไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เลย บลูรับหมดตั้งแต่เป็นเพื่อนทานข้าวเฉยๆ จนกระทั่งถึงเรื่องบนเตียง แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็เลือกลูกค้านะ อีกอย่างมีพี่วุ้นก็ช่วยกรองให้ด้วย
อีหนู ขายตัว เด็กเอนฯ กะหรี่
ก็แล้วแต่ใครจะเรียก แต่บลูเรียกมันว่าการรับจ้างเป็นอีหนู พวกผู้ชายบางคนชอบนักเวลาถูกออดอ้อนมากๆ เรียกเขาว่าหนูอย่างงั้น หนูอย่างงี้
ก็เนี่ย เป็นอีหนูชัดๆ
“มีคนฝากของมาให้จ้า เจ๊ก็ปฏิเสธไปแล้ว แต่พี่ผู้ชายเขาเร้าหรือ”
ขอลองเดา…
“นี่เขาเสนอหนึ่งแสนแลกกับการที่หนูไปเป็นเพื่อนเขาตีกอล์ฟเลยนะ”
พี่ปอร์เช่
“สร้อยข้อมือสวยๆ จากพี่เช่”
นั่นไงล่ะ
พี่ปอร์เช่เป็นหนึ่งในลูกค้าของบลูเอง ก่อนจะมีการจ้างงานเขาได้แจ้งไว้แล้วว่านี่คืองาน เป็นแค่งานเท่านั้น ดังนั้นทั้งลูกค้าและตัวบลูเองจะไม่ล้ำเส้นเรื่องส่วนตัว สิ่งที่บลูทำก็เหมือนงานบริการด้านหนึ่ง ไม่มีใครเป็นเจ้าของใคร เขาให้บริการตามคิว แต่ดูท่าว่าพี่ปอร์เช่จะไม่ได้คิดแบบนั้น อีกฝ่ายทำราวกับว่าเขาเป็นเด็กเลี้ยงเจ้าตัว
เฮ้อออ เย็ดกันแล้วก็จบไปไม่ได้เหรอ
“หนูไม่รับ”
“ฮือ”
วุ้นเบะปากราวกับจะร้องไห้ พยายามยัดถุงแบรนด์เนมใส่มือยัยเด็กหน้าสวยตรงหน้า แต่เด็กมันส่ายหัวลูกเดียว คนอื่นมาทำงานนี้อาจจะเพื่อหาเงินประคองชีวิตจากฐานะยากจน แต่กับบลูไม่ใช่เลย หน้าตา ผิวพรรณ ทุกอย่างบอกได้อย่างชัดเจนว่าเป็นลูกคนมีเงิน แล้วก็มีเงินจริงๆ ยัยเด็กนี่เหมือนมาทำเพราะมันสนุกมากกว่าทำเพื่อเงินซะอีก
‘หนูชอบการมีเซ็กซ์กับผู้ชายหล่อๆ ตอนที่อ้าขาแล้วมองหน้าหล่อๆ มันฟินนี่พี่วุ้น’
บลูมันพูดทั้งดวงตาใสๆ แล้วเพราะหุ่นแบบนี้ หน้าตาแบบนี้ แล้วใครจะไม่อยากเย็ดมันล่ะ
ความจริงการทำอาชีพแบบนี้ในประเทศเรายังผิดกฎหมาย แม้ความจริงควรจะมีกฎหมายออกมาคุ้มครองอาชีพขายบริการได้แล้วก็ตามที มันเป็นอาชีพที่ไม่ใช่จะทำกันง่ายๆ แม้ว่าสายตาคนภายนอกจะมองอาชีพนี้แค่ถอดเสื้อผ้า อ้าขา แล้วรับเงิน แต่ความจริงแล้วคนที่ทำอาชีพขายบริการต้องใช้เงินลงทุนกับการดูแลร่างกายเยอะมาก เพราะใช้ร่างกายในการหาเงินไง
เมืองพุทธแบบตอแหล ทำเป็นรับไม่ได้กับอาชีพกะหรี่ แต่คอร์รัปชันทุกหย่อมหญ้า เหอะ อีพวกคนใหญ่คนโตบางทีก็เรียกใช้บริการพวกอย่างเราๆ นี่แหละ
“วันนี้เรียกมาแค่นี้เหรอ”
ไม่มีหรอกนะแค่เรียกมาเอาของน่ะ มันต้องมีมากกว่านั้นอยู่แล้ว บลูรู้จักกับพี่วุ้นไม่นานมาก แต่เราเหมือนพี่น้องคลานตามกันมา มองตาก็รู้ใจ
“ช่วยเจ๊เลือกกระเป๋า prada หน่อย”
“ใช้แรงงานเด็กเล็ก”
“ไม่ต้องมาทำหน้าแมวหงอยใส่ เจ๊ไม่ใช่พวกพี่ชายแท้นะ จริตนี้เจ๊รู้ทันจ้า”
ผู้เป็นเจ้าของส่วนสูงหนึ่งร้อยเจ็บสิบเอ็ดเซนติเมตรกลอกตามองบนหนึ่งครั้ง ก่อนจะพยักหน้าเพราะไหนๆ ก็มาแล้ว ก็ตากแอร์ให้ชุ่มปอดก่อนกลับคอนโดแล้วกัน เดี๋ยวซื้อกระเป๋าเสร็จบลูจะชวนพี่วุ้นไปซื้อเสื้อผ้าด้วย จากนั้นหาคาเฟ่นั่งสักที่ แล้วค่อยแยกย้ายกันตอนเย็น
“แล้วเมื่อคืนเป็นไง”
“ก็พอไหว หนูว่าจะงดรับบริการบนเตียงสักสัปดาห์ อยากพักอะ โดนทุกวันคือไม่ไหว บางคนเหมือนมันเขี้ยวหนู ตอกซะแรง”
“ยัยเด็กของเจ๊ก็ตัวแค่นี้เอง”
วุ้นรีบดึงเด็กที่งอแงมาโอ๋ทันที คนนี้ตัวท็อปเลยนะ เรื่องมากที่หนึ่ง แต่อย่างว่าแหละน้องมันมีข้อตกทำงานตั้งแต่แรก เด็กมันไม่ง้อด้วยว่าจะมีหรือไม่มีลูกค้า ก็บอกแล้วว่ายัยคนสวยมันมาทำเพราะสนุก ไม่ได้มีเป้าหมายหลักเรื่องเงิน
หน้าตาคุณหนูจะตายไป อีแบบนี้ไม่มีปัญหาเรื่องเงินหรอก
“ของพี่เช่ไม่เอาจริงๆ เหรอยัยเด็ก”
วุ้นลองพูดอีกรอบ เผื่อว่ายัยคนสวยตรงหน้าจะเห็นใจกัน
“ไม่เอาอะ ถ้าอยากได้หนูมีเงินซื้อเอง”
บลูเชิดใบหน้ารั้นๆ ขึ้นเล็กน้อยโดยไม่แม้แต่จะเหลือบมองถุงแบรนด์เนมยี่ห้อหรูหราที่ใครคนนั้นฝากพี่วุ้นเอามาให้ เขาเบื่อพวกพูดไม่รู้เรื่องจริงๆ เราไม่ได้เป็นเจ้าของกันสักหน่อย แล้วเขาก็ไม่ใช่เด็กเลี้ยงของใครด้วย เข้าใจนะว่าอยากเปย์ของให้ แต่แบบนี้มันอึดอัดใจชะมัด เพราะเขาไม่ได้อยากได้มันเลย
“เจ๊ว่าพี่เช่เขาจริงจังนะ เชื่อสายตาเจ๊ได้เลย”
สายตาพ่อหนุ่มสุดหล่อคนนั้นมองยัยเด็กตรงหน้าแบบหลงหัวปักหัวปำเหมือนโดนเสน่ห์ แต่วุ้นเข้าใจนะ เข้าใจพี่ปอร์เช่จริงๆ ก็ยัยน้องบลูมันสวย น่ารัก นิสัยก็ดูซุกซน แบบนี้พี่ผู้ชายเขาชอบกันทั้งนั้น ตาหวาน เอวสวย ขาสวย บางทีคนยังคิดว่าน้องมันเป็นทอมด้วยซ้ำ ยัยลูกแมวเอ๊ย
“แต่หนูไม่ได้คิดอะไรกับพี่เขานี่”
“ตอนเอากันไม่คิดสักนิดเลยเหรอ แบบสักนิดอะ”
วุ้นเอียงไปกระซิบข้างหูบลูเบาๆ
“คิดแค่ว่าหล่อดี ในบรรดาลูกค้าหนู พี่เช่หล่อที่สุด”
เอ่ยจบก็ถึงช็อปกระเป๋าที่วุ้นต้องการพอดี โอเค จบๆ เรื่องพี่ปอร์เช่ซะ
“เจ๊ถามหน่อย แล้วถ้าเจอคนที่ชอบจริงๆ จะเลิกเป็นอีหนูไหม?”
“ก็ต้องเลิกสิ”
“แล้วถ้าคนที่บลูชอบไม่ได้ชอบกลับล่ะ?”
“อืม…”
บลูหยุดปลายเท้า ก่อนจะเอียงใบหน้าน้อยๆ เพราะกำลังใช้ความคิดกับคำถามของพี่วุ้น เขาไม่เคยคิดถึงเรื่องนี้มาก่อนเลย
“ไม่ยากเลย หนูก็ทำให้เขาชอบหนูไง”