ร่างเล็กของบลูถูกหญิงวัยกลางคนดึงเข้าไปกอดเต็มรัก ก่อนจะถูกหอมแก้มถึงสามฟอด ทำเอาพวงแก้มขาวขึ้นสีระเรื่ออย่างน่าเอ็นดู ด้านหลังของผู้เป็นแม่มีชายวัยกลางคนยืนทอดสายตามองด้วยดวงตาทอประกายอ่อนโยน
“ทำไมออกมาข้างนอกกันล่ะ”
เขาเพิ่งจอดรถยังไม่ถึงสิบนาทีด้วยซ้ำ แต่คนเป็นพ่อเป็นแม่ดันพากันเดินออกมาจากบ้านซะงั้น เหมือนตอนประถมเวลากลับจากโรงเรียนเลย มันให้ความรู้สึกแบบผู้ปกครองมารอรับลูกอย่างไรอย่างนั้น
ศีรษะของบลูถูกมือของหญิงวัยกลางคนลูบไปมา แม่ทำเหมือนว่าเขาไม่กลับบ้านสักสามปี ทั้งที่เราเจอกันทุกสัปดาห์ แม้ว่าจะแยกไปอยู่คอนโด แต่คนแก่สองคนนี้ก็ยังงอแงให้บลูกลับบ้านบ่อยๆ บลูบุ้ยใบ้ส่งให้ผู้เป็นพ่อดูแม่สิ เนี่ยเกาะเขาไม่ปล่อยเลย
“เสียดายที่วันนี้เจ้าวาฬใหญ่มากินข้าวด้วยไม่ได้”
ดวงตาสีน้ำตาลกะพริบอย่างเชื่องช้าในขณะที่ถูกผู้โอบอุ้มเขาด้วยความรักพาเข้าไปในบ้าน พ่อเดินตามหลังมาติดๆ พร้อมกับส่ายหัวน้อยๆ ในตอนที่แม่เอ่ยถึงสิ่งมีชีวิตขนาดใหญ่เหมือนกันกับบลู
“หมูทอดกระเทียมกับผักบุ้งไฟแดงของโปรดใครน้า”
“ของบลูเองค่ะ”
ครอบครัวเขาเป็นคนหัวสมัยใหม่ ดังนั้นเมื่อบลูพูดคะขา พ่อกับแม่จึงไม่ได้แปลกใจหรือทำสายตาแปลกๆ ส่งมาให้ บลูรู้ตัวเองว่าชอบผู้ชายมาตั้งแต่เด็กๆ แล้ว เขาอาจจะไม่ได้ตุ้งติ้ง แต่ยอมรับเลยว่ามีจริตจะก้าน ซึ่งชายแท้เตะบอลเขาไม่มีกัน
มันหายากมากๆ เลยนะกับการที่มีครอบครัวซึ่งพร้อมซัปพอร์ตเราในทุกๆ ด้าน ไม่รังเกียจหรือตั้งคำถามกับสิ่งที่ลูกเป็น พร้อมเปิดใจ ยอมรับ และโอบอุ้มดูแล การมีลูกเมื่อพร้อมมันเป็นแบบนี้นี่เอง บลูรักครอบครัวตัวเองมากๆ และทุกคนในบ้านหลังนี้ก็รักเขามากๆ เช่นเดียวกัน ซึ่งมันรวมทั้งคุณลุงคนขับรถ ป้าแม่ครัว และพี่ๆ แม่บ้านทุกคนด้วย
ชีวิตของบลูไม่ขาดเหลืออะไรเลย ไม่เดือดร้อนเรื่องเงินเลยแม้แต่น้อย ดังนั้นเขาไม่ต้องรับจ้างเป็นอีหนูก็ได้ แต่ทำไงได้… ในเมื่อเขายังมีความต้องการบางอย่างที่ครอบครัวไม่สามารถมอบให้ได้
อาหารหน้าตาน่าทานวางอยู่เต็มโต๊ะ ซึ่งเก้าสิบเปอร์เซ็นต์มันคือของโปรดบลูทั้งนั้น แม่เป็นคนตักข้าวลงในจานให้เขา ส่วนพ่อตักหมูทอดกระเทียมให้ก่อนเป็นอันดับแรก เมนูนี้บลูชอบกินมาตั้งแต่ตัวเท่ากระถางต้นไม้หน้าบ้าน ทำง่ายแล้วก็อร่อยมากๆ เมื่อทานกับข้าวสวยร้อนๆ ส่วนผักบุ้งมันเป็นผักชนิดแรกๆ ที่ใครบางคนสอนให้เขาลองกินดู บวกกับประโยคที่บอกว่ากินผักบุ้งเยอะๆ แล้วจะตาสวย บลูในตอนที่ยังเป็นลูกวาฬจิ๋วเชื่อสนิทใจกับทุกๆ อย่างที่ถูกป้อนใส่หัว
“พอก่อนน”
เอ่ยห้ามทันทีเพราะของเก่ายังกินไม่หมด แม่เตรียมตักกับข้าวให้เขาอีกแล้ว
บทสนทนาบนโต๊ะอาหารคือการคุยเรื่องดินฟ้าอากาศทั่วไป บลูเล่าเรื่องตลกๆ ให้ทุกคนฟังด้วย เราแลกเปลี่ยนเรื่องราวมากมายบนโต๊ะอาหาร เรียกได้ว่าคุยไปกินไป เป็นแบบนี้ทุกครั้ง บ้านอื่นอาจจะบอกว่าห้ามคุยกันตอนกินข้าว แต่สำหรับบ้านหลังนี้ คุยกันตอนกินข้าวนี่แหละสนุกที่สุดแล้ว
“บลูนอนนี่สิลูก”
ทุกทีพอทานข้าวเสร็จ บลูจะไปเดินย่อยในสวน แล้วสักพักค่อยกลับคอนโด จะว่ายังไงดีล่ะ เหมือนคนติดที่นอนอะ แล้วเขาย้ายไปอยู่คอนโดตั้งแต่เข้ามหาวิทยาลัย มันเลยไม่ชินกับการนอนที่บ้านไปแล้ว
“แม่เพิ่งให้ป้าแจ่มไปทำความสะอาดเมื่อเช้าเลยนะ”
“นอนก็ได้ค่ะ”
ถูกแม่อ้อนแล้วเขาจะไปปฏิเสธได้ยังไงกันล่ะ บลูตักข้าวคำสุดท้ายเข้าปาก ก่อนจะขอตัวออกไปเดินเล่นในสวนอย่างทุกครั้ง
“ระวังยุงกัดนะเจ้าวาฬเล็ก”
บลูพยักหน้าหงึกหงักตอบรับความเป็นห่วงของผู้เป็นแม่ เขาหยัดกายลุกขึ้นเต็มความสูงหนึ่งร้อยเจ็ดสิบเอ็ดเซนติเมตร ใช้ปลายนิ้วเกลี่ยเส้นผมสีน้ำตาลหยักศกน้อยๆ ทัดหลังใบหู แล้วเดินไปยังสวนด้านนอกทันที
อากาศในวันนี้ค่อนข้างเย็นและบลูทำจมูกฟุดฟิดเพราะได้กลิ่นฝน ว่าแล้วก็เห็นฟ้าแลบอยู่ไกลๆ มือขาวล้วงหยิบโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋ากางเกง ปลดล็อกสิ่งที่อยู่ในมือด้วยการสแกนใบหน้า จากนั้นกดเข้าไปในแอปเขียวยอดฮิตที่เขาใช้งานมันบ่อยที่สุด บลูปัดนิ้วเลื่อนผ่านแชตจากลูกค้าที่ส่งมาให้ เขา mute ไว้ตลอด ไม่ได้หวงเลยหากใครจะขอช่องทางติดต่อนี้ อยากแอดก็แอดมา แต่ว่าเขาจะตอบหรือเปล่าอันนี้ก็อีกเรื่อง จนกระทั่งบลูกดเข้ามาในหน้าแรกของแอปพลิเคชัน แล้วเจอกับผู้ติดต่อรายชื่อหนึ่ง
พี่หมาป่านี่…
ผ่านไปกี่วันแล้วนะตั้งแต่วันนั้น บลูลืมไปเสียสนิทเลยเพราะมัวแต่ให้บริการลูกค้าคนอื่น เขาสับรางเก่งจนพี่วุ้นยกมือไหว้ แน่นอนว่าบลูก็ยังคงเลือกลูกค้าจากหน้าตาเหมือนเดิม
‘ยัยคนสวยมันได้กินแต่คนหน้าตาดี พี่ผู้ชายเบ้าหน้าพระเจ้าโดนลูกฉันกินไปหมดแล้ว’
บลูยักไหล่น้อยๆ ตอนที่ได้ยินพี่วุ้นเอ่ยประโยคนี้ออกมา
คำว่าหล่อของแต่ละคนไม่เหมือนกัน และบลูขอยกผู้ชายที่เขาสามารถเรียกได้ว่าหล่อแบบตะโกนให้พี่ผู้ชายคนนั้น
ผิดแล้วล่ะพี่วุ้น… มันยังมีพี่ผู้ชายเบ้าหน้าพระเจ้าคนหนึ่งที่บลูยังไม่ได้กิน และอยากกินมากๆ เฮ้อ ทำยังไงดีน้า ทำยังไงให้พี่หมาป่าจ้างเขาไปเป็นอีหนูสักครั้ง แบบที่ไม่ใช่แค่เพื่อนกินข้าวด้วย เพราะวาฬตัวนี้มันอยากกินมากกว่านั้น
หากแต้มบุญในชาตินี้ของลูกช้างยังเหลืออยู่ ขอให้เจอพี่ภูภายในยี่สิบสี่ชั่วโมง เพี้ยง!