06-พรหมไม่ลิขิต หนูลิขิตเองค่ะ (1/2)

1469 คำ
[ถ้ากูตายไป ฝากบอกห้าสิบสองเฮิรตซ์ด้วยว่ากูรักเขามาก ถ้ามีเงินก็จ้างเขามาร้องในงานศพกูด้วย] เช้าที่แสนสดใส ท้องฟ้าเป็นสีฟ้าไร้ปุยเมฆสีขาว และถึงแม้มันจะดูสวยมากๆ แต่ก็ยังร้อนอยู่ดี อากาศร้อนๆ กับคนเยอะๆ แค่เห็นก็ปาดเหงื่อ จุนวางสายจากเพื่อนสาวคนสนิท เพราะวันนี้มันไม่มาเรียนเขากับบลูถึงได้ร้อนใจ แต่สรุปว่าหญิงแกร่งในแก๊งท้องเสียเพราะเมื่อคืนลุกมาจกส้มตำในเวลาตีสอง ตำเอง แดกเอง ขี้แตกเอง เออ ไอ้หยีมันเริ่ดนะ ลูกคุณหนูแต่ตำส้มตำเก่งอย่างที่สามารถเปิดร้านได้เลย “ไอ้หยีขี้แตก” จุนกระซิบบลูเมื่อเราเข้ามาในแคนทีนเป็นที่เรียบร้อย เดิมทีตั้งใจว่าจะออกไปกินข้าวข้างนอกมหาวิทยาลัย แต่เพราะขี้เกียจเดินฝ่าแดดไปเอารถ ถึงได้มาจบกันที่นี่แหละ คนเยอะหน่อยแต่ก็ยังพอมีที่นั่ง “อยากกินก๋วยเตี๋ยวว่ะ” ก็กินของร้อนสู้อากาศร้อนไปเลยสิวะ บลูพยักหน้าในตอนที่จุนจูงมือเข้าไปหาโต๊ะว่าง เสียงจอแจเซ็งแซ่ดังรอบกายด้วยประชากรที่มากมายราวกับว่าคนไทยทุกคนมารวมกัน ณ ที่แห่งนี้หมดแล้ว ดวงตาสีน้ำตาลกวาดสายตามองหาโต๊ะที่เขากับจุนพอจะนั่งได้ ซึ่งทุกโต๊ะล้วนถูกจับจองไปหมดแล้ว เกือบจะถอดใจแล้วจริงๆ นะ ถ้าสายตาของบลูไม่ปะทะเข้ากับใครบางคนเสียก่อน คนตัวเล็กเปลี่ยนเป็นฝ่ายจับจูงมือจุนแทน จากนั้นลากเพื่อนสนิทด้วยช่วงขาสวยๆ ไปหาคนคนนั้น “พี่วุ้น” “ว่าไงยัยตัวลูก” วุ้นยิ้มหวานเพราะนานๆ ทีจะเจอยัยน้องบลูในแคนที ก็ส่วนมากยัยคนสวยจะถูกจ้างช่วงเวลานี้บ่อยๆ ไง พี่ผู้ชายเขามักจ่ายเงินจ้างยัยเด็กไปกินข้าวด้วยทั้งนั้น กินข้าวไป มองหน้าสวยๆ ไปคงเจริญอาหารไม่น้อยเลย ยัยเด็กหน้าสวยถูกจ้างไปเป็นเพื่อนกินข้าวบ่อยๆ พอๆ กับจ้างให้ขึ้นเตียงด้วยนั่นแหละ “อุ๊ย เจ๊จะอิ่มยัง หนูกับบลูจะเสียบต่อ” จุนมันว่าทั้งที่ตัวเองวางกระเป๋าลงบนโต๊ะแล้ว เหมือนพูดไปงั้น แต่ความจริงโต๊ะนี้กูจอง และกูจะนั่งตรงนี้ด้วย! บลูยิ้มบางๆ เมื่อเห็นว่าแก๊งของพี่วุ้นที่คงจะเพิ่งกินอิ่มกลอกตาอย่างเอือมๆ ไม่ได้มีปัญหากันอะไรพวกนั้นนะ ความจริงเราสนิทกันแม้จะเป็นพวกกระดูกคนละเบอร์ อายุคนละปี แล้วไอ้จุนนี่มันก็ชอบคุยเล่นแบบนี้กับพี่วุ้นอยู่แล้ว “อีตุ๊ดเด็กนี่มันจะเสียบเราว่ะ ไม่เอาอะๆ ฟ้าผ่าตาย” เป็นเสียงใครสักคนหนึ่งเอ่ยขึ้นมา จากนั้นทั้งโต๊ะจึงขำกันครืน พี่วุ้นตบลงข้างตัว ก่อนจะส่งสายตาให้เขานั่งลง อันที่จริงต่อให้แก๊งพี่วุ้นยังนั่งอยู่ตรงนี้ แต่มันก็ยังมีพื้นที่ว่างให้เขากับจุนแทรก “วันนี้วันเกิดอีตี้ ขอเชิญไปเจอกันที่ผับ X นะจ๊ะ เดี๋ยวจะหาว่าเจ๊ไม่ชวน” เดี๋ยวก่อนนะ ตี้คือใคร? เด็กในสังกัดคนใหม่ของพี่วุ้นเหรอ แล้วก็เหมือนว่าอีกฝ่ายจะเข้าใจว่าเขาคิดอะไรอยู่ พี่วุ้นจึงรีบเฉลยทันทีโดยไม่ต้องให้เอ่ยถาม “ไอ้ชาตรีอะ ตอนนี้เป็นตีตี้แล้วจ้า” “โห แบบว่ารู้ตัวว่าชอบผู้ชายงี้แล้วใช่มะ” “ก็เออสิวะ ไม่งั้นจากชาตรีจะเปลี่ยนเป็นตีตี้เหรอ” “แล้วเจ๊วุ้นเมื่อก่อนชื่ออะไร” จุนมันหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเตรียมถ่ายคลิป แบบว่าเตรียมไปเจอคลิปนี้ลงในไอจีสตอรี่ได้เลย แล้วเพราะแบบนั้น พี่วุ้นจึงใช้มือกรีดกรายผมยาวๆ ของตัวเองขึ้นไปทัดไว้หลังใบหู เอียงใบหน้าน้อยๆ คล้ายกับว่าถูกกล้องจากสำนักข่าวเล็งมาที่ตน เอาล่ะ แม่ดาราเขาเตรียมให้สัมภาษณ์ “หนูชื่อวุ้นตั้งแต่เกิดเลยค่ะ พ่อกับแม่ตั้ง—” “อย่ามาตอแหลสิวีรภาพ” “วีรภาพหน่อแ*ดอะไรคะ ชื่อวุ้นค่ะ!” “ฮ่าๆ” อันนี้ไม่ไหวจริงๆ ขนาดที่ว่าโต๊ะข้างๆ ที่ได้ยินประโยคและบทสนทนานั้นยังหลุดขำออกมาอย่างห้ามไม่อยู่ บลูชอบแก๊งพี่วุ้นมาก ฟีลแบบ ยามศึกเรารบ ยามสงบเรารบกันเอง ฮ่าๆ บลูไม่รู้เลยว่าตัวเองยิ้มกว้างแค่ไหน รู้เพียงว่าตอนนี้หยาดน้ำสีใสเคลือบดวงตาเขาเอาไว้ ขำจนร้องไห้มันเป็นแบบนี้นี่เอง “พอก่อนค่ะ อย่าทำให้แก๊งเราดูตลกไปมากกว่านี้เลย แค่นี้ก็ไม่มีลูกค้าอยู่แล้ว แล้วในขณะที่เราขายขำ แต่มีคนหนึ่งมันสวยเกินอะอีดอก” ดวงตาของบลูโค้งเป็นพระจันทร์เสี้ยว แล้วเพราะว่าหัวเราะทั้งใบหน้า ลักยิ้มเล็กๆ จึงถูกจุดขึ้นมายังมุมปาก “ยัยคนสวยหยุดยิ้มเดี๋ยวนี้เลย อะอีเหี้ย ไลน์กูเด้งล่ะ ลูกค้าแน่นอนๆ ให้กูทายเลยนะ” คนตัวเล็กปาดน้ำตาน้อยๆ เขารู้สึกเหมือนถูกมอง แต่ก็ไม่ได้สนใจมากนัก “เนี่ยๆ ซื้อหวยไม่ถูกอะ ทักมาจ้างน้องบลูอีกแล้ว” วุ้นย่นจมูกเพราะยัยน้องบลูมันตัวท็อปจริงๆ ขอเดาเลยนะ อีลูกค้าที่ทักๆ มาเนี่ย มันต้องอยู่ในแคนทีนนี่แหละ เพราะพอยัยคนสวยหัวเราะปุ๊บ ก็ทักมาปั๊บ เฮ้อ เด็กมันสวยจริงๆ อย่างที่ไม่มีอะไรมาค้านสายตา เจ้าบลูเป็นคนที่ไม่ว่าจะมองมุมไหนก็ดูมีเสน่ห์ไปเสียหมด ไม่ว่าจะเป็นจังหวะกะพริบตาหรือช้อนดวงตากลมโตขึ้นมองคู่สนทนา การเดิน การหยิบจับสิ่งของ การยิ้มบางๆ ที่มุมปาก และรวมไปถึงการสั่งก๋วยเตี๋ยวกับเพื่อนสนิทอย่างน้องจุน คนมันสวยอะ สวยด้วยอินเนอร์ ทำห่าอะไรก็สวย สวยจนลูกค้าเคยอัดวิดีโอร้องไห้ส่งมาให้เพราะเด็กมันปฏิเสธงาน บางคนไม่ได้อยากมีเซ็กซ์ด้วยซ้ำ ขอแค่ได้มองหน้านานๆ ก็เหมือนได้รับพรจากพระเจ้า พี่ผู้ชายเขาบอกมาแบบนั้น “เจ๊ไปล่ะๆ อย่าลืมคืนนี้นะๆ เดี๋ยวรายละเอียดเพิ่มเติมเจ๊จะส่งไปให้ แต่ต้องมาให้ได้ แล้วชะนีเด็กไปไหน ยัยน้องยาหยีมันไปไหน” “มันท้องเสีย” “โอ๊ย ลูกสาวเจ๊ ถ้ามันหายก็ชวนมันด้วยๆ ไปล่ะนะ” พอแก๊งพี่วุ้นออกจากแคนทีนไป จึงเหลือบลูคนเดียวที่นั่งเฝ้าโต๊ะ จุนอาสาไปซื้อก๋วยเตี๋ยวเอง มือขาวล้วงโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋าสะพายใบละครึ่งล้านที่ได้รับเป็นของขวัญวันเกิดเมื่อปีที่แล้ว เขาไม่ใช่พวกติดแบรนด์เนม เป็นพวกที่หากชอบ ไม่ว่ามันจะถูกหรือแพง ถ้าถูกใจก็จะหยิบมาใช้ แล้วบังเอิญว่าใบนี้มันถูกใจพอดีเลยหยิบมาใช้บ่อย ปลายนิ้วกดลงบนหน้าจอโทรศัพท์ กดเข้าแอปพลิเคชันสีเขียวที่เข้าใช้บ่อยๆ ด้วยความเคยชิน เขามองผ่านแชตมากมายที่ส่วนมากมาจากลูกค้าที่เคยใช้บริการ ก็บอกแล้วว่าไม่หวงไลน์ แอดมาได้ ทักมาได้ แต่กด mute ไว้ค่ะ …พี่หมาป่า เฮ้อออ คืนนั้นที่เขากลับไปกินข้าวกับที่บ้าน พอตกดึกเลยส่งสติกเกอร์แมวน้อยน่ารักไปหนึ่งตัว แต่ทว่าจนป่านนี้พี่ผู้ชายสุดหล่อยังไม่แม้แต่จะเปิดแชตเขาอ่าน ไม่รู้ว่าเห็นแต่เมินกัน หรือ mute ชาวบ้านเขาหมดแบบที่บลูทำ “ชิ” บลูยู่ปากน้อยๆ ตัดสินใจเก็บโทรศัพท์เข้ากระเป๋าตามเดิม ซึ่งเป็นจังหวะเดียวกับที่จุนมันถือถาดใส่ชามก๋วยเตี๋ยวมาพอดี “กูปรุงมาให้เรียบร้อยจ้า รับรองอร่อยเหาะ” “แล้วงานวันเกิดที่พี่วุ้นบอกจะไปกี่โมง?” บลูถาม พร้อมกับก้มหน้างับเส้นก๋วยเตี๋ยว ที่ต้องถามเวลา เพราะว่าเขาจะได้เผื่อเวลาแต่งตัวไง มันก็ต้องแต่งหน้าทำผมสักหน่อย ไปผับเลยนะ แล้วผับนั้นมันขึ้นชื่อเรื่องผู้ชายหน้าตาดีเยอะอยู่แล้ว บางทีอาจจะได้ลูกค้าเพิ่มก็ได้ ^^ “เอางี้ เรียนเสร็จไปคอนโดมึงนะ นั่งแท็กซี่ไปเผื่อเมา ไม่สิๆ กูตั้งใจไปเมา คืนนี้ต้องได้คนกล่อมนอน” “เอาแบบนั้นก็ได้” บลูเองก็อยากหาคนกล่อมนอนเหมือนกัน
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม