“…”
แม้ว่าบลูไม่ชอบการผูกมัดด้านความสัมพันธ์ ไม่ได้ชอบใครเป็นพิเศษ รวมถึงไม่ได้ยกหัวใจของตัวเองให้ใคร แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็มีสเปกที่ชอบนะ… ชายหนุ่มที่สวมเพียงกางเกงวอร์มสีเทาเดินออกมาจากบ้านแล้วสาวเท้ามาหาบลูที่ยืนอยู่อีกฝั่งของรั้ว หัวคิ้วนั้นขมวดมุ่นราวกับไม่พอใจที่บลูมาปรากฏตัวอยู่ตรงนี้ ท่อนแขนกำยำยกขึ้นกอดอกพร้อมกับส่งสายตาดุๆ มาให้คนตัวบาง
บลูกลืนน้ำลายลงคอด้วยความยากลำบาก รู้ว่ามันเสียมารยาท แต่เขาดึงสายตาออกจากซิกซ์แพ็กสวยๆ นั้นไม่ได้เลย
“มาหาใคร”
เสียงทุ้มเอ่ยถามเจือกระแสความไม่พอใจเล็กน้อย นั่นทำให้บลูหลุดจากภวังค์ เขากะพริบตาน้อยๆ ก่อนจะขยับเข้าไปใกล้รั้วให้มากขึ้น คิดว่าพี่เช่หล่อที่สุดในบรรดาลูกค้าทั้งหมดแล้วนะ แต่พี่ผู้ชายตรงหน้าหล่อยิ่งกว่าเสียอีก บลูไม่รู้จะบรรยายความหล่อของอีกคนว่ายังไงดี …
ไหล่สวยและกว้างมากจนน่าซบ จมูกโด่งเป็นสัน ตาดุ เส้นผมสีดำ ลุคดูร้ายๆ แบบผู้ชายธงแดง เหมือนพวก pro player ที่ช่ำชองเรื่องบนเตียง ลุคภายนอกของคนตรงหน้าบลูมันเป็นแบบนั้นจริงๆ
“คุณไฟจ้างหนูมาค่ะ บอกให้มาเป็นเพื่อนกินข้าว”
ดวงตาคมกริบหรี่มองบลูนิ่งๆ ก่อนที่จะใช้ลิ้นดุนกระพุ้งแก้มพร้อมกับเสยผมลวกๆ ไฟคือชื่อเพื่อนเขาเอง แล้วไอ้เหี้ยไฟให้เด็กมาที่บ้านทำไมทั้งที่มันก็ไม่อยู่
“ไอ้ไฟไม่อยู่”
บลูย่นจมูกเพราะพี่ผู้ชายตอบด้วยน้ำเสียงห้วนๆ เขาไม่ได้คาดหวังให้ผู้ชายทุกคนมาเอ็นดูหรอกนะ แต่นี่เป็นคนแรกเลยที่ทำท่ารำคาญเขาอย่างชัดเจน
“หนูไม่ได้มาหาคุณไฟค่ะ คุณไฟจ้างหนูให้มาเป็นเพื่อนกินข้าวของเพื่อนเขาอีกที”
พิภูขมวดคิ้วพร้อมกับสบถออกมาเบาๆ ชายหนุ่มเดินไปเปิดรั้วให้คนตัวเล็กเข้ามาข้างใน ก่อนจะปิดรั้วให้สนิทอีกครั้ง เหลือบมองผู้ชายตัวเล็กที่สูงเพียงแค่อกเขาเท่านั้น ใบหน้าหวานรับกับจมูกรั้นๆ ริมฝีปากกระจับสวยได้รูป ดวงตากลมโตใสเหมือนสัตว์ตัวเล็กๆ หากเทียบกับเขาแล้วขนาดของร่างกายต่างกันอย่างเห็นได้ชัด
“หนูชื่อบลูค่ะ พี่สุดหล่อชื่ออะไรเหรอคะ”
“ภู พิภู”
พิภูพาบลูเข้ามาในบ้าน เขาให้คนตัวเล็กนั่งรอที่ห้องนั่งเล่น ก่อนจะเดินขึ้นชั้นสองเพื่อไปสวมเสื้อ เขาไม่ค่อยชอบดวงตาเป็นประกายของเด็กที่ชื่อบลูเลย
อืม ก็ยอมรับว่าสวย แต่ดูดื้อชะมัด แล้วไอ้ไฟมันคิดเหี้ยอะไรอยู่ถึงให้เด็กมาที่บ้าน แถมยังบอกว่าให้มาเป็นเพื่อนกินข้าวอีก ตอนนี้พิภูรู้ได้อย่างทันทีว่าถูกเพื่อนสนิทแกล้งเข้าแล้ว บ้านหลังนี้เป็นบ้านของไอ้ไฟ แต่ไอ้เจ้าของบ้านออกไปทำธุระกับครอบครัว เลยมีเพียงเขาคนเดียวเท่านั้นที่อยู่บ้านหลังนี้ เพราะเมื่อคืนมาปาร์ตี้วันเกิดรุ่นพี่ที่รู้จักกัน เขาเลยเลือกมานอนบ้านไอ้ไฟแทนที่จะขับรถกลับคอนโดที่อยู่ไกลกว่า
มือหนาประดับไปด้วยเส้นเลือดเรียงสวยยกขึ้นเสยผมเมื่อต้องออกจากห้องไปหาใครบางคนที่นั่งรออยู่ในห้องนั่งเล่นชั้นหนึ่ง เขาไม่พอใจที่ไอ้ไฟทำแบบนี้ แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่ได้ใจร้ายให้คนตัวเล็กกว่ายืนตากแดดนานๆ
เชี่ยไรวะเนี่ย
“อุ๊ย อากาศร้อนหนูถอดเสื้อได้ไหมคะ”
ปลายเท้าชะงักนิ่งก่อนที่จะถึงบันไดขั้นสุดท้าย พิภูมองคนที่สวมเสื้อคลุมก่อนหน้านี้ แต่ทว่าตอนนี้เหลือเพียงเสื้อตัวบางโชว์ลำคอกับช่วงไหล่สวยๆ ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าคนตรงหน้าเขาสวย สวยมากจริงๆ
“ไอ้ไฟจ่ายไปเท่าไหร่”
พิภูเดินไปนั่งลงยังโซฟาฝั่งตรงข้ามบลู ก่อนจะเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงดุๆ ถ้าเป็นคนอื่นก็คงจะกลัว แต่ไม่ใช่กับบลูเลย ยิ่งคนตัวสูงทำท่าทางเหมือนไม่ชอบกัน บลูก็ยิ่งอยากแกล้ง
“หกหลักค่ะ”
บลูชูนิ้วขึ้นมาเพื่อบอกว่าตนถูกจ้างมาด้วยเลขกี่หลัก มือขาวจัดการวางกระเป๋ากับเสื้อคลุมเอาไว้ยังที่ว่างข้างกาย ก่อนจะใช้มือเกลี่ยเส้นผมสีน้ำตาลขึ้นทัดใบหู บลูเห็นนะว่าพี่ผู้ชายเหลือบมองกันด้วย
“หนูน่าจะอายุน้อยกว่า งั้นหนูเรียกพี่ว่าพี่ภูได้ไหมคะ”
“ไม่ได้”
“ทำไมไม่ได้คะ”
“ไม่ให้เรียก”
“งั้นถ้าเรียกพี่ภูไม่ได้ ให้หนูเรียกว่าที่รักได้ไหมคะ”
ไม่เคยจะมีสักครั้งหรอกนะที่บลูพูดอะไรแบบนี้ แน่นอนว่าเขาพูดจาหวานๆ กับพี่ผู้ชายอยู่แล้ว แต่กับคนตัวสูงรูปหล่อตรงหน้ามันต่างออกไป เสียดายที่พี่ผู้ชายเขาไปใส่เสื้อแล้ว บลูชอบรอยสักหมาป่าที่แผ่นหลังกว้างมากเลย
“ถ้าจ่ายให้เท่าไอ้ไฟจะกลับไปไหม?”
“ไม่กลับค่ะ หนูรับงานมาแล้ว”
บรรยากาศรอบกายตกอยู่ในความเงียบ บลูหัวเราะน้อยๆ เมื่อเห็นว่าคนที่นั่งฝั่งตรงข้ามขบกรามแน่น สนุกจังเลย ความรู้สึกมันต่างจากเวลาที่ได้ไปบริการลูกค้าคนอื่น เพราะทุกคนพร้อมพุ่งเข้าใส่บลู ต่างจากคนนี้… นี่ถ้าพี่ผู้ชายเขาถือไม้เรียวบลูคงถูกฟาดก้นลายไปแล้ว
“แค่เป็นเพื่อนกินข้าวใช่ไหม”
พิภูถอนหายใจออกมาเสียงดัง เด็กตรงหน้าดูท่าจะดื้อไม่น้อย ดวงตาสีน้ำตาลที่มองกันซุกซนเหลือเกิน แล้วดูท่าจะพยศมากด้วย แบบนี้ต่อให้เขาไล่จนปากแฉะก็ไม่ไปหรอก แล้วเขามันก็ไม่ใช่พวกใช้กำลังกับคนตัวเล็กกว่าด้วย เลยไม่อยากลากอีกฝ่ายออกจากบ้าน
“ใช่ค่ะคุณไฟจ้างหนูแค่นั้น”
บลูแลบลิ้นเลียริมฝีปากเล็กน้อย ก่อนจะเอ่ยประโยคต่อไปพร้อมกับขยิบตาให้พี่ผู้ชาย
“หรือพี่สนใจจะกินหนูด้วยคะ?”