เงียบ…
พิภูเงียบและไม่ได้ตอบคำถามแสนซุกซนนั้นแม้แต่คำเดียว เขาสบตากับบลูนิ่งๆ จดจ้องคนหน้าเหมือนแมวที่มองกลับมาด้วยแววตาซุกซน ไม่ใช่ว่าไม่เคยผ่านสถานการณ์แบบนี้มาก่อน แต่ทว่าเด็กตรงหน้าแตกต่างจากทุกคนที่เขาเคยเจอมา
หากจะบอกว่าสวยกว่าทุกคนก็ไม่ผิด ทั้งที่เป็นผู้ชาย แต่ใบหน้ากลับสวยหวาน อีกทั้งรูปร่างยังผอมบางซึ่งแตกต่างจากเขามากนัก
“ล้อเล่นค่ะ”
เสียงถอนหายใจยิ่งทำให้บลูรู้สึกสนุกมากยิ่งขึ้น จะว่ายังไงดี กับคนนี้มันไม่เหมือนเวลาที่บลูคอยให้บริการคนอื่น ปกติบลูขีดเส้นเรื่องงานกับเรื่องส่วนตัวไว้ชัดเจน ลูกค้าคือลูกค้า ไม่มีความรู้สึกเกินเลยนอกจากงานที่ทำแน่นอน และเขาทำมันได้อย่างดีมาตลอด ขนาดพี่ปอร์เช่ที่หล่อที่สุดและทรีตเขาอย่างดี บลูก็ยังมองอีกฝ่ายเป็นเพียงลูกค้าคนหนึ่ง
แต่กับคนตรงหน้า… ไม่ใช่แบบนั้นเลย
คนที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามบลูตอนนี้เรียกได้ว่ามี sex appeal สูงมากจริงๆ ทุกคนพอจะเข้าใจไหม พวกที่ดูดีทุกการขยับตัวน่ะ แล้วไหนจะใบหน้าพี่ท่านที่อย่างกับรูปปั้นกรีกอีกล่ะ บลูไม่สามารถสาธยายความหล่อของพิภูได้เลย
ทำไมน้า ทำไมงานนี้ถึงมีแค่การเป็นเพื่อนกินข้าวล่ะ?
อยากโดนพี่ผู้ชายตอกชะมัด
“ถ้าไล่ก็ไม่ไปใช่ไหม?”
พิภูไม่ใช่พวกมีความอดทนสูงอะไรแบบนั้นหรอก อีกทั้งคนตรงหน้าเขายังไม่ใช่คนรู้จักกัน แต่เพราะไม่อยากใช้กำลังกับคนอ่อนแอกว่า เขาถึงได้นั่งขมวดคิ้วอยู่นี่ไง
“หนูรับเงินมาแล้วก็ต้องทำงานให้เสร็จสิคะ”
รอยยิ้มสวยสะกดสายตาไม่อาจทำให้ดวงตาดุๆ ของร่างสูงคลายลงได้เลยแม้แต่น้อย พิภูยังคงจ้องมองบลูอยู่อย่างนั้นราวกับสร้างสงครามเย็น แต่มีหรือที่บลูจะกลัว คนตัวเล็กไม่ใส่ใจด้วยซ้ำ
“ขาย?”
เสียงทุ้มต่ำเอ่ยถาม มันเป็นคำถามที่บลูไม่ต้องใช้เวลาตกตะกอนเลยว่าความหมายมันคืออะไร เขาไม่เคยรังเกียจสิ่งที่ทำ การรับจ้างเป็นอีหนูมันมอบความสุขให้ใครหลายคนได้มานักต่อนัก มันก็เป็นงานบริการด้านหนึ่ง และบลูสามารถยืดอกยอมรับได้อย่างไม่อาย
“ขายค่ะ”
“…”
“พี่สุดหล่อสนใจไหมคะ”
น้ำเสียงอ้อร้อทำเอาผู้เป็นเจ้าของส่วนสูงหนึ่งร้อยแปดสิบเจ็ดเซนติเมตรถึงกับพรูลมหายใจออกมาแรงๆ นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน ทำไมเขาต้องมาใจเย็นกับเด็กตรงหน้าด้วย ใบหน้าคมคายเต็มไปด้วยอารมณ์หงุดหงิด แน่นอนว่าบลูเห็นทุกอย่าง และเข้าใจเป็นอย่างดี แต่ทำไงได้ งานก็คืองาน เขารับเงินมาแล้ว ถ้าพี่หมาป่าไม่พอใจก็ไปด่าเพื่อนที่ชื่อไฟแล้วกันนะ
ร่างบอบบางลุกขึ้นยืน ก่อนจะสาวเท้าด้วยจังหวะเชื่องช้าไปหาคนที่มองกันโดยไม่ละสายตาไปไหน ดวงตาคมกริบเหมือนหมาป่าจดจ้องเหยื่อตัวเล็กๆ ไม่ได้พิศวาส แต่อยากขย้ำให้ตายมากกว่า บลูแลบลิ้นเลียริมฝีปากเล็กน้อย ยิ่งเดินเข้ามาใกล้ ก็ยิ่งรู้สึกว่าพี่ผู้ชายหล่อราวกับไม่มีอยู่จริง ร่างกายสูงใหญ่ ไหล่และแผ่นอกกว้าง มันจะลามกเกินไปไหมถ้าบลูกำลังจินตนาการว่านอนทอดกายอยู่ใต้ร่างกายนี้
“อุ๊ย หนูล้มค่ะ”
สาบานให้ตายว่าเด็กประถมก็ยังดูออกว่าบลูตั้งใจนั่งลงบนตักแกร่งชัดๆ ไม่ได้สะดุดล้มอย่างที่เจ้าตัวบอก เพราะคอเสื้อกว้าง จึงทำให้มันเลื่อนหลุดจนเผยให้เห็นหัวไหล่สวย ลมหายใจอุ่นร้อนเป่ารดผิวแก้ม บลูค่อยๆ ช้อนสายตาขึ้นสบกับคนตัวใหญ่กว่าอย่างช้าๆ
“หนูไม่ได้รับแค่เป็นเพื่อนกินข้าวหรอกนะ ถ้าพี่ภูอยากให้หนูบริการด้านอื่นๆ หนูก็ทำให้ได้”
เจ้าลูกแมวซุกซนด้วยการยกสองแขนคล้องรอบลำคอหนาเอาไว้หลวมๆ ซ้ำยังเอ่ยด้วยน้ำเสียงหวานจับใจ กลิ่นอายอันตรายโอบล้อมคนตัวเล็กเอาไว้ บลูผ่านชีวิตมายี่สิบเอ็ดปีเลยนะ ไม่ใช่เด็กใสซื่อไร้เดียงสา กับบางคนน่ะ… แค่มองก็รู้แล้วว่าไม่ธรรมดาเหมือนกัน
“ไม่ต้องการ”
ผู้เป็นเจ้าของเรือนกายสูงใหญ่เอ่ยบอกคนบนตัก เขาไม่ได้ผลักไสอีกฝ่ายออก แต่ก็ไม่ได้แตะต้องเลยแม้แต่น้อย มีแค่คนเด็กกว่าที่แสร้งทำเป็นล้มใส่ตัก แบบนี้ใครก็มองออกว่าตั้งใจ มีที่ไหนมานั่งตักแล้วยังกอดคอกันแบบนี้
ยั่วเก่ง
นี่คือสิ่งที่พิภูคิด เขาพบเจอคนมาหลายรูปแบบ แล้วที่ถามอีกคนไปว่า ‘ขาย?’ ก็แค่ถามเพราะอยากรู้ ไม่ได้จะเหยียดอะไรทั้งนั้นแม้จะดูเป็นคำถามไร้มารยาทก็เถอะ
“ไอ้ไฟจ้างมาแค่กินข้าวไม่ใช่เหรอ จ้างมาให้ทำแค่ไหน ก็ทำแค่นั้น”
“ข้าวเคยกินแล้ว แต่พี่หนูยังไม่เคยกินค่ะ”
“ไม่ชอบคนดื้อ”
บลูหัวเราะน้อยๆ เขาแตะปลายจมูกของตนปัดป่ายแผ่วเบาบริเวณปลายคางของพี่ผู้ชาย ก่อนจะผละออกอย่างเสียดาย แม้จะอยากให้พี่ผู้ชายจับอ้าขาแล้วตอกแรงๆ ก็เถอะ ก็นะ… คนนี้มันถูกใจนี่นา ใจเต้นรัวตั้งแต่เห็นรอยสักรูปหมาป่าแล้วด้วย
พี่หมาป่าของน้องบลู
“พี่จะกินอะไรคะ ให้หนูสั่งให้ไหม?”
สัมผัสนุ่มนิ่มเลือนหายไปจากตักของพิภู คนตัวเล็กเดินไปหยิบโทรศัพท์ในกระเป๋าสะพายใบเล็กที่วางอยู่บนโซฟา ก่อนจะหันมาถามเขาพร้อมกับเอียงใบหน้าน้อยๆ ตอนนี้อีกฝ่ายอยู่ในร่างลูกแมววัยสองเดือนดูไร้พิษภัย ต่างจากการกระทำเมื่อกี้อย่างสิ้นเชิง
“ออกไปกินข้างนอก”
พิภูบอกอย่างขอไปที ไอ้เหี้ยไฟจ้างให้เด็กนี่มากินข้าวเป็นเพื่อนเขา ก็กินข้าวซะให้มันจบๆ แล้วจะได้ปล่อยอีกคนไว้สักที่ จากนั้นเขาจะกลับคอนโด ส่วนเรื่องไอ้ไฟถ้ามันกลับมาจากทำธุระกับครอบครัวแล้วเขาจะไปคิดบัญชีกับมันทีหลัง ลงทุนจ้างเด็กเป็นแสนเพื่อแกล้งเขาเนี่ย รวยแต่ไร้สาระฉิบหาย
ดวงตาสีนิลกาฬทอดสายตามองคนที่พยักหน้าน้อยๆ ยามเขาบอกว่าออกไปกินข้าวข้างนอก อีกฝ่ายยกกระเป๋าขึ้นมาสะพาย ในวินาทีนั้นเองที่เสื้อตัวบางรั้งขึ้นสูงจนเห็นเอวคอดกิ่ว พิภูชะงักไปเสี้ยววินาที ก่อนจะเบนหน้าหนี
“เลือกเลยค่ะว่าจะกินร้านไหน หนูไม่เรื่องมาก”
ก็ถูกจ้างมาแค่เป็นเพื่อนกินข้าวนี่เนอะ แล้วจะให้เขาเรื่องมากทำไมกัน บลูส่งสายตาเป็นเชิงว่าพร้อมแล้ว เขารอให้พี่ผู้ชายลุกขึ้น ก่อนจะเดินนำไปยังโรงจอดรถราวกับว่าตัวเองเป็นเจ้าของบ้าน แล้วเพราะแบบนั้น บลูจึงไม่ได้ยินเสียงทุ้มที่เอ่ยออกมาเบาๆ
“ดื้อ”