เสียงหัวใจของเขายังเต้นดังชัดมั่นคง อบอุ่น และเป็นจังหวะเดียวกับของเธออีกครั้ง เสียงหัวเราะเบาๆ ของทั้งคู่ยังคงดังแผ่วอยู่ในห้องพักผู้ป่วย ขณะที่อริสราเอนหัวพิงอกเขาอย่างเหนื่อยล้าแต่มีความสุขที่สุดในชีวิต แต่ไม่นาน เสียงเคาะประตูเบาๆ ก็ดังขึ้น ก๊อก...ก๊อก...ก๊อก ก่อนที่ประตูห้องจะเปิดออกอย่างช้าๆ “ขออนุญาตนะลูก...” เสียงอบอุ่นแต่ทรงอำนาจของชายวัยเจ็ดสิบดังขึ้น ก่อนที่พิษณุกับวิมลพักตร์จะเดินเข้ามาพร้อมกล่องกำมะหยี่ในมือ อริสรารีบขยับจะลุกขึ้น แต่พงศ์วิชญ์เอื้อมมือมาหยุดไว้เบาๆ “ไม่ต้องลุก เดี๋ยวฉันพูดเอง” “ไม่เป็นไรค่ะ ก่อนหน้านี้มัวแต่ตกใจเลยไม่ได้สวัสดีพวกท่าน เสียมารยาทไปแล้ว” เธอพูดเสียงแผ่วก่อนจะหันไปยกมือไหว้ “สวัสดีค่ะคุณลุงคุณป้า” วิมลพักตร์รีบเข้ามานั่งข้างเตียง เอื้อมมือมาจับมือเธอไว้แน่น “อย่าเรียกแม่แบบนั้นเลยลูก...เรียกแม่แบบเดิมดีกว่านะ” คำพูดง่ายๆ นั้นทำให้อริสร

