ตอนที่10

1034 คำ
ฉันค่อย ๆ ดึงมือออกจากมือเขา ค่อย ๆ คลี่ผ้าห่มของตัวเองคลุมร่างหนาที่นอนขดอยู่กับพื้นที่มีผ้าห่มอีกผืนปูไว้ อยากเรียกเขามานอนบนเตียง แต่ไม่อยากรบกวนเวลานอนเขา วันนี้เขาเองก็คงเหนื่อยเหมือนกัน ฉันเดินออกมาที่ครัวเล็กของบ้านเรา บ้านที่ฉันกับพี่อยู่เป็นบ้านเช่าสองห้องนอนหนึ่งห้องน้ำ ค่าเช่าเดือนละหกพันบาท ถ้าไม่มีพี่แล้ว ฉันต้องคิดว่าจะจัดการอย่างไรกับตัวเอง ตอนนี้ฉันเพิ่งอายุสิบเจ็ด แน่นอนว่าไม่สามารถทำงานที่ไหนได้ ฉันเปิดแอปธนาคาร มีเงินในบัญชีเพียงสามหมื่นบาท ฉันหยิบโทรศัพท์มือถือของพี่พีขึ้นปลดล็อกหน้าจอ ฉันรู้รหัสทุกอย่างในชีวิตเขา เพราะเรามีกันแค่สองคน รู้ว่าถ้าวันหนึ่งใครสักคนด่วนจากไปต้องทำอย่างไรกับสิ่งที่เกิดขึ้นต่อ เราสองคนอยู่ได้ด้วยเงินประกันชีวิตของพ่อและแม่ พี่พีทำงานหลายอย่าง เขาบอกว่าต้องเก็บเงินบางส่วนไว้ให้ฉันเรียน เพราะอีกแค่ปีเดียวฉันก็ต้องเรียนมหาวิทยาลัย เงินเหลือในบัญชีของพี่พีสองแสนบาท ตอนนี้ทั้งเนื้อทั้งตัวฉันมีเงินอยู่สองแสนสามหมื่นบาท ฉันโอนเงินจากบัญชีพี่ชายเข้าบัญชีตัวเอง คิดถึงตรงนี้ ท้องก็ร้องขึ้นมา ฉันมองเวลาในหน้าจอโทรศัพท์มือถือ ทุ่มครึ่งแล้วสินะ มีไข่กับข้าว ฉันจะทำข้าวผัดหมูยอแล้วกัน เพราะวันก่อนซื้อหมูยอมาจากเซเว่นยังมีอยู่ครึ่งหนึ่ง ฉันจัดการตักข้าวออกมาจากหม้อหุงข้าวที่หุงไว้ตั้งแต่เมื่อเย็นวาน ตั้งใจผัดเยอะหน่อยเผื่อพี่อาร์ตจะกินด้วย ไม่รู้ว่าไฮโซอย่างเขาจะกินได้ไหม สูตรเด็ดของฉันคือฉันชอบข้าวที่เคลือบด้วยไข่จนเหลืองทอง ฉันตอกไข่ใส่ไปในข้าวสามฟอง ใส่ซีอิ๊วขาวเล็กน้อย เกลือนิดหน่อย ทุบกระเทียมแกะเปลือกนอกออกห้ากลีบ สับ ๆ กระเทียมให้ละเอียด ตั้งกระทะให้ร้อน ใส่น้ำมันหมูกับเนยคนให้เนยละลาย ใส่กระเทียมเจียวให้ส่งกลิ่นหอมนิดหนึ่ง ก่อนจะตามด้วยหมูยอหั่นเท่าลูกเต๋าขนาดเล็กผัดให้หอม จากนั้นใส่ไข่กับข้าวที่คนให้เป็นเนื้อเดียวกันลงไป เร่งไฟให้แรงแล้วก็คนให้ไข่ที่เคลือบข้าวสุกเม็ดข้าวเด้ง ๆ ปรุงรสด้วยเกลือนิดหน่อยเพราะซีอิ๊วขาวที่ใส่ยังให้ความเค็มไม่พอ ปิดเตาแก๊ส โรยด้วยต้นหอมซอยที่ฉันปลูกไว้ในกระถางข้างบ้าน มองข้าวผัดแล้วอดคิดถึงพี่พีไม่ได้เลย เขาชอบกินเมนูนี้ ฉันทำให้เขากินบ่อย ๆ “หอมเชียว” คนเดินหัวยุ่งออกมาจากห้องนอน นั่งลงตรงโซฟาหน้าทีวี เพราะที่นั่งตรงนั้นเป็นทั้งห้องนั่งเล่น ห้องอาหาร ห้องดูทีวี หรือบางครั้งยังเป็นห้องทำงาน ฉันตักข้าวผัดหมูยอใส่จานสองจาน ยกไปวางตรงหน้าเขา แน่นอนว่าจานของเขาได้น้อยกว่าฉันเยอะ เพราะไม่แน่ใจว่าเขากินเยอะไหม อีกอย่างเขาอาจไม่ถูกใจกับอาหารบ้าน ๆ แบบนี้ก็ได้ พี่อาร์ตมองจานของฉันกับเขาสลับกัน แต่ไม่ได้มีคำถามอะไร เราสองคนเปิดทีวีเพื่อไม่ให้ทุกอย่างเงียบจนเกินไป เราสองคนนั่งลงตรงพื้นข้างกัน มองหน้าจอทีวีเป็นบางครั้ง กินข้าวผัดไปด้วย พอกินจริง ๆ ฉันกลับกินได้น้อย คงเพราะเรื่องราวไม่สบายใจมีหลายอย่างให้คิด “อิ่มแล้วเหรอ” เขามองหน้าฉัน เมื่อเห็นฉันรวบช้อน “ค่ะ” “ขอได้ไหม” ฉันกะพริบตาปริบ ๆ เมื่อสิ่งที่เขาขอคือข้าวผัดหมูยอในจานฉันอีกครึ่งจาน ซึ่งตอนนี้ในจานเขาหมดเกลี้ยง “เดี๋ยวหนูไปตักให้ใหม่ ยังมีอยู่” ยังมีอีกในกระทะ น่าจะได้อีกสักจาน เขาน่าจะพออิ่มอยู่หรอก จะมากินของที่ฉันกินเหลือได้อย่างไรกัน ฉันไม่ได้คิดจะทิ้ง คิดว่าเดี๋ยวเอาใส่กล่องแล้วเก็บไว้ในตู้เย็นพรุ่งนี้ค่อยอุ่นกิน “กินอันนี้แหละ ขี้เกียจไปตัก” ว่าแล้วเขาก็ลากจานของฉันไปกินต่ออย่างไม่สนใจ เขาก็คงเป็นคนธรรมดาเหมือนฉันแหละมั้ง ระหว่างที่เขายังนั่งกินอยู่ ฉันเดินไปหยิบเสื้อผ้าเพื่ออาบน้ำให้สบายตัว ก่อนจะมานั่งลงข้าง ๆ เขา เพื่อจะได้คุยเรื่องหนี้ค่าโรงพยาบาลของพี่พี ความทุกข์ ความเศร้าเหรอ ไม่มีเวลาให้กับสองสิ่งนั้นแล้ว สิ่งที่ต้องทำจากนี้คือต้องวางแผนว่าจะต้องทำอะไรต่อไปหลังจากนี้ “เดี๋ยวอัยย์เก็บเอง” ฉันรีบเก็บจานข้าวผัดไปวางไว้ในห้องครัว จากนั้นรีบกลับมาคุยกับเขาเรื่องเงิน เขาอาจจะให้ฉันเซ็นสัญญากู้ยืมหรือเปล่าต้องดูอีกที “พี่อาร์ต อัยย์อยากคุยเรื่องเงินที่ยืมค่าโรงพยาบาล” “อือ” “อัยย์ขอผ่อนให้ตอนเรียนจบมอหกได้ไหมคะ” อีกปีเดียว เงินไม่กี่หมื่นเขาคงไม่ว่า “...” เขาขมวดคิ้วเหมือนคิดอะไรสักอย่าง ฉันจึงตัดสินใจพูดต่อ เพราะกลัวเขาจะไม่ตกลง “คือเดี๋ยวจบมอหกแล้ว อัยย์จะหางานทำ ได้ทำงานจะทยอยใช้คืนนะคะ” ฉันพยายามอ้อนวอนเขา เพราะกลัวเขาจะไม่เชื่อใจ เวลาอีกตั้งปีหนึ่ง “ไปทำงานแล้วจะไม่เรียนต่อเหรอ” นี่เขากำลังพูดเรื่องตลกอยู่ใช่ไหม ฉันจะเอาเงินที่ไหนไปเรียน ต้องทำงานเก็บเงินสักพักแล้วค่อยเรียนมหาวิทยาลัยเปิดเอาก็ได้ แต่ตอนนี้ต้องจบมอหกก่อน “อัยย์ว่าจะหางานทำสักพัก ให้มีเงินค่าเทอมก่อนค่อยไปเรียน” ฉันเห็นเขาขมวดคิ้วอย่างไม่พอใจ มีอะไรที่ฉันทำให้เขาไม่พอใจหรือเปล่านะ
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม