ห๊ะ/หื๊ม เสียงที่รอดออกจากปากคนรอบข้างที่ยืนล้อมวงอยู่ตรงนั้น ประสานกันออกมากจนดังอื้ออึงแต่ก็ทำได้แค่นั้น เพราะเจ้าของร่างสูงทั้งสามคนหันกวาดตามองด้วยความไม่พอใจ พวกเขาเป็นคนถือตัวและไม่ชอบให้ใครมายุ่งเรื่องของพวกเขา เรื่องนี้จะว่าไปก็ไม่ได้ผิดอะไรเพราะโปรไฟล์ของเหล่าอสูรไม่ธรรมดาสักคน ไม่ว่าจะชาติกำเนิดหรือการศึกษาแม้แต่การวางตัวโดยเฉพาะเรื่องผู้หญิง คนทั้งห้าไม่เคยกินในที่ลับไขในที่แจ้ง เพราะฉะนั้นก็ถือได้ว่าเป็นลูกผู้ชายที่ดีพอตัว แต่คร้านจะไล่ให้ไปที่อื่นก็ไม่ได้เพราะมันก็มีกันอยู่เท่านี้ ไล่ไปที่อื่นสุดท้ายก็รู้เรื่องกันหมดอยู่ดี ตัดเพื่อนสนิทสองคนที่พารุ่นน้องกลับไปอีกสอง ก็เหลือสามสิบกว่าคนซึ่งตอนนี้เริ่มทยอยเดินเข้ามามุงดูเรื่องที่โรงอาหารเล็ก ๆ จนแทบไม่เหลือที่ให้หายใจ โดยเฉพาะซอร์เบทที่ตามมาหลังสุด ก็โดนรุ่นพี่ปลาไหลยืนช้อนหลังจนเธอเองได้กลิ่นน้ำหอมของเขาแบบทุกลมหายใจเข้าออก แต่เธอเลือกที่จะไม่หันไปเพราะตอนนี้เรื่องของเพื่อนรักตัวเล็กสำคัญกว่า
"แต่โมเห็น"
"เห็นว่า?"
"ก็...ก็เห็นว่ารองเท้าพี่มาอยู่นี่ไงคะ"
"ยัยนี้ไม่ได้ขโมยฉันเป็นคนสั่งให้เอารองเท้าฉันมาเอง"
"..."
"อย่าเที่ยวไปปากพล่อยกล่าวหาใครอีก...โดยเฉพาะเรื่องที่ไม่ใช่ของตัวเอง"
มือหนากระชากเอาสนีกเกอร์หรูออกจากมือของรุ่นพี่ปีสอง โดยที่ยังส่งสายตาคาดโทษเธอและเพื่อนอีกสองคนที่มายืนเป็นเหมือนพวกคนรับใช้ในคราบเพื่อนสนิทตามติดรองมือรองเท้านางร้ายในซีรี่ย์ เขาไม่ค่อยเข้าใจว่าทำไมผู้หญิงแบบนี้ถึงมีชีวิตอยู่รอดมาได้ วัน ๆ ไม่เห็นจะทำอะไรเป็นนี่ขนาดมาทำงานอาสายังแต่งตัวซะนึกว่ามาคาเฟ่
"อีกอย่างนะมาอาสาถ้าจะมาแค่ถ่ายรูปฉันว่าพวกเธอควรจะกลับไปซะ"
"พี่เบียง...โมตั้งใจมาจริง ๆ นะคะ"
ปั้นตังค์ที่ตอนนี้ก้าวเท้าขยับขึ้นมายืนข้าง ๆ ร่างสูง พอได้ยินประโยคที่รุ่นพี่ปีสองพูดออกมาเธอเลยแอบเหลือบมองไปที่เขาว่าเขาจะทำยังไงต่อ ภาพตรงหน้าเหมือนอสูรร้ายกำลังยกยิ้มตอนที่กำลังจะทรมานเหยื่อในมือ ตัวเธอเองแม้ว่าจะเจอเขาอารมณ์เสียพูดจาร้ายใส่มาตลอด แต่ไม่มีสักครั้งที่เขาดูร้ายกาจเหมือนที่คนเล่าลือกัน
"ก็ดีพรุ่งนี้ฉันจะเป็นคนแบ่งงานให้เธอเอง"
"จริงหรอคะ...ขอบคุณมากนะคะพี่เบียง"
ผู้หญิงตรงหน้ากำลังยิ้มโปรยเสน่ห์ออกมาอย่างที่เธอคงชอบทำประจำ แล้วระหว่างที่พูดก็หันมามองเหยียดปั้นตังค์แบบติดปลายหางตาใส่ประหนึ่งว่าเธอเป็นผู้ชนะ วีว่าที่ยืนมองเริ่มทนไม่ไหวก้าวเท้าออกมากะจะเข้าไปจิกหัวรุ่นพี่ปีสองตบสักที โทษฐานแกล้งยัยเตี้ยเพื่อนรักของนาง แต่ก็มีเสียงที่ทำให้คนยืนยิ้มหุบปากลงแล้วอยากจะเอาหน้าแทรกแผ่นดินหนี
"อีกเรื่อง"
"..."
"ฉันไม่ชอบให้ใครมาตีสนิทอย่ามาเรียกฉันว่าพี่อีก...เธอควรเรียกฉันว่ารุ่นพี่ ถ้าเรียกไม่ได้ก็ไม่ต้องสะเออะเรียกอีก"
"..."
.
.
"ส่วนเรามานี่"
"อ๊ะ...เดี๋ยว เดี๋ยว"
ภาพอสูรตัวเปิดจับข้อมือปั้นตังค์เดินออกไปจากวงล้อมทำเอาทุกคนเริ่มซุบซิบนินทา แต่ไม่ใช่เรื่องไม่ดีอะไรเพราะเหมือนว่าทุกคนจะรู้แล้วว่าปีนี้อสูรตัวแรกที่อาจจะมีเจ้าของใจเป็นรุ่นพี่เบียงสุดหล่อแสนร้ายกาจ และคนที่ได้ใจอสูรไปก็คือผู้หญิงตัวเล็กทำอาหารอร่อยให้พวกเขาได้กินนั้นเอง แม็กนั่มกับสล็อตจัดการไล่พวกที่เหลือให้กลับไปทำเรื่องของตัวเอง ไม่ก็ไปนั่งรอบกองไฟทำกิจกรรมเพื่อผ่อนคลาย ส่วนเขาทั้งสองคนก็ไม่มีที่จะไปเลยเนียนอยู่นั่งกับกลุ่มของปั้นตังค์ต่อ แม็กนั่มไม่ได้คิดจะกลับเต็นท์อยู่แล้วเขาอยากนั่งเฝ้าสาวน้อยซอร์ แต่สล็อตที่ตัวคนเดียวก็รู้ว่าเต็นท์อันใหญ่โตของเขาตอนนี้ไม่เปิดต้อนรับใครทั้งนั้น ถ้าเขากลับไปมีหวังได้โดนตีนไอ้เบียงเพื่อนรักถีบออกมาจนหลังแอ่นแน่
"แนะนำตัวก่อนพี่ชื่อสล็อตนะครับ"
"คะ/ค่า/อ๋อคะ"
"ส่วนพี่ไม่ต้องแนะนำเนอะ" แม็กนั่มพูดพร้อมกับยิ้มให้น้อง ๆ ที่เหลือระหว่างที่ทั้งสามคนเริ่มตักข้าวแบ่ง
"ก็มึงเล่นเสนอหน้าตั้งแต่ตอนน้องเก็บของแล้วนิ่" สล็อตผู้ที่เบะปากมองบนใส่เพื่อนเพราะความหมั่นไส้
"กูเป็นคนดีครับถ้ามึงไม่มีอะไรทำก็ลองโทรหาแฟนเก่าสิ...เพื่อคุกกี้จะยอมใจอ่อนรับสายหมาแบบมึง"
"ไอ้เวรแม็ก!!!"
มือเล็ก ๆ กำลังถูกมือหนาจับล้างแผลด้วยน้ำเกลืออย่าเบามือภายในเต็นท์ส่วนตัว ตอนนี้เริ่มมืดลงแล้วอากาศในเต็นท์ก็ไม่ร้อนมาก แต่เขาก็ยังเปิดพัดลมตัวจิ๋วพัดให้เธอ ปั้นตังค์ไม่ได้ถามความสงสัยของตัวเองออกมา ประโยคที่ว่าเธอเป็นคนของเขา มันหมายความว่าอะไรแล้วที่พูดออกไปต่อหน้าคนตั้งมากมาย ป่านนี้คนอื่นจะเข้าใจกันไปแบบไหน เขากับเธอไม่ได้เป็นอะไรกันสักหน่อย แถมยังมีเรื่องไม่ค่อยดีค้างคากันอยู่ด้วยซ้ำ ภาพที่เขาเป่าลมเบา ๆ ใส่มือของเธอตอนทำแผล ทำเอาใจเธอสั่นไหวแทบจับจังหวะกานเต้นของหัวใจตอนเองไม่ได้
"เรา...ไม่ต้องใช้แอลกอฮอล์หรือคะ"
"ใครสอนแบบนั้น...หืม เราต้องใช้น้ำเกลือล้างแผล ส่วนแอลกอฮอล์ใช้เช็ดรอบ ๆ แผล"
"รุ่นพี่เก่งจัง"
"ฮึ...นี่ชม?"
"อืม"
"แปลก"
"ปล่อยมือฉันได้แล้วค่ะ...เสร็จแล้วไม่ใช่หรอ"
มือเล็ก ๆ แสนนุ่มนิ่มที่เขาเป็นผู้ชายคนแรกนอกจากพ่อของเธอได้จับ เขาก็นั่งจับมันอยู่แบบนั้นจนเธอเริ่มทำตัวไม่ถูก แผลก็ทำเสร็จแล้วด้วย รอยแผลไม่ได้เป็นอะไรมากมีเลือดออกเป็นจุด ๆ เล็กน้อยเพราะตอนล้มมือไปกดโดนพวกหินกรวดก่อนเล็ก ๆ เพียงแค่นั้น แต่เขาลากเธอมาทำแผลราวกับว่าเป็นเรื่องใหญ่โต เธอก็ห้ามเขาไม่ทันมัวแต่ตกใจเรื่องที่เขาตะคอกนังรุ่นพี่ปีสองที่ชื่อโม
"รองเท้า"
"ไม่ต้องทำแล้วเดี๋ยวทำเอง"
"อืม"
"..."
"ฉันยังไม่ได้กินข้าวรุ่นพี่ปล่อยมือก่อน จะออกไปกินข้าวอ่ะหิว"
"กินข้าวเสร็จเดี๋ยวกินยาแก้ปวดด้วย"
"อืม"
"รุ่นพี่..."
"ครับ"
"ปล่อยมือตังค์ได้แล้ว....ตังค์พูดสาม-รอบ-แล้ว-นะ"