เชาว์เคาะนิ้วรอแฝดผู้น้องเกือบสามสิบนาทีค่อนข้างจะใจร้อนอยู่ภายในคืนวันศุกร์ที่คอนโดฯ ของตัวเอง ไม่รู้ว่าคิดถูกคิดผิดโทรเรียกไอ้น้องเวรชาวินมาตรวจอาการของเด็กเลี้ยงส่วนตัวซุกซ่อนไว้
ขืนมันปากหมาโพล่งไปบอกให้ปะป๊ากับหม่ามี้รู้ว่าเขาแอบเลี้ยงนักศึกษาสาวคนหนึ่งมาหนึ่งปี ต้องถูกซักไซ้ไล่ถามอย่างละเอียดแน่ๆ
ซึ่งคนอย่างเขาไม่ต้องการให้เป็นแบบนั้น มันไม่มีวันนั้น นักธุรกิจหนุ่มมั่นใจ
ผลัวะ!
“Hi! สวัสดีตอนเช้าครับพี่เชาว์”
แค่เพียงแตะคีย์การ์ดห้องส่วนตัวของพี่ชายใหญ่ ชาวินหอบเอาอุปกรณ์แพทย์ที่จำเป็นเข้ามา และไม่ต้องแปลกใจว่าทำไมเขาถึงได้คีย์การ์ดห้องสำรอง เพราะเชาว์มอบให้น้องชาย เผื่อเหตุจำเป็นฉุกเฉิน
“สวัสดียามเช้าบ้าพ่องมึงสิ! นี้มันเวลาเกือบจะเที่ยงคืนแล้ว กรุงเทพฯ รถติดมากหรือยังกัน ห๊ะ!” เชาว์บอกเสียงดุกร้าวจนคนฟังรีบปิดหู ทำหน้าหลอเหลาไม่อยากรับคำด่าจากคนพี่เสียตอนนี้
ชาวินไม่เคยเห็นพี่ชายฟิวส์ขาดแบบนั้น...
“ใจเย็นสิครับพี่เชาว์ ไปกินรังแตนที่ไหนมา หน้าบูดบึ้งเหมือนตูดลิงเชียว”
จากนั้นชาวินหัวเราะคิกคักถูกใจที่แหย่แฝดผู้พี่ คลานตามมาด้วยกันไม่ถึงกี่นาทีได้ เขาเพิ่งเอาชนะพี่ชายก็คราวนี้แหละ
“ไอ้วิน! วอนหาเรื่องเหรอ”
เชาว์กัดฟันพูดแน่นอย่างไม่สบอารมณ์ เห็นแก่ว่าเป็นน้องชายแฝดหน้าตาเหมือนเขาหรอกนะ ถึงยอมอ่อนข้อให้
“กับน้องตัวเองยังไม่เว้นเลย ผมไปฟ้องหม่ามี้ดีกว่าว่าพี่เชาว์รังแกผมตั้งแต่เด็กจนตัวโตเท่าป๊าแล้ว”
อันนี้เขาเถียงสู้มันไม่ได้ ต่างพอรู้อยู่ว่าชาวินใช้สายตาตัวเองออดอ้อนกับแม่น้ำค้างแล้วท่านใจอ่อนยวบเหลวลงทุกที ถามสาเหตุว่าทำไมก็ต้องร้องอ้อ
‘เพราะเวลาที่ลูกวินอ้อนแม่ ดวงตาคู่นั้นเหมือนแด๊ดเจมส์ของพวกหนูยังไงล่ะ แม่ก็เลยใจแข็งไม่ลงสักที’
‘ที่แท้หม่ามี้ก็รักปะป๊ามากกว่าพวกผมอะ'
เชาว์กับชาวินเคยไม่ถูกกับพ่อแท้จริง หลังจากเจอหน้ากันครั้งแรกในรอบห้าปี สองแฝดชายรวมหัวกันเพื่อเอาคืนแด๊ดดี้เจมส์ให้สาสม สะใจพอหรือยัง จนพ่อตัวเองแทบสำนึกผิดไม่ทัน
แต่ตอนนี้รักปะป๊ามากกว่าหม่ามี้เพราะบริษัทของพ่อเสียมากกว่า เชาว์บอกขัดแย้งในใจ
“ไอ้น้องเวร มานี่ก่อน”
“อะไรกันครับพี่ชาย” ยังมีหน้ามาล้อเลียนเขาอีก เป็นน้องชายก็ต้องให้เคารพคนเกิดก่อนสิ
“ไม่ต้องถามมาก”
ชาวินถูกแฝดผู้พี่จับคอเสื้อเขาจากทางด้านหลังลากตัวเข้ามาภายในห้องนอนส่วนตัว ปกติคนเป็นพี่ชายค่อนข้างหวง ห้ามให้ใครมายุ่มย่าม แต่นี่อะไร ผู้หญิงสาวสวยนอนอยู่เตียงของเชาว์
ไม่อยากจะเชื่อ!
พอเห็นดังนั้น เชาว์คันไม้คันมือนึกอยากตบกบาลของแฝดน้องมัวตกตะลึง อ้าปากค้างจนไม่หุบมันลง ตัวเองมีแฟนอยู่แท้ๆ เชียว ยังมีหน้ามองสาวอื่นอีก
“โอ๊ย! พี่เชาว์ ตบหัวผมทำไมเนี่ย”
“กูให้มึงมารักษาคนป่วย ไม่ใช่มาตกหลุมรักผู้ป่วยเอง หรือมึงจะนอกใจน้องเขาอยู่ต่างประเทศ” ก็พอรู้ว่าแฝดน้องเสน่ห์แรง ขึ้นชื่อฉายาเพลย์บอยตัวร้ายตามรอยพ่อเจมส์ ชาวินไหวไหล่เบาๆ
“ผมไม่ได้นอกใจว่าที่แฟนผมเสียหน่อย ผมก็แค่แปลกใจว่าทำไม” มองสาวสวยหน้าอ่อนใสซื่อแล้วหันมาถามพี่ชายต่อว่า...
“แอบขโมยลูกสาวใครเขามาทำมิดีมิร้ายมาหรือเปล่า ถ้าหม่ามี้รู้ก็คงไม่พอใจ”
“กูไม่ได้ฉุดขโมยใครถ้าหากเขาไม่เต็มใจมาเอง มึงรีบตรวจได้แล้วว่าเมียกูเป็นอะไร กูจะรอด้านนอก”
เมียกู?
ชาวินไม่อยากเชื่อหูด้วยตัวเองจากคำพูดของพี่ชายแฝดที่เหมือนกันเพียงแค่หน้าตา นอกนั้นต่างกันลิบลับ ปกติพี่ชายเขาไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับผู้หญิงคนไหนมากนัก ส่วนมากก็ซื้อกินในคลับตัวเองบ้างเล็กน้อย
หรือว่าสาวสวยคนนี้จะเป็นตัวจริง?
“นี่ผมกำลังจะมีพี่สะใภ้ใหญ่แล้วเหรอครับ”
ชาวินปัดความสงสัยกับข้อมูลใหม่มากที่ได้รับ ชายหนุ่มเริ่มทำหน้าที่ตัวเองร่ำเรียนมาหลายปี ตรวจร่างกายแสนเล็กบอบบาง ผิวขาวเนียน แต่ใบหน้าซีดเซียวไปหน่อย ตัวเล็ก อุ้มง่าย ตรงสเป็กที่พี่ชายชอบ
เพราะเชาว์ชอบอะไรคล้ายกันกับหม่ามี้น้ำค้าง ชอบเดินตามรอยพ่อเจมส์
“อื้ม...”
“รู้สึกตัวแล้วรึครับ”
อิงดาวจำเสียงเข้มของผู้ชายใจร้ายคนนั้นได้ดี กลับแปลกมาก ไม่ใช่เสียงเข้มแบบดุกร้าว ตะคอกอารมณ์เสียเหมือนอย่างที่เขาเคยทำ แต่เป็นเสียงเข้มนุ่มนวล จนเธอเกือบเผลอใจสั่นไหว
“คุณ...ไม่ใช่?”
ทีแรกลืมตาตื่นขึ้นเพียงเห็นใบหน้าของคนที่อิงดาวคิดถึงและโหยหาอ้อมกอด เธอเกือบน้ำตาซึม นึกว่าเชาว์จะเป็นห่วงเธอถึงขนาดนั่งเฝ้าตลอด
มองชั่งใจสักพัก ความรู้สึกแบบมันไม่ใช่เขา แต่เป็นคนหน้าเหมือนกัน ไม่รู้สิ อิงดาวบอกในใจว่าคนตรงหน้าคือคนอื่น
“ทำไมคุณถึงบอกว่าผมไม่ใช่คนนั้นล่ะครับ” ว่าจบกลับยักคิ้ว ทำตาแพรวพราวใส่สาวสวย
ยิ่งมอง แววตาใสซื่อคล้ายกับแม่น้ำค้าง มิน่าล่ะ ตรงตามสเป็กของพี่ชาย คำพูดของเชาว์บอกเข้ามาวนเวียนในหัวอีกที
‘ถ้าพี่มีเมียจริง คนคนนั้นต้องมีนิสัยและหน้าตาบางส่วนคล้ายกันกับแม่ของพวกเรา พี่ถึงจะยอมให้เธอได้ทุกอย่าง ถ้าหากว่าผู้หญิงคนนั้นมีอยู่จริง’
“ขอโทษค่ะ คุณไม่ใช่คุณเชาว์ แต่ทำไมหน้าเหมือนกัน...” ไม่ทันที่อิงดาวโพล่งปากถามด้วยความสงสัย ชาวินตัดสินใจเอ่ยความจริงให้เด็กสาวใสซื่อรับรู้
“ผมไม่ค่อยกลับมาอยู่เมืองไทย คุณคงไม่รู้ว่าพี่เชาว์มีพี่น้องฝาแฝดอีกหนึ่งคน ผมชื่อชาวิน น้องชายแฝดของพี่เชาว์เองครับ” อิงดาวเบิกตากว้างตกใจ เขามีน้องชายอีกคนหน้าตาเหมือนกัน ยกเว้นแววตาที่ผู้น้องอ่อนโยนมากกว่าผู้พี่
จริงสินะ เธอเป็นเพียงแค่ของตาย ของเล่นแก้ขัดดอกใช้หนี้แทนพ่อตัวเอง ไม่ใช่ผู้หญิงสำคัญของท่านประธานบริษัทใหญ่ต้องรู้เรื่องภายในครอบครัวเขา แม้กระทั่งเขามีแฝด
คิดแล้วก็แอบน่าน้อยใจตัวเอง...อิงดาวหน้าหมองเศร้าลง ทุกการกระทำของเธอรวมอยู่ในสายตาของชาวินหมด
“เหรอคะ” เสียงเธอสั่นเครือเอ่ยบอก
“เอ๊ะ หรือว่าพี่เชาว์ไม่เคยบอกให้คุณ...” หยุดพูดสักพัก เพราะยังไม่รู้ว่าสาวสวยตรงหน้ามีชื่ออะไร
“อิงดาวค่ะ”
“คุณอิงยังไม่รู้ว่าพี่เชาว์มีฝาแฝด มันน่านักนะครับ”
แววตาใสซื่อ หลบตาไม่กล้าสู้หน้าใครนี่แหละ เหมาะเม็งมาก! เหมาะกับการเป็นว่าที่พี่สะใภ้ของเขา เรื่องแบบนี้ต้องนำกลับไปเล่าให้น้องสาวฟังแล้วละ
“แล้วนี่ฉันเป็นอะไรไปคะ คุณหมอชาวิน” พอมองการแต่งตัวของหมอนอกเครื่องแบบก็เดาออกได้เล็กน้อย
“ว่าที่พี่สะ...เอ่อ คุณอิงดาวแค่ร่างกายอ่อนเพลียนะครับ เป็นธรรมดาของคนแพ้ท้อง ตอนนี้คุณกำลังท้องได้แปดสัปดาห์ แล้วมียาอะไรให้กินบ้างหรือยัง ถ้ายัง ผมจะได้จัดยาให้เอาเป็นวันพรุ่งนี้แทนครับ”
“เรื่องนี้ฉันพอทราบค่ะว่ากำลังท้อง” แล้วทำไมคนท้องถึงยักไม่ดีใจหรือแสดงท่าทีบ่งบอก ทำหน้าเศร้าเหมือนไม่อยากได้เด็กคนนี้
“แล้วไปฝากครรภ์หรือยังครับ ทำไมพี่ชายมันห่วยมากขนาดว่าเมียท้องยังไม่พาไปอีก แบบนี้ผมคงต้องบอกมันแล้วละ” ว่าดูแลเมียประสาอะไร ตัวเองกำลังจะกลายเป็นพ่อคนเพียงไม่กี่เดือน ปล่อยให้เมียเด็กนอนซมพิษไข้แถมยังปิดบังคนในครอบครัวอีก
พี่เชาว์...ใจร้ายเกินไปแล้วนะ!
“อย่าบอกเขานะคะ ฉันขอร้อง คุณชาวิน”
อิงดาวไม่รอช้ารีบคว้าจับข้อมือของชาวิน ส่ายหน้าเบาๆ ห้ามปรามเอาไว้ มืออีกข้างกำแน่นหากัน
“ทำไมล่ะครับ?”
“ให้คุณชาวินบอกไปมันก็ไม่เซอร์ไพรส์สิค่ะ ให้อิงบอกเขาดีกว่า พี่เชาว์น่าจะดีใจมาก”
ปิดบังโกหกเรื่องจริงแล้ว อิงดาวจำเป็นต้องทำเพื่อความปลอดภัยตัวเธอและลูกกำลังก่อกำเนิดอยู่ภายในอีกเจ็ดเดือนข้างหน้า
“งั้นก็ได้ครับ ผมจะไม่บอกเรื่องนี้กับพี่เชาว์”
ชาวินเห็นว่าคนป่วยลำบากใจหนักสุดๆ จึงยอมปิดปากเรื่องส่วนตัว ความลับของคนไข้สาวอาจมีศักดิ์มาเป็นว่าที่พี่สะใภ้ใหญ่ เรื่องนี้ค่อยลอบเคียงถามพี่ชายอีกทีหนึ่ง
แต่ภาพไม่อยากให้แฝดผู้น้องเกิดขึ้นก็เกิดแล้ว เมื่อพี่ชายแฝดเปิดประตูเข้ามา เนื่องจากคนน้องเข้าไปตรวจดูอาการคนของเขานานเกินเหตุ สองมือหนาของเชาว์กำแน่นเข้าหากัน เพียงเห็นอิงดาวจับมือถือแขนของชาวิน
“ไอ้น้องเวร! มึงถอยห่างจากตัวเธอเสียเดี๋ยวนี้”
“พี่เชาว์...มันไม่ใช่อย่างที่พี่คิด” ชาวินส่ายหน้าพัลวัน ทันทีที่อิงดาวตกใจจนปล่อยมือจากท่อนแขนเขา
“กูบอกให้มึงหุบปากไงล่ะ!”