บทที่6 ขอแค่นี้ได้ไหม

1661 คำ
“ออกมาคุยกันด้านนอก...ส่วนเธอ อิงดาวนอนรออยู่ที่นี่แหละ” พอหลังออกคำสั่งไปทางน้องชายแฝดเสร็จ เชาว์ส่งสายตาดุกร้าวหวังให้เด็กปกครองเชื่อฟังคำสั่งเขาโดยง่ายดาย อิงดาวจำใจยอม เพราะตอนนี้ทำอะไรคนมีอำนาจเหนือกว่าเธอทุกอย่างไม่ได้ รอวันที่เธอได้รับอิสระเสียก่อนเถอะ เขาจะไม่มีวันได้เจอหน้าเลือดเนื้อเชื้อไขของเขาที่อาจไม่ต้องการ ตลอดชีวิต คิดแค่นี้ล่วงหน้าไปก่อน “คนนี้ตัวจริงใช่มั้ยครับ ผมจะได้นำข่าวดีไปบอกป๊ากับหม่ามี้ แบบนี้น้องเนยหวานคงจะงอแงน่าดูที่พี่ชายคนโตสุดหวงแหนกำลังมีครอบครัวเป็นของตัวเอง...” ไม่ทันพูดให้จบ คนเป็นพี่ชายนึกหมั่นไส้น้องชายค่อนข้างจุ้นจ้านเรื่องของคนอื่นมาก เชาว์เขกหัวชาวินจัดเข้าไปหนึ่งดอกจนเจ้าตัวร้องโอดโอย บ่นว่าเจ็บ “โอ๊ย! พี่เชาว์ ผมเจ็บนะครับเนี่ย” “ห้ามบอกเรื่องนี้ให้พ่อแม่และน้องเนยหวานรู้เด็ดขาด ผู้หญิงคนนั้นแกก็ช่วยลืม ห้ามไปบอกใคร เข้าใจใช่มั้ย” เขาเอ่ยออกคำสั่งเสียงเข้มดุนิดๆ “หรือพี่เชาว์คิดอยากเป็นเหมือนป๊าตอนสมัยหนุ่มๆ เก็บผู้หญิงคนนั้นไว้เป็นของเล่น เครื่องระบายความเหงาเหรอครับ ถ้าพี่คิดแบบนั้น พี่ก็เป็นคนเลวมาก” “ผู้หญิงคนนั้นไม่มีอะไรดีด้วยซ้ำ อีกไม่นานพี่ก็ปล่อยเธอไปแล้ว นายกลับบ้านไปได้แล้ว” แต่ก่อนเชาว์นึกอะไรบางอย่างหันมาเอ่ยถามแฝดน้องชาย “ว่าแต่เธอเป็นอะไร อาเจียน เหม็นกลิ่นอาหาร พะอืดพะอมทุกครั้งที่ได้กลิ่นห้องครัวหรือห้องน้ำสกปรก แกเป็นหมอก็น่าจะรู้ดีนี่น่า” เจอคำถามจากพี่ชายตรงๆ คนเป็นน้องชายจำเป็นต้องปกปิดความลับของคนไข้ “เธอแค่อ่อนเพลีย นอนน้อย เป็นไข้ธรรมดานั่นแหละครับพี่เชาว์ ไหนว่าเป็นแค่ผู้หญิงชั่วครั้งชั่วคราว ไม่ต้องสนใจเลยก็ได้นี่ครับพี่ชาย” และเชาว์ถลึงตาแทบออกจากเบ้าใส่คำพูดยียวนของน้องชายแฝด นอกจากหน้าตาเหมือนกัน ไม่มีส่วนไหนที่เหมือนกันเลย แตกต่างโดยสิ้นเชิง “ไอ้ชาวิน กลับบ้าน!” “ไปก็ได้ครับพี่ชาย ขู่ได้ขู่ดีจัง เป็นป๊าหรือพี่เนี่ย” เชาว์ผลักร่างของชาวินออกจากห้อง ขืนอยู่ต่อ ไม่แน่ว่าความลับบางอย่างปกปิดคนในครอบครัวมาตลอดหนึ่งปีอาจจะรั่วไหลเพราะความปากหมาของมัน “อย่ารุนแรงกับว่าที่พี่สะใภ้ผมนะครับพี่เชาว์ พี่สะใภ้ยิ่งตัวบอบบาง น่าทะนุถนอมอยู่” “ไอ้น้องเวรเนี่ย วอนหาเรื่องอยากโดนกูเตะปากหรือไงกัน เธอเป็นแค่ลูกหนี้พี่ ไม่มีทางได้เป็นตัวจริงของพี่หรอก” ปากบอกตรงกันข้ามกับความรู้สึกกำลังเป็นอยู่ในขณะนี้ เชาว์ยังหาคำตอบตัวเองไม่ได้ว่าทำไมถึงไม่ยอมปล่อยอิงดาวตามพันธะสัญญาทำไว้ครบหนึ่งปี ทำตัวคล้ายๆ ว่าไม่อยากห่างตัวเธอแม้สักวินาทีเดียว “เชี่ยแม่ง! วันนี้เป็นวันอะไรวะ ทั้งเมียทั้งน้อง!” หัวใจของอิงดาวเต้นแรงระรัวเมื่อได้ยินคำว่า ‘เมีย’ ออกจากปากผู้ชายปากหนักอย่างเชาว์ อยู่ด้วยกัน ใช้ชีวิตคล้ายกับผัวเมียจนครบหนึ่งปีเต็ม แต่ทุกคำที่เขาบอกว่าเธอเป็นเพียงสิ่งของคล้ายตัวขัดดอกหนี้ การกระทำเอาใจใส่บางทีแอบทำเอาเธอใจสั่น หวั่นไหวกับถ้อยคำดิบๆ ห่ามๆ แต่แฝงด้วยความห่วงใยมีต่อเธอล้นหลาม เคยแอบคิดนะว่าเขาทำแบบนี้มีความรู้สึกเช่นเดียวกันกับเธอหรือเปล่า ไม่แน่ใจว่าเขารักเธอหรือว่าอย่างไรกัน... “พี่เชาว์” เสียงเรียกจากทางต้นเสียงหวานด้านในห้องทำเอาเชาว์หยุดคิดเรื่องอื่น หันมาสนใจผู้หญิงคนที่ดึงดูดความสนใจของเขาไปจนหมด “ทำไมไม่นอนพัก” น้ำเสียงเชาว์บ่งบอก ก่อนยื่นมือขึ้นมาแตะเนื้อต้องตัวร่างบอบบางนั่งอยู่บนเตียง “ตัวก็ไม่ร้อนแล้ว ลุกขึ้นกินข้าวไหวมั้ย?” แต่อิงดาวส่ายหัวพัลวัน กลัวว่าได้กลิ่นข้าวต้มแล้วอาการอาเจียนจะกำเริบขึ้น บางทีคนตัวโตอาจสงสัยเธอ “ไม่ค่ะ อิงอยากขอกลับไปเรียนหนังสือวันจันทร์ได้มั้ยคะ” “อืม ถ้าเธอหายดีทันก่อนนะอิงอิง” สุดท้ายเชาว์เรียกชื่อเล่นของคนผูกปิ่นโตด้วยกัน แววตาอ่อนโยนส่งมาจนอิงดาวแอบรู้สึกผิด ไม่กล้าบอกเรื่องท้อง เพราะเธอทำผิดกฎตั้งแต่ข้อแรกว่าห้ามตกหลุมรักเจ้าหนี้ เจ้าของสัญญาการใช้หนี้แทนครอบครัวเธอ “นอนพักเถอะ พรุ่งนี้ฉันจะพาเธอไปเที่ยว เตรียมตัวก็พอ ข้าวของของเธอกับฉัน ลุงเรเปลจัดการแพ็กกระเป๋าไว้ในรถเรียบร้อยแล้ว” “ไปเที่ยวเหรอคะ?” ใบหน้าขาวซีดไร้สีของอิงดาวกลับเปลี่ยนแปลงเป็นสีแดงซับแก้มนวลระเรื่อ ดวงตากลมโตเหมือนกระต่ายตัวน้อยๆ ตื่นเต้นเบิกตากว้างด้วยความดีใจ เธอไม่เคยออกไปเที่ยวไหนไกลหรือออกจากบ้านด้วยซ้ำ และเชาว์ชอบมองใบหน้าหวานมีรอยยิ้มที่ละลายน้ำแข็งเย็นชาหัวใจที่เขารักใครไม่เป็น...อิงดาวเป็นคนแรก ที่อาจหยุดหัวใจไว้ให้... “อืม อยากไปมั้ย” มือหนาลูบศีรษะคนตัวเล็กเบาๆ แสนอ่อนโยน “อยากไปสิค่ะ แต่ไม่มีใครพาอิงไปเที่ยวเลยสักคน” เธอว่าพลางหลุบตาต่ำก้มลง แม่ก็ทำงานงกๆ ไม่ค่อยได้กลับมาบ้าน ส่วนพ่อก็มีแต่สร้างปัญหาใหญ่โต ติดเหล้า ติดหนี้การพนัน ถ้าหากตอนนั้นไม่มีคุณเชาว์ของเธอเข้ามายื่นมือช่วย ป่านนี้เด็กสาวคงถูกพ่อตบตีจนตายกันไปอีกข้างแล้วล่ะ “หื้ม อะไร?” หัวคิ้วเข้มของเชาว์ขมวดเข้าหากันเนื่องจากเห็นกระต่ายน้อยขี้อ้อนที่เก็บมาเลี้ยงไว้บำเรอแก้ขัดอารมณ์เซ็กซ์ ยื่นมือสองข้างเหมือนให้เขาอุ้ม “ขอกอดหน่อยได้มั้ยคะ คืนนี้อิงคงนอนไม่หลับถ้าไม่ได้นอนกอดกับพี่เชาว์” “ได้สิ มากกว่ากอด ฉันก็ทำได้” เชาว์หัวเราะคิกคักเพียงเห็นกระต่ายน้อยทำปากยื่น ส่งค้อนควักใส่ ก่อนถูกเขากดจูบปากหวานตอบกลับแผ่วเบา จงใจผละออกหวังให้เธอขัดใจ “คุณเชาว์! ห้ามจูบอิงอีก” “อ้าว ไม่ให้จูบเมียแล้วจะให้ผัวไปจูบกับใครได้ล่ะ” “อิงไม่ใช่เมียพี่!” อิงดาวโพล่งปากสวนกลับทันควัน “เป็น! เธอเป็นเมียคุณเชาว์คนนี้ อย่ามาเถียง” ใจอิงดาวนึกอยากขัดแย้งให้รู้แล้วรู้รอดแต่จำใจเก็บคำด่าหรือจะเถียงสามีพฤตินัยเอาไว้เสียก่อน เธอกับเขาร่วมรัก มีอะไรกันแทบทุกคืนจนคนตัวเล็กกลายเป็นส่วนหนึ่งของเชาว์ จากคนตัวโตกลายเป็นลูกหมาเชื่องๆ วิ่งตั้งท่าเข้ามาเพียงเธอออดอ้อน เอาหัวตัวเองถูไถคลอเคลีย เขาก็ซับพอร์ต ตามใจเธอแทบทุกอย่าง “ดีมาก เด็กดี ทำตัวให้น่ารัก แล้วฉันก็จะรักเธอให้มากๆ กว่านี้” แต่อีกฝ่ายคิดต่างกันออกไป อิงดาวทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ ‘แล้วเมื่อไหร่เขาถึงจะปล่อยเราไป’ “ไหนใครบอกว่าอยากโดนผัวกอด หื้ม!” ใช้แววตาเป็นการตั้งคำถามจนเธอพูดต่อไม่ออก เมื่อเห็นว่าท่าทีของอีกฝ่ายนิ่งเงียบ แสดงว่ายอมให้เขากอด ท่อนแขนแข็งแรงรวบตัวอิงดาวเข้ามานอนกอดด้วยกัน มืออีกข้างเลื่อนไล้โอบเอวเธอหลวมๆ คล้ายกับไม่ยอมปล่อยเธอไปจากเขาได้จริงๆ “นอนเถอะ” วันนี้เชาว์เหนื่อยมากแล้วจากการทำงาน ก้มลงสูดดอมดมซึมซับเอากลิ่นหอมสบายทันทีที่ได้รับ ส่วนคนอยู่ในอ้อมกอดนิ่งเงียบ ถูกรัดกอดแน่นขนาดนี้ ใครจะนอนหลับลงได้ ว่องไวเท่าความคิด คนวางแผนคิดหนีจากกรงขังซาตานร้ายของเขาให้ปลดปล่อยออก อิงดาวค่อยๆ เอามือเขาพาดลงตัวเธอหนักๆ การกระทำเชื่องช้า มีหรือคนแกล้งหลับจะไม่รู้ หมับ! ยิ่งพยายามกระดกตัวหนีจากเชาว์ ยิ่งถูกอ้อมกอดของชายหนุ่มรัดแน่นจนเธอเกือบจุกอก ‘ไม่มีวิธีไหนที่จะหนีจากเขาเลยเหรอ ครบหนึ่งปีแล้วทำไมเขายังไม่เบื่อหน่ายตัวเธออีก?’ ความคิดสับสนวนเวียนอยู่ภายใต้หัวสมองของอิงดาวมากมาย คิดจนหัวแทบระเบิด สุดท้ายความอ่อนเพลียจากการอาเจียนหนักเพราะแพ้ท้องลูกคนใจดำ มองเห็นเธอเพียงสิ่งของที่จะโยนของไปมาอย่างไรก็ได้ อิงดาวเหนื่อยหนักจนผล็อยหลับไป จากนั้นลมหายใจสม่ำเสมอของคนที่คิดว่าหลับกลับปรือตาตื่น โน้มใบหน้าคมคายจ้องมองหน้าหวานที่เขาชื่นชอบ มองมันได้อย่างไม่ละสายตา และเชาว์ก็ไม่รู้ทำไมต้องคอยสนใจลูกหนี้สาวอยู่ตลอด ทั้งที่หมดสัญญาการใช้หนี้ครบหนึ่งปีแล้ว ยังอยากเก็บตัวเธอไว้ข้างกาย เมื่อไหร่เขาจะเบื่อหน่าย ซึ่งให้คำตอบไม่แน่ชัดว่าอาจไม่มีวันนั้นเลยก็ตามทีเถอะ... “เธอคงจะเกลียดฉันมากสินะถึงไม่อยากอยู่กับฉันแล้ว อิงดาวของพี่” และเขายังอยากมีเธอในสายตาตลอด เชาว์ทำสิ่งที่ไม่คาดคิด เขากลับโน้มตัวกดจูบหน้าผากมนของอิงดาวอย่างแผ่วเบา และไม่มีผู้หญิงคนไหนได้รับความเอาใจใส่และทะนุถนอมจากท่านประธานเย็นชาคนแรกแห่งปีนี้ “ไม่ว่าอย่างไร ฉันคงปล่อยเธอห่างจากฉันไปไม่ได้อีกแล้ว”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม