bc

พ่ายแพ้ให้แก่รัก

book_age18+
105
ติดตาม
1K
อ่าน
นักสืบ
ออฟฟิศ/ที่ทำงาน
like
intro-logo
คำนิยม

'เขา' เข้าหา 'เธอ' เพราะผลประโยชน์

chap-preview
อ่านตัวอย่างฟรี
บทนำ
บทนำ ชุมชนแออัดในย่านใจกลางเมืองแห่งหนึ่งไม่ได้รับการจัดระเบียบที่ดีนัก ทำให้กลายเป็นแหล่งรวมสิ่งสกปรกและเชื้อโรคเอาไว้มากมาย เป็นภาพที่ไม่น่าดูสักเท่าไร ซีอีโอหนุ่มเจ้าของเตชินกรุ๊ปยืนมองภาพนั้นผ่านกระจกใสจากตึกสูงห้าสิบชั้นที่ตั้งอยู่ข้างกันด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง ชายหนุ่มยกถ้วยกาแฟในมือขึ้นจิบ พลางคิดในใจไปด้วยว่าเขาจะจัดการกับชุมชนโสโครกนี้ได้อย่างไร และจะทำอย่างไรให้ที่ดินผืนนั้นทั้งหมดตกเป็นของเขา เสียงเคาะประตูทำให้ชายหนุ่มละสายตาจากความสกปรกข้างล่าง เอ่ยอนุญาตให้คนที่อยู่ข้างนอกเข้ามาได้ พร้อมเดินกลับไปนั่งที่โต๊ะทำงานตัวใหญ่ของตัวเอง เควิน คาร์เตอร์ ผู้ช่วยหนุ่มสัญชาติอเมริกันโค้งศีรษะให้ผู้เป็นนายเล็กน้อย แล้วเดินเอาซองเอกสารสีน้ำตาลไปวางบนโต๊ะตรงหน้าเจ้านายหนุ่ม เตชินโน้มตัวไปหยิบซองเอกสารขึ้นมาเปิดดู ไล่สายตาอ่านลงไปจนถึงจุดสำคัญก่อนที่หัวคิ้วเขาจะย่นเข้าหากัน ด้วยรู้สึกไม่พอใจเมื่อไม่เห็นลายเซ็นที่เขาต้องการ “ไม่ยอมขายครับ” เควินเอ่ยขึ้นเพื่อยืนยันว่าความว่างเปล่าที่เจ้านายเห็นนั้นคือเรื่องจริง “ทีมของเราพยายามกันอย่างสุดความสามารถแล้วครับ แต่ฝ่ายนั้นก็ยังยืนยันว่าจะไม่ยอมขายที่ดินตรงนั้น” “ฉันบอกว่าครั้งนี้ไม่เกี่ยงราคา นายได้เสนอไปตามที่ฉันสั่งหรือเปล่า” “ครับ แต่คุณย่าที่เป็นเจ้าของที่ยืนยันว่ายังไงก็จะไม่ยอมขาย แล้วบอกต่ออีกว่าต่อให้เอาตึกข้าง ๆ มาแลก ท่านก็ไม่ยอมครับ” เจ้าของตึกข้าง ๆ ที่ถูกกล่าวถึงดึงปมเน็กไทให้คลายออกเล็กน้อยเพื่อคลายความหงุดหงิดในใจ ร่างสูงร้อยแปดสิบห้าเซนติเมตรยืนขึ้นเต็มความสูง ก้าวยาว ๆ ไปยืนริมกระจกใสอีกครั้ง “เควิน” “ครับ” ผู้ช่วยหนุ่มขานรับแล้วเดินเข้าไปยืนข้าง ๆ ผู้เป็นนาย “นายดู เห็นอย่างที่ฉันเห็นหรือเปล่า” เตชินพยักพเยิดหน้าลงไปยังพื้นที่ชุมชนแออัดข้างล่าง “นายบอกฉันทีว่าที่ตรงนี้มันมีอะไรดี” ชุมชนเล็ก ๆ อัดแน่นไปด้วยผู้คนอยู่รวมกันนับร้อยชีวิต เป็นภาพชินตาที่ซีอีโอหนุ่มเห็นเกือบทุกวัน ยิ่งมองเขาก็ยิ่งรู้สึกอึดอัดใจ เขาไม่เข้าใจว่าทำไมเจ้าของที่ถึงไม่ยอมขายมันให้กับเขา ทั้งที่เขาเสนอซื้อในราคาที่สูงกว่าราคาประเมินถึงเท่าตัว อีกทั้งครั้งล่าสุดที่ส่งทีมพัฒนาที่ดินเข้าไปเจรจา เขาแทบจะไม่เกี่ยงราคา ไม่ว่าจะเรียกมาในราคาสูงแค่ไหน เขาก็พร้อมที่จะจ่ายเพื่อให้ได้ที่ดินขนาดสี่ไร่ข้าง ๆ นี้มา ทว่าคนที่เป็นเจ้าของกลับไม่มีท่าทีสนใจข้อเสนอของเขาเลยสักนิด ...ไอ้ชุมชนโสโครกนี้มันมีอะไรดีนัก! ผู้ช่วยหนุ่มเห็นภาพนั้นจนชินตาพอ ๆ กับเจ้านาย แค่ปรายตามองเพียงแค่แวบเดียวก็สามารถตอบคำถามได้ “ไม่มีอะไรดีเลยครับ” “อืม แล้วนายช่วยบอกฉันต่อที ว่าต้องทำยังไงฉันถึงจะทำลายมันได้” ทำลาย...เพื่อสร้างสิ่งใหม่ที่ดีและคู่ควรกับพื้นที่มากกว่า เตชินมองว่าชุมชนแออัดแห่งนี้ขัดต่อภาพลักษณ์ของบริษัทเขา ด้วยลักษณะที่ดินเป็นพื้นที่ติดกัน มีเพียงแค่หลังคาเมทัลชีทกั้นระหว่างตึกของเขากับชุมชนนั่นไว้ ชายหนุ่มแพลนเอาไว้ว่าหากเขาได้ที่ดินข้าง ๆ นั้นมา เขาจะพัฒนาต่อให้มันกลายเป็นศูนย์การค้าขนาดใหญ่ จะส่งผลให้อาณาจักรเตชินกรุ๊ปในส่วนสำนักงานยิ่งใหญ่และกว้างขวางมากขึ้นไปอีกเท่าตัว ทว่าตอนนี้มันกลับไม่ง่ายอย่างที่เขาคิด เมื่อคนที่เป็นเจ้าของพื้นที่ข้าง ๆ นี้ไม่ยอมขายมันให้แก่เขา “ถ้าไม่ได้ด้วยมนตร์ ก็คงต้องเอาด้วยกล เราลองใช้กลกันหน่อยไหมครับ” ซีอีโอหนุ่มเกือบหลุดขำกับสำนวนแปลก ๆ ของผู้ช่วยหนุ่มสัญชาติอเมริกัน เควินเกิดที่ประเทศสหรัฐอเมริกา และย้ายมาอยู่กับมารดาที่เป็นคนไทยตอนอายุสิบสามปี จึงทำให้การใช้ภาษาไทยค่อนข้างแข็งแรง หากเรื่องสำนวนสุภาษิตและคำพังเพยยังถือว่าอ่อนนัก “ถ้าไม่ได้ด้วยเล่ห์ ก็ต้องเอาด้วยกล” เตชินใจดีแก้ให้ถูกต้อง “ครับ ถ้าไม่ได้ด้วยเล่ห์ ก็ต้องเอาด้วยกล” หนุ่มลูกครึ่งแก้ตามอย่างเขิน ๆ เจ้านายหนุ่มพยักหน้า “ไหน นายมีแผนยังไง ลองว่ามาสิ” “คุณย่าพวงผกาท่านมีหลานสองคนใช่ไหมครับ” “ใช่ มีหลานผู้ชายกับหลานผู้หญิง” เป็นเรื่องปกติที่จะรู้ข้อมูลของอีกฝ่ายก่อนจะติดต่อทำธุรกิจกัน ในกรณีนี้ก็เช่นกัน ซีอีโอหนุ่มสั่งให้เควินไปสืบประวัติของคุณย่าพวงผกาเจ้าของที่ดิน ทำให้เขาได้รู้ประวัติของอีกฝ่ายค่อนข้างละเอียดเลยทีเดียว “แล้วเกี่ยวอะไรกับหลานของท่าน” “ถ้าข้อมูลที่ผมรู้มามันไม่ผิดนะครับ ที่ดินผืนนี้มีคุณค่าทางใจ และในอนาคตคุณย่าจะยกให้หลานสาวเป็นคนดูแลต่อครับ” “จะเป็นของหลานสาวได้ยังไง ก็ตอนนี้หลานชายท่านดูแลเรื่องที่ดินทั้งหมดให้ท่านอยู่ไม่ใช่เหรอ” เตชินแย้ง เพราะในข้อมูลที่เขาได้มาบอกว่า ตอนนี้หลานชายของท่านที่ชื่อดรัณ ได้เข้ามาช่วยดูแลธุรกิจที่ดินต่อจากผู้เป็นย่าเต็มตัวแล้ว ซึ่งรวมถึงที่ดินผืนที่เขาอยากได้นี้ด้วย แล้วมันจะกลายเป็นของหลานสาวได้อย่างไร “เพราะมันเป็นที่ดินที่มีคุณค่าทางใจไงครับ” เตชินย่นหัวคิ้วเข้าหากันด้วยไม่เข้าใจคำว่าคุณค่าทางใจเท่าไรนัก ทว่าก็ไม่ได้แย้งอะไรอีก ชายหนุ่มถามลูกน้องถึงแผนการต่อทันที “แล้วแผนของนายคืออะไร หลานสาวของท่านมาเกี่ยวอะไรด้วย” “ผมว่าถ้าเราเข้าทางหลานสาวที่กำลังจะเป็นเจ้าของในอนาคต ก็อาจจะทำให้เป้าหมายของคุณเตชินสำเร็จก็ได้นะครับ” เพราะลองหว่านล้อมคุณย่าพวงผกามาทุกวิถีทางแล้ว ทว่าก็ไม่สำเร็จ ผู้ช่วยหนุ่มจึงคิดว่าวิธีที่ตนเสนอก็เป็นวิธีที่น่าลองไม่ใช่น้อย “นายหมายความว่า...จะให้ฉันเข้าไปจีบยายนั่นน่ะนะ ?” เขาเคยเจอหลานสาวของท่านแล้วครั้งหนึ่ง เธอเป็นเพื่อนสนิทของภรรยาเพื่อนเขา ไม่ได้รู้จักเป็นการส่วนตัว แต่เท่าที่ได้เจอเพียงเขาก็สามารถได้เต็มปากว่า...เธอไม่ใช่สเปกเขา “ครับ ผมว่าลองวิธีนี้ดูก็ไม่เสียหายอะไร” “แต่มันเสียเวลา นายก็รู้ว่าฉันไม่ชอบผู้หญิงโง่” “ฮัดชิ่ว!” “เฮ้ย ๆ อย่ามาเช็ดใส่เสื้อกันสิโว้ย” ดรัณรีบดันใบหน้าสวยหวานของน้องสาวออกห่าง เพราะอีกฝ่ายกำลังจะซบหน้าลงต้นแขนของตนหลังจากเพิ่งจามไปเมื่อสักครู่ “ยายเด็กสกปรก” “รังเกียจกันเหรอ ไม่รักน้องแล้วใช่ไหม” ดาวิกาเบ้ปาก แสร้งทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ใส่พี่ชาย “พอเลย เลิกดึงดรามา ไอ้มุกเดิม ๆ แบบนี้ใช้กับพี่ไม่ได้ผลหรอก” คนเป็นพี่ว่าพลางส่งทิชชูให้น้องสาวที่นั่งข้างกัน “แล้วเป็นไร อยู่ ๆ ก็จาม ไม่สบายหรือเปล่า” ดาวิการับทิชชูมาซับปากและจมูกที่แทบจะไม่มีอะไรเลอะเลย พลางส่ายหน้าไปมา “ไม่รู้อะ อยู่ ๆ ก็รู้สึกคันจมูก รู้สึกเหมือนมีคนนินทาเลย” “ก็ไม่แปลก เราก็ใช่ย่อยเหมือนกันนี่ เรื่องนินทาชาวบ้านชาวช่องเขาน่ะ” ถึงขั้นเรียกได้ว่าเรื่องของชาวบ้านคืองานของเธอ “อ้าว...ไอ้พี่เดล” ดาวิกายกมือเท้าสะเอว มองพี่ชายด้วยสีหน้าเตรียมเอาเรื่อง แล้วชี้นิ้วเข้าหาตัวเอง “นี่น้องนะ ดิวไง น้องสาวที่สุดแสนจะน่ารัก น่าทะนุถนอมของพี่ไง” ดรัณยื่นมือออกไปผลักศีรษะน้องสาวด้วยความหมั่นไส้ “ก็เพราะเป็นน้องไง ถึงได้รู้ว่าขี้นินทาคนอื่นแค่ไหน” “ง่ะ เขาเรียกเล่าสู่กันฟังต่างหาก” คนเป็นพี่ส่ายหน้าเอือมระอา คว้ารีโมตมาปิดโทรทัศน์ แล้วหยัดตัวลุกขึ้นจนเต็มความสูง “จะไปไหนอะ” “ไปทำงานสิ ไม่ได้ว่างงานเหมือนใครบางคนนะ” ดาวิกาเบ้ปากใส่ ที่เธอต้องเป็นคนว่างงานอยู่อย่างนี้ก็เพราะใครล่ะ ถ้าไม่ใช่คนที่ยืนค้ำหัวเธออยู่ตอนนี้ “ก็ตอนนั้นดิวจะไปทำงาน พี่เดลก็บอกว่าไม่ต้องไป ให้อยู่ช่วยงานที่บ้าน ทีตอนนี้ก็มาหาว่าดิวว่างงาน เฮอะ!” พูดจบเธอก็สะบัดหน้าด้วยท่าทีแสนงอน “ก็แล้วจะไปทำงานนอกบ้านทำไม งานในบ้านก็มีให้ทำ” “แล้วไหนล่ะ ไม่เห็นจะให้ทำอะไรสักอย่าง” แต่ละวันก็มีแต่นั่ง ๆ นอน ๆ พอเดินไปถามว่ามีอะไรให้ช่วยไหม ก็บอกว่าไม่มี แล้วจะให้เธอทำอะไรล่ะ “ดูแลคุณย่าไง” หญิงสาวกลอกตาไปมาอย่างเบื่อหน่าย “คุณย่ายังแข็งแรงอยู่เลย ถ้าไม่ใช่วันที่ต้องไปหาหมอ ดิวก็แทบจะไม่ต้องทำอะไรเลยด้วยซ้ำ” ถึงแม้อายุจะเข้าเลขเจ็ดแล้ว แต่คุณย่าพวงผกาของเธอก็ยังแข็งแรงดี มีโรคประจำตัวคนชราคือเบาหวานและความดัน จึงต้องไปพบแพทย์ตามนัดเป็นประจำก็เท่านั้น “นั่นแหละ ทำแค่นั้นก็พอ” ดรัณเป็นคนหวงน้องสาวมาก เขาไม่อยากให้ดาวิกาออกไปทำงานนอกบ้าน ด้วยฐานะทางครอบครัวก็ไม่ได้ขัดสนอะไร ที่มีอยู่ก็ไม่รู้จะใช้หมดเมื่อไหร่ หรือต่อให้ใช้ไปจนถึงรุ่นลูกรุ่นหลานก็ไม่มีทางหมด เพราะที่ดินหลายพันไร่ที่ปู่กับย่าปล่อยให้คนทั่วไปเช่านั้นสร้างรายได้ให้ครอบครัวเป็นจำนวนมหาศาลในแต่ละเดือน “หรือถ้าเบื่อมาก ๆ ก็ไปคุยเล่นกับไอ้ไข่ดาวก็ได้” “นั่นลูกดิว ดิวก็คุยทุกวันอยู่แล้วไหม” สาวทาสแมวว่า ไข่ดาวคือชื่อของแมวพันธุ์สกอตติชโฟลด์สีขาวมีสีเทาแซมนิดหน่อยที่ดรัณซื้อให้เป็นของขวัญวันเกิดเมื่อสองปีก่อน แทนแมวตัวเก่าที่ตายไปแล้วตามอายุไข “แต่จะให้คุยตลอดเวลามันก็ไม่ใช่เรื่องไหม เจ้าไข่ดาวมันก็ต้องมีเวลาพักผ่อนของมันนะ แล้วอีกอย่างจะมีคนบ้าที่ไหนนั่งคุยกับแมวได้ทั้งวี่ทั้งวัน” “ก็เราไง คนอะไรด่าตัวเองก็เป็น” คนเป็นพี่ส่ายหน้าขำ ๆ จำได้ว่าตอนช่วงแรกที่เขาพาเจ้าไข่ดาวเข้ามาในบ้าน ดาวิกาแทบจะขลุกอยู่กับแมวทั้งวันทั้งคืน คุยอะไรกันไม่รู้ ได้ยินแต่เสียงงุ้งงิ้ง ๆ ของหญิงสาว “ถ้าคุยกับแมวแล้วยังไม่หายเบื่อก็อัดคลิปลงติ๊กต๊อกไป” “หมดคอนเทนต์แล้วอะดิ” แม่สาวติ๊กต๊อกเกอร์ยู่ปากว่าเซ็ง ๆ อีกหนึ่งอย่างที่ดาวิกาชอบทำยามว่างก็คือการอัดคลิปวิดีโอต่าง ๆ ลงแอปพลิเคชันติ๊กต๊อก ทำให้เธอได้รับฉายาจากชาวเน็ตว่า ‘ดาวติ๊กต๊อก’ “พูดแล้วก็ถ่ายสักคลิปดีกว่า พี่เดลนั่ง ๆ” หญิงสาวหยิบโทรศัพท์ออกมา แล้วตบมือบนโซฟาให้พี่ชายนั่งลงที่เดิม “ไหนเมื่อกี้บอกหมดคอนเทนต์แล้ว ?” คนเป็นพี่ว่า แต่ก็ยอมนั่งลงตามที่น้องบอก เป็นเรื่องปกติที่เขามักจะถูกดาวิกาชวนถ่ายคลิปวิดีโอต่าง ๆ ในช่วงแรกเขาก็ไม่ยอมให้ถ่าย ทว่าพอได้หลวมตัวยอมถ่ายด้วยครั้งหนึ่งแล้ว มันก็มีครั้งสอง และครั้งสาม สี่ ตามมาเรื่อย ๆ โดยคนเป็นน้องให้เหตุผลว่า... ‘ถ่ายกับพี่เดลแล้วเรตติงมันดีอะ’ เพราะอีกฝ่ายมักจะมีเหตุผลขึ้นมาอ้างตลอด ทำให้เขาปฏิเสธไม่ได้ ช่วงหลัง ๆ เขาจึงยอมถ่ายด้วยอย่างง่ายดาย โดยคนเป็นน้องไม่ต้องเอ่ยชวนหลายครั้ง “ไหน จะถ่ายอะไร” ดรัณถาม ขณะดาวิกากำลังไล่นิ้วมือเลือกเสียงที่จะใช้ถ่าย “อันนี้ ๆ เพิ่งมาใหม่ เดี๋ยวพี่เดลเป็นคนนี้นะ ดิวจะเป็นคนนี้เอง” หญิงสาวยื่นโทรศัพท์ให้พี่ชายทำความเข้าใจและจับจังหวะตามคลิปตัวอย่าง ไม่นานชายหนุ่มก็สามารถทำตามคลิปต้นแบบได้ จากนั้นสองพี่น้องก็เริ่มถ่ายคลิปเลยทันที และเมื่อได้คลิปสมดั่งที่ตั้งใจแล้ว ดาวิกาก็ทำการปรับแต่งเพิ่มเติมอีกนิดหน่อยก่อนทำการอัปโหลดแชร์สู่สาธารณะ ดรัณกดจมูกหอมขมับน้องสาวแรง ๆ อย่างมันเขี้ยว ก่อนจะแยกตัวออกไปทำงานของตนอีกห้องหนึ่งทันที

editor-pick
Dreame - ขวัญใจบรรณาธิการ

bc

แม่หมอแห่งซูโจว

read
7.3K
bc

วิญญาณตามรัก

read
1K
bc

คุณหนูสิบเจ็ดตระกูลเจียง

read
10.4K
bc

พะยอมอธิษฐาน

read
2.3K
bc

เชลยรักท่านอ๋องอำมหิต

read
15.8K
bc

พันธะร้าย..ดวงใจรัก

read
1.9K
bc

รักต้นฉบับ(ไม่ลับ)แม่มดมนตรา

read
1K

สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป

download_iosApp Store
google icon
Google Play
Facebook