เมื่อได้ยินดังนั้น แพรไหมก็ไม่รู้จะพูดอะไรดี เธอเป็นคนที่แยกเรื่องงานกับเรื่องส่วนตัวออกจากกันได้อย่างชัดเจน แต่ทำไมพชรถึงมองว่าเธอไม่ใส่ใจงานได้ล่ะ? แพรไหมมองพชรและขมวดคิ้วเล็กน้อย จากนั้นก็พยักหน้า “เข้าใจแล้วค่ะ ฉันจะอยู่ทำโอทีคืนนี้” ก่อนหน้านี้เธอไม่เคยได้ยินว่าจะต้องทำงานล่วงเวลาเลย แต่ในเมื่อพชรพูดมาแบบนี้แล้ว เธอก็ไม่มีทางเลือก เมื่อพชรได้ยินคำตอบของแพรไหม เขาก็ยิ้มมุมปากและพยักหน้า “ดี เอาล่ะ ออกไปได้แล้ว” “ค่ะ” แพรไหมพยักหน้าและเดินออกไป โดยที่เธอไม่ได้สังเกตเห็นแววตาเจ้าเล่ห์ของพชรเลย… เมื่อออกมาแล้ว แพรไหมก็รีบหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหาภูพิงค์ ผ่านไปไม่นานปลายสายก็กดรับ “ฮัลโหล แพรไหม” เสียงอ่อนโยนของภูพิงค์ดังขึ้นจากปลายสาย “พี่ ขอโทษนะ วันนี้ฉันคงไปไม่ได้แล้ว” “ทำไมล่ะ?” “เย็นนี้ต้องทำโอทีน่ะ เลยไปไม่ได้แล้ว” แพรไหมพูด เมื่อภูพิงค์ได้ยินแบบนี้ เขาก็เงียบไปครู่หนึ่ง ก่อ