หลังจากที่มินนี่เดินออกไปแล้ว แพรไหมก็พยายามยืนด้วยท่าทางที่นิ่งที่สุด
พชรนั่งอยู่บนเก้าอี้หมุนสีดำ เขาสวมเสื้อเชิ้ตสีดำเข้ม ปลดกระดุมออกสองเม็ดเผยให้เห็นผิวสีแทน แขนเสื้อถูกม้วนขึ้นเล็กน้อย ทำให้เขาดูมีเสน่ห์น่าค้นหาเพิ่มมากขึ้น
ไม่คิดเลยว่า ผ่านไปสองปี พวกเขาจะได้เจอกันในสถานการณ์แบบนี้
พชรดูเอกสารประวัติพนักงานที่อยู่ตรงหน้า มือเรียวยาวพลิกเอกสารดูอย่างไม่ได้สนใจอะไรมากนัก เขาดูเพียงรูปและชื่อเท่านั้น
“แพรไหม? กลับจากลอนดอนงั้นเหรอ?” พชรพูดขึ้นช้า ๆ พร้อมกับสายตาที่จับจ้องมาทางเธอ
“ใช่ค่ะ!” แพรไหมยังคงยืนอยู่ที่เดิม พร้อมกับยิ้มที่เต็มไปด้วยความมั่นใจ ต่อให้ในใจจะว้าวุ่นแค่ไหนก็ตาม
เธอรู้สึกเสียใจที่ไม่ได้ตรวจสอบข้อมูลเบื้องหลังของเรย์เดล กรุ๊ปให้ดีก่อนเข้ามาทำงาน
ไม่คิดเลยว่าพชรจะเป็นประธานของเรย์เดล!
เมื่อพชรเห็นท่าทางที่ดูมั่นใจของแพรไหม ดวงตาของเขาก็หรี่ลงเล็กน้อย
“ประวัติใช้ได้เลยนะ!”
แพรไหมขมวดคิ้วเล็กน้อยกับคำพูดของเขา หมายความว่ายังไง? ทำไมถึงพูดแค่ว่าประวัติใช้ได้?
แพรไหมมองพชรด้วยความไม่พอใจ “ความสามารถสำคัญกว่าค่ะ!”
เมื่อได้ยินคำตอบนั้น พชรก็เลิกคิ้วขึ้น ดวงตาของเขาเป็นประกาย
น่าสนใจ
“งั้นความสามารถของคุณก็น่าจะใช้ได้เหมือนกันใช่ไหม?”
“ถ้าความสามารถไม่ดี เรย์เดลคงไม่รับฉันเข้าทำงาน” แพรไหมตอบกลับ ไม่คิดเลยว่าสองปีที่ไม่ได้เจอกัน พชรจะกลายเป็นคนพูดจาเข้าใจยากแบบนี้
พชรมองเธอ นี่เป็นครั้งแรกที่เขาเจอผู้หญิงแบบนี้ ไม่พยายามประจบสอพลอ ไม่อวดดีถือตัว แต่ก็มีความคิดเป็นของตัวเอง
“ความสามารถสำคัญก็จริง แต่จิตสำนึกสำคัญยิ่งกว่า” พชรพูดพร้อมกับมองแพรไหม
แพรไหมขมวดคิ้ว พชรแสดงออกอย่างชัดเจนว่ากำลังจ้องเล่นงานเธออยู่
“ท่านประธาน ไม่ทราบว่าพูดอย่างนี้หมายความว่ายังไงคะ? หรือคุณคิดว่าที่ฉันยืนอยู่หน้าประตูเพราะตั้งใจแอบฟังพวกคุณ?” แพรไหมถามอย่างตรงไปตรงมา
พชรไม่ได้ตอบทันที แต่หรี่ตาลงเล็กน้อย ก่อนจะเอนตัวพิงพนักเก้าอี้ด้วยท่าทีสบาย ๆ
คำตอบมันชัดเจนอยู่แล้ว
แพรไหมยิ้มเล็กน้อย “ท่านประธานคะ ฉันขออธิบายอีกครั้ง ฉันไม่ได้ตั้งใจแอบฟัง แต่บังเอิญได้ยินเพราะมารายงานตัว”
“แต่คุณก็ควรจะเคาะประตู!” พชรพูดอย่างหนักแน่น ราวกับมั่นใจว่าแพรไหมตั้งใจแอบฟังพวกเขา
“ฉันมีเหตุผลที่ไม่เคาะประตูค่ะ เพราะบางคน หากบุ่มบ่ามเข้าไปเคาะประตูอาจทำให้อีกฝ่ายไม่พอใจได้ ฉันจึงเลือกที่จะไม่เคาะประตูแล้วเดินออกไป แต่ในขณะที่ฉันกำลังลังเลอยู่ ประตูก็เปิดออก ท่านประธานคิดว่าฉันผิดตรงไหนคะ?” แพรไหมถามอย่างตรงไปตรงมา
ในสองปีนี้ ความเจ้าชู้ของเขายังคงไม่เปลี่ยนแปลง แถมยังเรียนรู้วิธีทำให้คนอื่นตกที่นั่งลำบากอีกด้วย!
พชรได้ยินดังนั้น ก็รู้สึกเหมือนถูกแพรไหมต่อว่า
“อย่าเอาผมไปเปรียบกับคนพวกนั้น!” พชรพูด
“ฉันไม่ได้เปรียบเทียบค่ะ ถ้าท่านประธานกลัวคนจะเปรียบเทียบกัน ก็อย่าทำตัวให้มันโจ่งแจ้งมากสิคะ”
“นี่คุณกำลังสั่งสอนผมอยู่เหรอ?” พชรขมวดคิ้ว พูดด้วยความไม่พอใจ
“ฉันไม่กล้าสอนคุณหรอกค่ะ ฉันแค่พูดความจริง”