หลังจากเซ็นใบหย่าเสร็จ แพรไหมก็ถอดแว่นออก ก่อนจะปล่อยผมที่ถูกม้วนขึ้นลงมา
ในตอนนี้ ผมที่ยาวสลวยราวกับหมึกสีดำ ถูกปล่อยลงมาอย่างอิสระ ประกอบกับใบหน้าเรียวเล็กรูปไข่ ไม่ว่าจะมองยังไง เธอก็เป็นผู้หญิงที่สวยจนไร้ที่ติ
ในตอนนี้ สีหน้าของเธอไม่เย็นชาและไร้ความรู้สึกเหมือนแต่ก่อน ดวงตากลมใสดั่งแก้วกำลังเปล่งประกาย
ในที่สุด
ฉันก็ออกจากที่นี่ได้สักที!
เมื่อคิดได้ดังนั้น แพรไหมก็ไม่รอช้า เธอรีบลุกขึ้นเพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้า เสื้อผ้าเก่า ๆ ถูกโยนทิ้งไว้บนเตียง ตอนนี้เธอสวมชุดเดรสสีเหลืองอ่อนกับรองเท้าส้นสูง ทำให้ดูสวยเป็นสง่า
เธอหาเสื้อผ้าที่ชอบไม่กี่ตัว เพื่อจัดใส่กระเป๋า และลากกระเป๋าออกจากบ้านไป
และในขณะนั้นเอง ป้าอันดาที่กำลังทำความสะอาดบ้านอยู่ เมื่อเห็นแพรไหมเดินลงมา เธอก็มองอย่างตะลึงราวกับจำอีกฝ่ายไม่ได้ นี่มัน…คุณหนูของเธองั้นเหรอ!?
ภาพลักษณ์ภายนอกของเธอตอนนี้ต่างจากเดิมอย่างสิ้นเชิง
แพรไหมเดินเข้าไปหาป้าอันดา ก่อนจะยิ้มให้และพูดขึ้น “ป้าอันดา!”
“คะ…คุณหนู!” ป้าอันดาตกใจเล็กน้อย ก่อนจะตั้งสติได้ ถ้าแพรไหมไม่พูดอะไรออกมา เธอคงคิดว่ามีใครอีกคนอยู่ในบ้าน
แพรไหมยิ้ม “แพรหย่ากับพชรแล้ว วันนี้แพรจะย้ายออกไป ขอบคุณที่ดูแลแพรมาตลอดหลายปีนะคะ!” พูดจบเธอก็พยักหน้าให้ป้าอันดา
“ไม่เป็นไรเลยค่ะ มันเป็นหน้าที่ของป้าเอง แต่คุณหนูคะ คุณหนูจะไปจริง ๆ เหรอคะ!?”
แพรไหมพยักหน้า ใบหน้าขาวเนียนถูกตบแต่งด้วยเครื่องสำอางบาง ๆ เธอดูงดงามอย่างไร้ที่ติ “ใช่ค่ะ!”
“ถ้า…ถ้าคุณชายได้เห็นคุณตอนนี้ เขาคงไม่อยากหย่าแน่ ๆ…” ป้าอันดาพูดพลางมองแพรไหม
เมื่อแพรไหมได้ยินดังนั้นก็หัวเราะเบา ๆ “ป้าอันดา ช่วยเก็บเรื่องนี้เป็นความลับด้วยนะคะ!”
เพราะเธอไม่อยากให้พชรรู้ จึงตั้งใจทำเช่นนี้!
สุดท้าย ป้าอันดาก็ทำได้เพียงพยักหน้า “ได้ค่ะ แต่หลังจากนี้คุณหนูต้องดูแลตัวเองดี ๆ นะคะ!” ป้าอันดากล่าวอย่างห่วงใย
“แพรรู้แล้วค่ะ ป้าอันดาก็เหมือนกัน!” แพรไหมตอบ พร้อมยื่นแขนไปกอดป้าอันดา ป้าอันดาเป็นเหมือนแม่ที่ดูแลเธออย่างไม่ขาดตกบกพร่อง เธอรู้สึกซาบซึ้งใจมาก
“เอาล่ะ ป้าอันดา แพรไปแล้วนะคะ!”
“ป้าไปส่ง…”
“ไม่ต้องหรอกค่ะ แพรเรียกรถแล้ว...นี่ก็ดึกแล้ว ป้าไปพักผ่อนเถอะ” แพรไหมพูด
สุดท้าย ป้าอันดาก็ได้แต่พยักหน้าและเดินมาส่งแพรไหมถึงหน้าประตู แพรไหมมองดูชุดเก่า ๆ ที่ถืออยู่ในมือ ก่อนจะโยนมันลงในถังขยะ
ในที่สุด ก็ถึงเวลาบอกลาสิ่งเหล่านี้สักที!
จากนั้น แพรไหมก็ขึ้นรถไป เมื่อรถแล่นออกไปจนลับตา ป้าอันดาก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ พลางคิดในใจว่า ถ้าพชรเห็นแพรไหมในตอนนี้ เขาคงจะต้องเสียใจแน่ ๆ…
ขณะเดียวกัน ณ สนามบินสุวรรณภูมิ แพรไหมที่กำลังลากกระเป๋าเดินทางอยู่ก็หันกลับไปมองภาพตลาดกลางคืนที่สว่างไสวตรงหน้า ลาก่อน กรุงเทพมหานคร
ลาก่อน ประเทศไทย!
ลาก่อน ชีวิตที่ผ่านมา!
จากนั้น เธอก็เดินตรงไปยังจุดตรวจความปลอดภัยโดยที่ไม่หันกลับมาอีก