สองปีผ่านไป
ลอนดอน
“ขอแสดงความยินดีกับคุณแพรไหมที่ได้รับรางวัลนี้ คุณแพรไหมมีอะไรอยากจะพูดไหมคะ?” พิธีกรถามด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม
แพรไหมในชุดเดรสสีเหลืองอ่อน ในมือถือถ้วยรางวัลคริสตัล ผมยาวดัดเป็นลอนถูกปล่อยสยายอย่างเป็นธรรมชาติ พร้อมรอยยิ้มที่อ่อนหวาน “อืม ก่อนอื่นแพรต้องขอขอบคุณอาจารย์ที่ปรึกษาและทุกคนที่สนับสนุนแพร รางวัลนี้ไม่ใช่ของแพรคนเดียว แต่เป็นของทุกคน ขอบคุณมากค่ะ!”
แม้จะตอบสั้น ๆ แต่ก็ตรงประเด็น
พิธีกรยิ้ม “รางวัลนี้ถือเป็นเกียรติยศและการยอมรับจากทุกคน จากนี้ไปคุณแพรไหมมีแผนอะไรในอนาคตไหมคะ?”
แพรไหมหยุดคิดเล็กน้อยก่อนจะตอบ “จริง ๆ แพรตัดสินใจจะกลับไทย และทำงานที่เรย์เดล กรุ๊ปค่ะ!”
คำตอบนี้ทำให้ทุกคนในงานต่างตกใจเป็นอย่างมาก
เรย์เดล กรุ๊ปเป็นบริษัทที่ก่อตั้งขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วงสองปีที่ผ่านมา แม้เพิ่งเข้าตลาดหลักทรัพย์มาเพียงปีเดียวก็ประสบความสำเร็จไม่น้อย แต่อย่างไรก็ตาม เรย์เดล กรุ๊ปก็ยังเป็นเพียงบริษัทที่เพิ่งก่อตั้ง ทำไมแพรไหมถึงยอมทิ้งโอกาสดี ๆ ในลอนดอนเพื่อกลับไปทำงานที่นั่น!?
แพรไหมยิ้มและเดินลงจากเวทีโดยไม่พูดอะไรเพิ่มเติม
…
วันรุ่งขึ้น
เวลา 10 โมงเช้า ณ สนามบินสุวรรณภูมิ แพรไหมกำลังลากกระเป๋าเดินทางขนาดใหญ่มาตามทางเดิน เธอสวมแว่นกันแดดขนาดใหญ่ปิดครึ่งหน้าสวย ๆ ของเธอ แต่ถึงแม้จะเป็นแบบนั้น ความสวยของเธอก็ยังดึงดูดสายตาจากคนรอบข้าง
แพรไหมถอดแว่นกันแดดออก มองทิวทัศน์รอบข้างอย่างพึงพอใจ
สองปีแล้ว ในที่สุดก็ได้กลับมา!
เมื่อคิดดังนั้น แพรไหมก็ลากกระเป๋าออกจากสนามบินไป
เธอได้เช่าบ้านเอาไว้ล่วงหน้าแล้ว เมื่อมาถึงเธอจึงหยิบกุญแจและไขเข้าไปทันที
แพรไหมใช้เวลาครึ่งวันในการจัดของ ระยะเวลาสองปีทำให้เธอกลายเป็นคนที่รักสันโดษ
ทันทีที่จัดของเสร็จ โทรศัพท์ก็ดังขึ้น “ฮัลโหล แพรไหม กลับมาถึงหรือยัง!?” เสียงของวาวาดังขึ้น
ปลายสายคือวาวา เพื่อนสนิทของแพรไหมที่รู้จักกันมาตั้งแต่เด็ก เรียกได้ว่าเป็นเพื่อนตายที่สนิทกว่าพี่น้องเสียอีก
“ฉันจัดของเสร็จแล้วนะ ทำไมโทรมาช้าจัง นี่เธอจงใจแกล้งฉันใช่ไหม?” แพรไหมพูดพลางนั่งลงบนโซฟา เพื่อพักผ่อน
“ฉันติดงานน่ะ ขอโทษนะ…” วาวาพูดเสียงออดอ้อน
แพรไหมหัวเราะ “ก็ได้ ยกโทษให้!”
วาวาหัวเราะ “เธอเริ่มงานเมื่อไหร่?”
“พรุ่งนี้!”
“งั้นเย็นนี้ฉันจะพาไปเลี้ยงต้อนรับกลับไทยนะ!”
“ตกลง!”
“งั้นก็ตามนี้ เดี๋ยวตอนเย็นฉันติดต่อไปอีกที ฉันไปทำงานต่อก่อนนะ”
“ได้เลย!”
หลังจากวางสายไป แพรไหมก็เอนตัวลงนอนพักบนโซฟา แต่สุดท้ายก็เผลอหลับไป จนกระทั่งโทรศัพท์ดังขึ้นอีกครั้งทำให้เธอตื่นขึ้นมา
“ฮัลโหล…” แพรไหมพูดด้วยน้ำเสียงง่วงงัน
“สวัสดีค่ะ คุณแพรไหม ฉันโทรมาจากฝ่ายบุคคลของเรย์เดล กรุ๊ป ไม่ทราบว่าคุณแพรไหมสามารถเริ่มงานพรุ่งนี้เลยไหมคะ?” ปลายสายถาม
เมื่อได้ยินดังนั้น แพรไหมจึงตื่นเต็มตา “ไม่มีปัญหาค่ะ!”
“งั้นดีเลย พรุ่งนี้มาที่ฝ่ายบุคคลได้เลยนะคะ”
“ค่ะ!”
บทสนทนาจบลง
แพรไหมมองนาฬิกา ตอนนี้ก็ค่ำแล้ว
เธอกำลังจะโทรหาวาวา แต่แล้วก็มีเสียงกริ่งประตูดังขึ้น แพรไหมจึงลุกไปเปิดประตู
“แพรไหม!” ทันทีที่ประตูเปิด วาวาก็กระโดดกอดเธออย่างตื่นเต้น
แพรไหมหัวเราะ “ฉันคิดว่าเธอจะไม่มีเวลาซะอีก!”
“ต่อให้ยุ่งแค่ไหน ฉันก็ต้องมาเจอเธออยู่ดี ไปกันเถอะ เดี๋ยวฉันจะพาไปเลี้ยงข้าว!”
แพรไหมพยักหน้า ก่อนจะเปลี่ยนรองเท้าและออกไปกับวาวา
“ว่าแต่แพร เธอกลับมาแบบนี้ ไม่กลัวจะเจอพชรเหรอ?” ขณะที่ทานอาหารอยู่ จู่ ๆ วาวาก็ถามขึ้น