บทที่ 13

1285 คำ
จ้าวตงหยางออกมายืนสูดอากาศที่เย็นด้านนอกเพื่อเรียกสติ สตรีหน้าตาย กล้าพูดเช่นนี้ได้อย่างไร เขายอมที่จะรับผิดชอบนาง แต่นางกลับพูดขึ้นมาไม่ต้องลำบาก แต่ก่อนที่เขาจะขึ้นบังคับรถม้าเพื่อพานางออกจากกลางป่า เสียงหวานก็ครางร้องขึ้นมาอย่างแผ่วเบา เสียงถอดเสื้อผ้าเพราะความร้อนที่ได้จากฤทธิ์ยา ทำให้จ้าวตงหยางกัดฟันแน่นเพื่อข่มอารมณ์ "ท่านแม่ทัพ ดะ ได้ ได้ โปรด อ๊าาาา ช่วยย" ยังไม่ทันจบประโยคจ้าวตงหยางก็กระโดดขึ้นรถม้าไปหาเจ้าของเสียงแล้ว เขาลืมความคำพูดของนางเมื่อครู่ไปเสียสนิท เพียงแค่เห็นจ้าวตงหยางรีบร้อนขึ้นรถม้ามา จินเยว่ก็พุ่งตัวเข้ามาเขาทันที นางโอบรอบคอเขาไว้ พร้อมทั้งประกบริมฝีปากลงไป ความคุ้นเคยที่นางสัมผัสได้จากตัวเขา กลิ่นกายที่นางเคยได้กอดนอนในห้วงความฝัน แต่ตอนนี้บุรุษผู้นั้นคือคนตรงหน้า สติของนางพลันเตลิดไปสิ้น เรียวลิ้นของทั้งคู่ตวัดตักตวงความหวานของกันและกันอย่างร้อนแรง "เยว่เออร์ เยว่เออร์ของข้า" เสียงกระซิบของจ้าวตงหยางทำให้จินเยว่สั่นสะท้าน เสื้อผ้าของทั้งคู่หลุดลุ่ยพร้อมที่จะหลุดจากร่างตลอดเวลา จ้าวตงหยางกัดฟันข่มความปรารถนาที่รุนแรงของตนไว้ เพราะนางยังบริสุทธิ์อยู่ หากกระทำรุนแรงเกินไปนางจะได้รับบาดเจ็บได้ "ท่านแม่ทัพ" จินเยว่ช้อนตามองจ้าวตงหยาง เขาเปิดช่องทางรักของนางโดยใช้นิ้ว เพียงนิ้วเขาไปร่างของจินเยว่ก็บิดเบี้ยวไปด้วยความเจ็บปวดแล้ว แต่เพราะฤทธิ์ของยาที่มากเกินกว่าจะหยุดลงไป กว่าน้ำหวานในตัวของนางจะหลั่งพอให้ตัวตนของเขาเข้าไปได้จินเยว่ก็เสร็จสมล่วงหน้าไปก่อนแล้ว คนร้ายคงให้ยากับนางมากกว่าปกติ เพราะจินเยว่ร่ำร้องให้เขาใส่ตัวตนของเขาแก่นางโดยเร็ว เพียงแค่ส่วนหัวที่เข้าไปจินเยว่ก็หลั่งน้ำตาเสียแล้ว จ้าวตงหยางต้องกล่าวปลอบนางด้วยส่งตัวตนของเขาไปด้วย เขาจูบซับน้ำตาที่ไหลของนาง เมื่อเห็นว่านางคลายความเจ็บปวดลงแล้ว บทรักที่อ่อนโยนก็เริ่มขึ้น ก่อนจะเปลี่ยนเป็นร้อนแรง ทั้งคู่เข้าขากันได้อย่างดี จ้าวตงหยางจับนางพลิกซ้ายพลิกขวานางก็ว่าตามอย่างง่าย "เยว่เออร์ เจ้าเป็นของข้าแล้ว อย่าได้คิดเป็นอื่นอีก" "เพียงแค่คืนเดียวไม่เป็นไร" จินเยว่พูดเสียงแผ่วเบา แต่ก็เพียงพอให้จ้าวตงหยางลงโทษนางจนนางนึกเสียใจที่พูดออกไป กว่าฤทธิ์ยาจะหมดลง จินเจว่ก็แทบจะไม่มีแรงพูดแล้ว จ้าวตงหยางเห็นนางไม่ทรมานเพราะฤทธิ์ยาแล้วก็หยุดการกระทำของตนลงเพื่อให้นางได้หยุดพัก เขาดึงนางเข้ามากอดเช่นทุกครั้ง จินเยว่ที่ได้สติแล้วก็เงยหน้ามองเขา "ท่านเคยนอนกอดข้าเช่นนี้ใช่หรือไม่" นางเอ่ยถามเรื่องที่สงสัยมาตลอด จ้าวตงหยางกระชับกอดนางให้แน่นขึ้นก่อนจะเอ่ยเรื่องที่ตนแอบเข้าไปดูนางที่จวน แล้วนางเป็นฝ่ายดึงเขาเข้าไปกอดเสียก่อน จินเยว่เงยหน้ามองเขาอย่างไม่อยากเชื่อ นางจะไร้สติจนทำเรื่องเช่นนั้นจริงหรือ เมื่อนึกถึงช่วงที่นางเป็นไข้ เพราะเขาเป็นคนทำ จินเยว่ก็ทุบไปที่อกของเขาเพื่อระบายความโมโห แต่นางที่ไม่มีเรี่ยวแรงแรงทุบจะเจ็บสักเท่าใด กลับกลายเป็นความแง่งอนของนางทำให้จ้าวตงหยางก้มลงจูบนางอีกครั้งอย่างหลงใหล กล้าเขาจะปล่อยให้นางได้หายใจตัวของเขาก็ทาบทับนางอีกครั้งแล้ว ในครั้งนี้จินเยว่ที่มีสติครบถ้วน แต่แรงกายกลับยินยอมโอนอ่อนให้กลับเขา "เยว่เออร์ก่อนหน้านี้ข้าทำไม่ดีกลับเจ้า เป็นข้าที่ผิด แต่ต่อไปข้าจะถนอมเจ้าอย่างดี" จินเยว่ขมวดคิ้วนางเหมือนเคยได้ยินเขาพูดเช่นนี้มาก่อนแล้ว แต่นางคิดว่านางฝันอยู่ จ้าวตงหยางปล่อยให้นางได้พักก็พาตัวนางไปส่งที่เรือนก่อนที่บิดามารดาของนางจะตื่นแล้วพบว่าบุตรสาวหายตัวไป เมื่อมาถึงเรือนก็รีบพานางไปส่งที่ห้องทันที "เยว่เออร์ ข้าจะรีบคุยกับท่านแม่ให้จัดการเรื่องของเจ้า" จ้าวตงหยางดึงนางเข้ามากอดก่อนจะเอ่ยขึ้น "ท่านยกโทษให้บิดาข้าแล้วหรือ เรื่องในใจของท่าน ท่านวางลงได้แล้วใช่หรือไม่" จ้าวตงหยางมิได้ตอบจินเยว่ เขาไม่รู้ว่าจะตอบนางเช่นใด หากจะกล่าวถึงเรื่องระหว่างเสวี่ยป๋อเหวินกับบิดาของตน เขาก็ยังยอมรับไม่ได้เช่นกัน จินเยว่ยิ้มน้อยๆให้เขา นางมิได้เร่งให้เขาตอบ หากความแค้นในของเขาไม่ได้หายไป นางก็คงจะแต่งให้เขาไม่ได้เช่นกัน "ไว้ข้าขอคุยเรื่องนี้กับบิดามารดาข้าเสียก่อน ท่านก็อย่าเพิ่งรีบร้อนเข้ามาพูดคุย มิเช่นนั้นท่านพ่อของข้าคงไม่พอใจ" นางเอ่ยตัดบทกับเขาทันที จ้าวตงหยางมิคิดว่าจะยุ่งยากถึงเพียงนี้ หากนางแต่งให้ตนต่อไปนางก็เป็นคนของตระกูลจ้าวมิใช่ตระกูลเสวี่ยต่อไป แต่จินเยว่มิได้คิดเช่นจ้าวตงหยาง บิดาของนางถึงจะทำผิดแต่ก็คือบิดาของนาง จะให้นางทอดทิ้งตระกูลเพื่อสามีนางคงทำมิได้ "ท่านกลับไปก่อนเถิด ประเดี๋ยวมีคนมาพบเข้า ทหารหน้าเรือนท่านจัดการได้ใช่หรือไม่" "เจ้าวางใจเรื่องในคืนนี้ ข้าจะมิให้พวกเขาพูดสิ่งใด" จ้าวตงหยางเอ่ยลาจินเยว่อย่างอาลัยอาวรณ์ เมื่อตรวจว่านางมิได้บาดเจ็บที่ใดแล้ว เขาก็กลับออกไป จินเยว่ลุกขึ้นไปอาบน้ำแล้วกลับมานั่งทบทวนเรื่องที่เกิดขึ้น หากนางไม่พบเขา หากเขาไม่พานางไปที่จวน นางจะพบเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดได้อย่างไร แต่เรื่องมาถึงขั้นนี้แล้ว หากนางตั้งครรภ์ขึ้นมานางจะบอกบิดามารดาว่าเช่นไร ยุคนี้ไม่เหมือนยุคที่นางจากมา ต่อให้ตั้งครรภ์โดยไม่มีบิดาของเด็กก็ไม่มีใครสนใจ แต่ในยุคนี้บิดาของนางจะมีหน้าพบใครได้หากเป็นเช่นนั้นจริง จินเยว่ถอนหายใจเสียหลายครั้ง หากยังไม่พูดเรื่องนางแจ็คพอตตั้งครรภ์ขึ้นมา พูดเพียงแค่เรื่องระหว่างจ้าวตงหยางกับบิดาของนาง หากทั้งสองตระกูลจะเกี่ยวดองกันจริง คงได้เป็นที่ขบขันแน่ เพราะพ่อตากับบุตรเขยไม่ลงรอยกัน จินเยว่คิดเรื่องพวกนี้วนไปจนนางหลับ เพราะร่างกายที่ยังได้รับบาดเจ็บจากแส้ ยังมาถูกจ้าวตงหยางเคี่ยวกลำจนแทบสิ้นเรี่ยวแรง จินเยว่จึงตื่นอีกขึ้นอีกครั้งก็เลยมื้อกลางวันเสียแล้ว จนเกาซื่อต้องมาดูนางที่ห้องเสียหลายครั้ง เมื่อเห็นบุตรสาวหลับลึกนางก็มิได้เอ่ยเรียกแต่อย่างใด ยังดีที่จ้าวตงหยางยังมีสติมิได้ฝากร่องรอยไว้นอกร่มผ้า มิเช่นนั้นคงต้องบอกเรื่องทั้งหมดกับบิดามารดา
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม