Ep 9 งานชิ้นแรก

1295 คำ
Ep 9 งานชิ้นแรก ณ ร้านปังสังขยาหน้าคอนโดรวมตัวกันของคุณหนูบ้านรวยทั้ง 4 ตามคำสัญญาของจิน้อยที่รับปากไว้เมื่อตอนพักกลางวัน เธออ้อยอิ่งยื้อเวลาไม่ยอมเข้าเรื่องมัวแต่สั่งน้ำสั่งขนม จนเพื่อน ๆ นั่งจ้องอย่างกับจะกินหัวเธอ เธอเลยยอมที่จะเปิดปากคล้ายผู้ร้ายโดนตำรวจจับได้ว่าขโมยของในร้านสะดวกซื้อได้ "ว่ามาได้แล้วเดี๋ยวพวกฉันต้องกลับไปทำงานกลุ่มอีก" "ดิสนี่ย์ใจเย็นดิ่" "เร็ว ๆ ทุกคนรอฟัง" "ก็..." . . "อ๋อ...สรุปใส่ชุดนี้มาไม่ใช่เพราะตื่นสายแต่เพราะไปนอนห้องผู้มา" "เบา ๆ ดิ่เพ้ยเพ้ยเดี๋ยวใครมาได้ยินอายเขาตาย" "อายทำไม?" "นอนห้องผู้ไง" "โอ๊ย...18 แล้วจะนอนห้องผู้ห้องหญิงห้องใครก็ไม่มีใครสนหรอก ยกเว้น" "อะไร" "ห้องที่ว่าเป็นห้องรุ่นพี่ทิมมี่" "..." "แล้วไม่มีอะไรจริงอ่ะ" "ไม่มีสิก็ตามที่เล่าไปนั้นล่ะ" "โซว่านะซาตานคงไม่ชอบเด็กตัวจิ๋วแบบยัยจิมั๊งจิเลยรอดมาได้" "ยิปโซ!!!" "ตกใจหมดจิตะโกนทำไม" "จิไม่เด็กแล้วนะ...อ่ะแฮ่ม" จิน้อยปลายนิ้วชี้เรียวเล็กจิ้มลงที่หน้าอกหน้าใจของตัวเอง ประกาศก้องให้เพื่อนรู้ว่าถึงเธอจะตัวเล็กกว่าทุกคนในกลุ่มแต่ของแท้แม่ให้มาไม่ได้จิ๋วตัวความสูงสักหน่อย เพื่อน ๆ พากันกลอกตามองบนด้วยความหมั่นไส้แต่ก็ว่าไม่ได้เพราะมันก็จริงตามที่จิน้อยว่า เพ้ยเพ้ยเอ่ยความคิดส่วนตัวออกมาก่อนที่เพื่อนคนอื่นจะพยักหน้าเห็นดีเห็นงามตาม "แต่เป็นฉันฉันเอาไอ้จินะน่ารักพกง่ายนมโต" "ดีแล้วที่เขาไม่สนใจไม่งั้นฉันคงตายแน่" "ทำไม...สำลักความหล่อรวย" "ไม่ใช่งั้นเพ้ยกลัวมีผู้หญิงโผล่มาตบดิ่ คนระดับนั้นไม่มีแฟนก็แปลกเกินไป" "ไม่มี/ไม่มี/ไม่มี" "โอ๊ะ...พูดพร้อมกันแสดงว่าไปรู้อะไรมา" "ก็สงสัยตอนพี่เขามาที่โรงอาหารเลยลองสืบหาในข่าว BDS โซเลยส่งให้ดิสนี่ย์กับเพ้ยดู" "แต่ไม่ส่งเข้ากลุ่ม?" "เอ้าจะไปรู้ได้ไงเล่าเพื่อจิน้อยมีซัมติงก็ต้องแอบเท้าส์ไว้ก่อนสิ" ไม่มีเรื่องอะไรที่จิน้อยปกปิดเธอเล่าหมดยันรายละเอียดของห้องพักหรูกับเรื่องรุ่นพี่ที่เอามือถือมาคืน ว่าไปเจอกันที่หน้าคอนโดแถมพวกเขายังขับรถให้เธอกับรุ่นพี่ทิมมี่มามหาลัยอีกด้วย แต่ด้วยเวลาที่เริ่มใกล้ค่ำเลยไม่มีใครสามารถคุยเรื่องนี้ต่อได้ บรรดาสาว ๆ ก็เลยแยกย้ายกันกลับบ้านด้วยรถยนต์ส่วนตัว จิออกจากร้านเดินข้ามถนนมาก็ถึงคอนโดตัวเองแล้ว เมื่อถึงห้องพักก็รีบส่งข้อความไปหากลุ่มครอบครัวที่มีพ่อและแม่กับน้องชายที่เรียนไฮสกูลอยู่ที่อังกฤษ ในเกือบจะทุก ๆ วันที่ทุกคนจะส่งข้อความว่าใครไปไหนบ้าง สัปดาห์นี้พ่อกับแม่เธอไปดูงานที่ญี่ปุ่น เธอเลยไม่ต้องกลับบ้านในวันหยุดที่จะถึง เมื่ออาบน้ำทำอะไรเสร็จจิก็เริ่มจัดการงานกลุ่ม แต่ก็นึกได้ว่าเสื้อผ้าวันนี้คงต้องซักคืนเจ้าของ แต่จะให้ส่งคืนยังไงเพราะเธอรู้จักแต่คอนโดไม่ได้ถามเลขห้องไว้ หรือจะเอาไปคืนที่มหาลัยดี เธอเริ่มคิดไม่ตกและถ้ายังไม่ได้คำตอบเธอคงไม่มีกะจิตกะใจจะทำงานต่อ Line TimeJi : ให้เอาเสื้อผ้าส่งคืนที่ไหนคะ Timothee : คอนโด TimeJi : งั้นเดี๋ยวซักเสร็จจะเรียกรถเอาไปส่งให้ขอที่อยู่หน่อยค่ะ Timothee : ถ้าไม่มาด้วยตัวเองก็ไม่ต้องคืน TimeJi : ทำไมอ่ะคะ Timothee : ฉันไม่ชอบให้ใครมาจับของของฉัน จิน้อยจ้องข้อความในหน้าจออ่านวนไปวนมาอยู่หลายรอบ ถ้าเขาไม่ชอบให้ใครจับของของเขาแล้วเอามาให้เธอใส่ทำไมกัน แต่ก็ได้แค่บ่นกันเองไม่ได้พิมพ์มันลงไป เธอไม่รู้ว่าควรจะเอายังไงดีกับอีกแค่เสื้อผ้าชุดเดียวที่ราคาหลายหมื่นเธอถึงกับต้องขับรถเอาไปคืนเองเลยนี่นะ แต่ถ้าไม่ได้เขาเธอก็คงไม่ได้โทรศัพท์คืน แถมเมื่อวานอีกที่เมาหลับดีที่เขาไม่ทิ้งเธอไว้ริมถนน ยังยอมเอาเธอกลับไปนอนที่คอนโดฟรีมื้อเช้าอีกด้วย "มีอะไร" "พิมพ์ไม่ไหวคุยจะรู้เรื่องง่ายกว่า" "อืม" "ทำไมต้องให้ไปคืนเองด้วยเดี๋ยวห่อใส่ถุงสะอาดอย่างดีเลยรถที่เรียกไปส่งคงไม่ทำเสื้อผ้าพี่เปื้อนหรอก" "งั้นก็ทิ้งไป" "ห๊ะ" "ฉันบอกว่าทิ้งไป" "โอ๊ะ...ก็ได้ ๆ เดี๋ยวมะรืนเอาไปคืนให้ของตั้งแพงบ้ารึเปล่าให้ทิ้ง" "โทรมาแค่นี้ใช่ไหม?" "ใช่ค่ะ" ทิมมี่ตัดสายทิ้งเขาพอใจกับคำตอบสุดท้ายของการพูดคุย ติดแค่คำว่ามะรืนมันไม่ค่อยถูกใจเขาสักเท่าไหร่นัก แต่ก็เอาเถอะเขาเองก็มีงานต้องทำพอดี ปล่อยให้จิน้อยไปทำอย่างอื่นก่อนก็ได้ เพราะตอนมาหาเขาเธออาจจะไม่ได้ทำอย่างอื่นที่เธออยากจะทำ เท้ายาวก้าวออกจากห้องหนังสือส่วนตัวไปยังห้องนอนใหญ่ปีกซ้ายของบ้าน "แด๊ด" "ทิมมี่" "วันนี้เป็นยังไงบ้าง" "ดี" "อดทนหน่อยเดี๋ยวก็หายครับ" "แล้วแกล่ะ" "ทุกอย่างโอเคครับ" "ขอบใจและขอโทษแกด้วยที่ทำให้ลำบาก" "ไม่ลำบากอะไรเลย...แด๊ดพักผ่อนเถอะ" ทิมมี่โน้มตัวลงกอดเพาโลผู้พ่อที่นั่งอยู่บนเก้าอี้หนังตัวใหญ่ก่อนจะเดินกลับไปยังห้องหนังสือ เขาแสร้งทำเป็นไม่เห็นสายตาที่ดูกังวลใจของพ่อ อาจจะเป็นเพราะสิ่งที่เกิดขึ้นรวมทั้งเรื่องที่เขาได้ทำลงไปเพื่อแก้แค้นให้กับครอบครัว เขามันเป็นม้านอกสายตามาตั้งแต่เกิดไม่ใช่เพราะไม่เก่งแต่เพราะเป็นน้องคนเล็กที่พี่ชายอย่างดาริโอและร็อกโคนั้นดูแลเขาดั่งกับเป็นเจ้าชายมากว่ามาเฟียตัวร้าย ภาพถ่ายที่ถูกปริ้นส์ออกมาพร้อมเอกสารลับบางอย่างถูกวางเรียงรายเพื่อให้ทิมมี่ได้ตรวจดูผลงาน เงินก้อนใหญ่กับคนไม่กี่คนแต่ผลลัพธ์ช่างน่าอภิรมย์ ถ้าไม่ติดว่าเขาต้องอยู่ใกล้พ่อและเป็นทายาทคนสุดท้ายของตระกูลบัลโดซาแล้วล่ะก็ ป่านนี้คงเป็นเขาที่ได้ยืนชมผลงานของตัวเองแบบถึงขอบเตียง 3 คนที่มีส่วนในเรื่องการลอบสังหารใหญ่ คนแรกถูกจับขึงอยู่กลางเตียง 4 เสาในคฤหาสน์หรูที่มาดริดพร้อมชายหนุ่มรุ่นลูก เลือดสีแดงชาดไหลซึมไปทั่วผ้าปูเตียงสีขาว เส้นเลือดที่ข้อมือและข้อเท้าถูกตัดออกด้วยของมีคมภายในครั้งเดียว นี่ก็นับเป็นความกรุณามากเกินไปเสียด้วยซ้ำของดอนทิโมธี ถ้าเป็นเขาลงมือเองมีดเล่มนั้นจะทั้งทื่อทั้งบิ่น ต้องใช้ทั้งกำลังและเวลาในการตัดเส้นเลือดนั้นอย่างใจเย็นกว่าที่มันจะขาดก็คงต้อง 3-4 ครั้งเป็นอย่างน้อย ลูกสมุนที่เหลือถูกยิงทิ้งแบบที่ยังไม่ทันได้ตอบโต้
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม