Ep 6 อาย
ร่างบางในชุดนักศึกษาลืมตาตื่นขึ้นมาพบว่าตัวเองอยู่บนเตียงกว้างที่ไม่ใช่ของตัวเอง เสียงกรีดร้องดังอยู่ในใจดวงตากลมโตกวาดมองไปทั่วทุกสารทิศพยายามทบทวนความทรงจำว่าก่อนที่ตัวเองจะภาพตัดไปเธออยู่ที่ไหน ภาพจำเริ่มปะติดปะต่อได้ว่าเธอออกจากร้านอาหารมาพร้อมกับรุ่นพี่หน้านิ่งแสนหยิ่งแต่แล้วพอขึ้นรถไปไม่นานเธอก็น่าจะหลับไป ตอนนี้เองที่เสียงประตูห้องถูกเปิดโดนไม่มีการแจ้งเตือน ร่างสูงของทิมมี่เดินเข้ามาในชุดเสื้อยืดกางเกงยีน
"ตื่นแล้วก็ไปอาบน้ำมีเรียนเช้านี่"
"ห๊ะ"
"นี่ 7 โมง"
"..."
"ชุดอยู่นั่น"
"..."
ทิมมี่ยังคงยืนอยู่ที่ประตู เขาใช้นิ้วเรียวยาวชี้ไปที่เก้าอี้ยาวปลายเตียงว่ามีชุดวางอยู่ จิน้อยไม่รู้ว่าจะพูดอะไรได้ในตอนนี้เธอทำได้เพียงลุกขึ้นไปช้อนเอาชุดที่วางพาดอยู่โกยขึ้นแนบอกแล้วเดินไปยังห้องน้ำ เมื่อปิดประตูห้องน้ำเรียบร้อยเธอก็รีบแขวนเสื้อผ้าไว้ที่ราวด้านข้าง ห้องน้ำอันใหญ่โตและหรูหราบ่งบอกว่าเจ้าของห้องน่าจะรวยมาก อุปกรณ์ที่ใช้อาบน้ำแปรงฟันถูกจัดวางไว้อย่างเป็นระเบียบโดยที่ยังห่อไว้อย่างดี ถึงจะตกใจมากที่คนที่เธอได้พบเจอในตอนเช้าเป็นรุ่นพี่ทิมมี่ แต่พอสำรวจร่างกายทุกซอกมุมแล้วเธอไม่ได้รู้สึกว่ามีอะไรบุบสลาย ถ้าให้จินตนาการตามนิยายขายดีเธอควรตื่นมาในชุดเสื้อยืดตัวใหญ่โคร่งของผู้ชายสิถึงจะถูก
จิน้อยใช้เวลาไม่นานก็ออกจากห้องน้ำกับชุดวอร์มแบรนด์หรูที่ตัวใหญ่เกินไซซ์จริงของเธอไปมาก โชคดีที่มหาลัยอนุญาตให้ใส่ชุดแบบนี้เข้าเรียนได้ยกเว้นวันไหนมีควิซต้องเป็นชุดนักศึกษาเท่านั้น ตอนนี้ในห้องไม่มีใครอยู่เธอจึงตัดสินใจเดินออกไปแทน ด้านนอกประตูเป็นทางเดินไปที่บันไดลงชั้นล่าง ตอนแรกเธอคิดว่าที่นี่เป็นบ้านแต่เธอมารู้ว่าเป็นคอนโดหรูใจกลางเมืองก็เพราะตอนลงบันไดนั้นภาพที่นอกกระจกบานใหญ่คือวิวสูงที่มองเห็นแม่น้ำเจ้าพระยา
"มื้อเช้าพร้อมแล้ว"
"อ๋อ...ค่ะ"
"ที่นี่ที่ไหนคะ"
"คอนโดฉัน"
"แล้วฉันมาที่นี่ได้ยังไง"
"ปลุกแล้วไม่ตื่น"
"ได้ไงวะ" [งุบงิบ]
"ว่าอะไรนะ?"
"อ๋อเปล่าค่ะ"
"งั้นก็รีบกิน"
มืื้อเช้าทีีนี่ช่างไม่ต่างจากโรงแรมห้าดาวทั้งรสชาติและหน้าตาของอาหาร เรื่องอื่นในสมองพับเก็บไว้ก่อนจิน้อยของดื่มด่ำกับอาหารตรงหน้าก่อนจะกลับไปสู่ชีวิตจริง มือถือของเธอถูกคนตรงข้ามเลื่อนมาให้เธอเห็นหน้าจอก็พบว่าแบต 100 รุ่นพี่ทิมมี่คงจะเอาไปชาร์จให้ และเธอไม่ได้เอ่ยขอบคุณเขาเพราะปากยังเคี้ยวเบคอนกรอบอยู่แต่ก็พยักหน้ารับงึก ๆ
ทิโมธีไม่ได้ถือสาเรื่องเล็กน้อยแบบนี้ต่อให้เป็นคนอื่นทำเขาก็ไม่ได้แคร์เขาเป็นมาเฟียเชื้อสายตรงไม่ใช่สืบเชื้อสายจากราชวงศ์ไหนมา ขอแค่ให้เกียรติและซื่อสัตย์กับเขาก็พอ เขาเหลือบมองจิน้อยกินมื้อเช้าด้วยความเอร็ดอร่อยจนเขาเองแอบยกยิ้มมุมปากอย่าไม่รู้ตัว มือเอื้อมไปยกเหยือกน้ำส้มคั้นสดเทเติมใส่แก้วให้เธอราวกับว่าเขาเคยทำให้ใครมาก่อน แต่ความจริงแล้วไม่ใช่เลยคนอย่างดอนทิมมี่รึต้องทำเรื่องแบบนี้ เธอคือคนแรกที่เขาอย่างจะทำให้
"น้ำส้มอร่อยมากเลยค่ะ"
"..."
"พี่ไม่ดื่มอีกหน่อยเหรอ"
"ไม่"
"อืม"
"ไปกันเถอะ"
"ค่ะ"
จิน้อยลุกขึ้นพร้อมกับขยับเก้าอี้เก็บเข้าที่ก่อนจะหยิบจานไปแก้วยังห้องครัว เธอยืนอยู่สักพักพบว่าระบบเปิดน้ำที่นี่มันใหม่มากเกินไปจนเธอหาปุ่มไม่เจอ ทิมมี่เดินตามเข้ามาเขาเข้าใจท่าทางของเธอได้ว่าคงพยายามจะเก็บล้าง แต่ตอนนี้เขาก็ยังไม่อยากให้เธอไปเรียนสายจึงหักห้ามใจตัวเองไว้ไม่แกล้งให้เธอได้ทำอย่างที่ต้องการ เพราะถ้าทำแบบนั้นเขาคงไม่ยืนหัวเราะจนท้องแข็ง ไหนจะท่าก้ม ๆ เงย ๆ ยืดตัวหาที่เปิดน้ำ ท่าเก่าศีรษะด้วยความงงที่เขาเองไม่เคยเจอกับผู้หญิงคนไหนมาก่อน ก็เพราะปกติแล้วใครได้อยู่ใกล้เขาขนาดนี้คงอยากจะขึ้นคร่อมเขามากกว่าไปหาก๊อกเปิดน้ำล้างจานที่ตัวเองกิน
"ปล่อยไว้เดี๋ยวไปเรียนสาย"
"แต่..."
"ไว้คราวหน้าค่อยทำ"
"เอ๋...คราวหน้า?" [งุบงิบ]
ทำไมถึงเขาถึงใช้คำว่าคราวหน้ากันนะจิน้อยมองเขาอย่างสงสัย ทิมมี่ไม่ได้สนใจในสิ่งที่เธอคิดหรือสิ่งที่ตัวเองเพิ่งพูดออกไป เขาไม่ใช่พวกสมองน้อยเวลาพูดอะไรไปเขารู้ตัวเสมอ เขาหันหลังเดินออกไปจากครัวไปยังประตูบานคู่รอให้จิน้อยเดินตามมาแล้วถึงเปิดประตู ด้านนอกไม่มีประตูห้องอื่นเรียกว่าทั้งชั้นมีแค่ห้องเขาห้องเดียว ลิฟต์ถูกออกแบบให้เปิดเฉพาะชั้นที่มีคีการ์ดแตะเท่านั้น ยกเว้นเวลาลงไปที่ชั้นล่างสุดที่ไม่ต้องใช้ รถหรูจอดรอพร้อมรุ่นพี่ที่จิเคยเจอมาก่อน นั่นคือแบล็กและคีย์เขาไม่ได้สบตาผู้เป็นนายแต่รับคำทักทายของจิน้อยแทนด้วยมารยาท
"อ้าว...รุ่นพี่สวัสดีค่ะ"
"สวัสดีครับ/สวัสดีครับ"
"ทำไมพี่ 2 คนมาอยู่ที่นี่"
"เชิญครับ"
คีย์เลี่ยงไม่ตอบคำถามและเปิดประตูรถให้จิน้อยขึ้นด้านหลังแทน ส่วนแบล็กย้ายตัวเองไปเปิดประตูอีกฝั่งหลังจากที่เอ่ยคำว่าสวัสดีครับแล้ว ในรถทุกคนเงียบกริบแบล็กทำหน้าที่เป็นคนขับและคีย์เป็นตุ๊กตาหน้ารถ ทั้งคู่ใส่เสื้อช็อปสีเทาดำโลโก้ BDS เช่นเดียวกันทิมมี่ จิน้อยมีคำถามมากมายแต่ก็รู้ว่าถามออกไปตอนนี้หน้าจะไม่เกิดประโยชน์แถมยังอาจสร้างความรำคาญให้กับผู้ชายทั้ง 3 ที่หน้าตาบอกบุญไม่รับอยู่ในขณะนี้
"จะ จอดตรงนี้เหรอคะ?"
"ทำไม?"
"เออ...ขอขยับไปช่วงลานจอดหลังตึกแพทย์นะค"
"..."
"นะคะ...พี่ทิมมี่"
นะคะ...พี่ทิมมี่เสียงหวานอ้อนอยู่ในทีทำเอาคนฟังใจหวั่น พยักหน้าให้คนที่มองมาจากกระจกมองหลังเพื่อรอคำตอบ รถหรูเคลื่อนตัวไปตามที่จิน้อยบอก เธอรีบยกมือขอบคุณและบอกลาทุกคนอย่างเท่าเทียม แล้วโดดลงจากรถหันซ้ายหันขวาวิ่งเข้าไปทางหลังตึกที่เธอเรียน
"เธอคงกลัวใครเห็นว่ามากับเรา"
"ทำไม"
"คงไม่อยากเป็นเป้าสายตาครับนาย"
"อาย?"
"อันนี้ไม่แน่ครับ"
"มากับกูมีอะไรต้องอายวะ"
"..."
มันไม่ใช่ประโยคคำถามแต่เป็นเหมือนประโยคสบถมากกว่า ทำให้คีย์เลือกที่จะเงียบแทนคำพูดในใจ สายตาของแบล็กมองไปที่คีย์เป็นการด่าแบบไม่ออกเสียงว่า "เสือกนัก"