Ep 7 ผู้ว่าจ้าง
เมื่อสูญเสียพี่ชายทั้งสองไปอย่างกะทันหันไม่พอดอนเพาโลบิดาก็ยังต้องอยู่บนวีลแชร์ ทำให้ทิมมี่ในตอนนี้มีเรื่องให้คิดอยู่ทุกวินาที ธุรกิจมากมายที่ต้องจัดการไม่ว่าจะเป็นธุรกิจนำเข้าซิก้าร์ คลับ บริษัทเครื่องจักรกลที่เกี่ยวกับอะไหล่รถยนต์ และปิโตเคมี ธุรกิจสีดำในตอนนี้เรียกได้ว่าไม่มีแต่ถ้าเป็นสีเทาเข้มก็ถือว่าเกิน 50 % ส่วนเรื่องฆ่าคนนั้นไม่เรียกว่าธุรกิจ เรียกว่าเรื่องส่วนตัวจะเหมาะกว่า ดอนทิมโมธี บัลโดซา เป็นคลื่นลูกใหม่ที่ขึ้นดำรงตำแหน่งด้วยอายุที่น้อยที่สุดในวงการมาเฟียฝั่งยุโรปและอเมริกา
เขาได้มันมาเพราะความแค้นล้วน ๆ การวางแผนเอาคืนบุคคลที่ลงขันกันฆ่าพี่ชายเขามีราคาสูงลิบ เขาเลือกจ้างนักฆ่าจากว่ากันว่าหายสาบสูญไปหลายปี ด้วยความสัมพันธ์บางอย่างที่ไม่เคยมีใครล่วงรู้มาก่อน แม้แต่พ่อก็ไม่เคยปริปากเรื่องนี้กับใคร รูปของผู้หญิงคนหนึ่งถูกซ่อนไว้ในหนังสือเก่าชั้นบนสุดของตู้เก็บหนังสือส่วนตัวคนพ่อ ทิมมี่เป็นคนไปเจอตอนอายุ 15 เขาสงสัยเพราะใบหน้าบุคคลในรูปนั้นคล้ายเขามาก
ใช้เวลาเกือบ 5 ปีที่ทิมมี่ได้รู้เรื่องที่ถูกปิดซ่อนไว้โดยพ่อของเขา หลังวันเกิดอายุครบ 20 เอกสารฉบับหนึ่งถูกนำมาส่งให้เขาด้วยมือของเชน หญิงสาววัยกลางคนที่ตอนนี้มีอายุ 42 ปี อาศัยอยู่ในบ้านหลังใหญ่บนเทือกเขาคาร์เพเทียน เขาเขียนจดหมายด้วยมือส่งไปนับสิบฉบับไม่มีการตอบกลับมา จนกระทั่งวันที่เขาต้องจัดการเรื่องพี่กับพ่อ บุคคลที่ไม่ประสงค์จะออกนามส่งข้อความหาเขาว่า ถ้าอยากได้คนทำงานให้ต้องเดินทางไปที่โรมาเนีย เขาไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเองว่าที่อยู่ที่ถูกส่งให้ให้ มันเป็นที่อยู่เดียวกันกับจดหมายเขียนมือที่เขาพยายามส่งไปนานนับเดือน
หลังนำตัวดอนเพาโลคนพ่อกลับมาถึงเมืองไทย เขาเองก็รีบเดินทางไปที่โรมาเนียการเดินทางจากสนามบินมาที่นี่บ้านหลังใหญ่นี่ไม่ง่ายเลย GPS ก็แทบจะหาพิกัดไม่เจอ ในใจเขาก็แอบคิดว่าจดหมายเหล่านั้นอาจจะมาไม่ถึงผู้รับรึเปล่าถ้าที่นี่จะอยู่ไกลขนาดนี้ ประตูรั้วเหล็กสีดำถูกเปิดออกหลังจากคีย์ลงไปสั่นกระดิ่ง ตัวบ้านสีขาวตั้งอยู่ตรงกลางของที่ดินที่รายล้อมไปด้วยต้นไม้เล็กใหญ่ มันสวยงามร่มรื่นแต่ก็แฝงด้วยความเยือกเย็นน่าขนลุก
แม่บ้านแก่ ๆ หน้าตาใจดีเปิดประตูต้อนรับด้วยรอยยิ้มอ่อนโยน เธอไม่ถามว่าพวกเขาทั้ง 5 มาทำไมที่บ้านกลางเขา แต่เธอเชิญพวกเขาเข้ามานั่งและเสิร์ฟชาร้อนกับขนมให้อย่างใจดี ที่นี่มีโทรศัพท์บ้านแต่ไม่รู้ว่าใช้การได้ไหม ทิมมี่สำรวจทุกอย่างตั้งแต่ก้าวเท้าเข้ามาในวินาทีแรก เพราะถ้าเกิดอะไรขึ้นมาเขาจะต้องมีทางออกไปจากที่นี่ให้เร็วที่สุด
"พวกคุณต้องการอะไร"
"มีคนแนะนำเราเรื่องงาน"
"เขียนใส่กระดาษสิ"
"เขียน?"
"ใช่เขียนว่าต้องการอะไรเราจะได้คุยเรื่องราคากัน"
เป็นแบล็กที่พูดคุยแทนกับนีโรที่จัดการเรื่องเขียนให้ ส่วนทิมมี่ยังคงนั่งหลังตรงถือถ้วยชาเคลือบทองชั้นดีไว้ในมือ ถ้าคนไม่สังเกตคงคิดว่าเขาดื่มมันเข้าไปหลายอึกแต่จริง ๆ แล้วเปล่า เขาแค่ถือมันไว้แบบนั้นคนสนิททั้ง 4 ก็เช่นกันไม่มีใครแตะตั้งสิ่งที่ไม่คุ้นเคย แม่บ้านรับกระดาษที่ถูกเขียนอธิบายเรื่องที่ต้องการก่อนจะใช้สายตาใต้แว่นไล่อ่านไปมา
"1 ล้านยูโร"
"ตกลง"
"ไม่ต่อ?"
"ไม่"
"ดีล"
แม่บ้านแก่ ๆ ลุกเดินไปซิมโทรศัพท์มาให้แบล็ก เธอกล่าวว่าเอาซิมนี้ใส่เครื่องใหม่สักเครื่องไว้ติดต่อกันหลังจบเรื่อง ซิมนี้ต้องถูกทำลายและจะไม่มีการติดต่อกันอีก ไม่มีการรับงานซับจากผู้จ้างวานคนเดิมมันเป็นกฎ แล้วตลอดหลายปีมานี้เจ้านายของเธอเพิ่งตัดสินใจรับงานนี้เป็นงานแรก ที่สำคัญออกปากรับรองผลด้วยว่าถ้างานไม่เสร็จภารกิจจะไม่ล้มเลิก
"อย่างเดียวที่ผมจะขอ"
"ว่ามาค่ะ"
"2 คนที่อยู่หัวแถวผมขอจัดการเอง"
"คุณได้รับสิทธิ์นั้นค่ะคุณชาย"
คำว่าคุณชายฟังแล้วออกจากแปลกมากอยู่ซะหน่อย แต่ทิมมี่เลือกที่จะแสร้งไม่ได้ยินหรือสงสัย เขารู้ว่าแว่นของแม่บ้านแก่เป็นแบบจอภาพที่สามารถอ่านข้อความจากบุคคลที่เชื่อมต่อสัญญาณไว้ได้ เธอถึงพูดในเรื่องการตัดสินใจได้ทันทีโดนไม่ต้องรอโทรหาหรือติดต่อใครบางคนเพื่อยืนยันการตอบตกลง
ทิมมี่ไม่ได้โง่แต่ก็ไม่ใช่พระเจ้าที่จะทำอะไรคนเดียวแล้วจะสำเร็จ คนสนิทไว้ใจได้เหลืออยู่แค่ 4 คน เขาจะส่งทั้งหมดไปจัดการเรื่องนี้เองคงไม่ได้ จะใช้คนในแก๊งเขาก็ไม่รู้ว่าใครเป็นหนอนบ่อนไส้จนทำให้เขาสูญเสีย เขาเลยตัดสินใจจ้างคนนอกมาทำงานนี้แทน เพราะถึงคนสนิทของเขาจะเก่งมากแค่ไหนแต่ก็ยังเป็นคนรุ่นใหม่ กับพวกหัวหงอกรุ่นพ่อรุ่นปู่เจ้าเล่ห์ของแก๊งอื่นก็ไม่รู้ว่าเรื่องไม่คาดคิดจะเกิดขึ้นซ้ำรอยอีกครั้งไหม การลอบทำร้ายครั้งนี้คนสนิทของพี่ชายและเพาโลคนพ่อถูกเก็บไปด้วย ศึกครั้งนี้เขามีแค่เงินกับโชคช่วยเท่านั้นเพราะเก่งแค่ไหนก็คงไม่พอถ้าคิดจะลงมือทำกันเองทั้งหมด
"คุณชายหน้าคล้ายคุณมากเลยนะคะ"
"เขารู้ว่าเป็นฉันแต่เขาไม่พูด"
"พอเราจัดการเรื่องนี้เสร็จคุณคงได้จัดการเรื่องนี้สักที"
"นั่นสิ...ยังดีที่ตาแก่นั่นไม่ตาย ไม่อย่างนั้นเขาคงย่ำแย่กว่าที่เป็น"
"สงสารก็แต่พี่ชายของคุณชาย"
"เพราะอย่างนั้นฉันถึงยอมทำงานนี้"
"..."
"เพื่อให้ทิมมี่ได้ใช้ชีวิตต่อไป"
แม่บ้านแก่ ๆ ยืนมองออกไปนอกหน้าต่างชั้นสองของบ้านพร้อมกับหญิงสาวเจ้าของบ้าน การพูดคุยเป็นไปอย่างธรรมชาติเพราะพวกเธออยู่ด้วยกันมานานนับสิบปี แม่บ้านที่มีชื่อว่าเตอาเป็นคนที่เก็บความลับทุกอย่างของเจ้านาย "คามิเลีย" ไว้ และเป็นคนที่ทำคลอดลูกชายคนเดียวของเธอเองกับมือ เตอาช่วยเลี้ยงดูเด็กชายจนกระทั่งครบ 6 เดือน เด็กชายที่มีในตาเมื่อแม่ผู้ให้กำเนิดจึงถูกพาไปยังสถานที่ที่ห่างไกลกันครึ่งโลก ความทรงจำของเตอากับคามิเลียไม่เคยจางหาย แต่ทุกการเติบโตของเด็กชายเขากลับไม่เคยรับรู้ถึงการมีอยู่ของพวกเธอ จนเมื่อไม่นานมานี้จดหมายจากเด็กชายก็ถูกส่งมาที่นี่ ทุกฉบับได้ถูกเปิดอ่านช้า ๆ ซ้ำ ๆ วนไปมาแต่เพราะเหตุผลบางอย่างจดหมายจึงไม่ได้ถูกตอบกลับไป