ตอนที่ 6
รถเอสยูวีคันหรูของธีร์ธวัชเคลื่อนตัวออกมาจากโรงพยาบาลไม่นานก็มาจอดเทียบหน้าร้านอาหารสไตล์ฟิวชั่นที่ตกแต่งอย่างทันสมัย ชื่อร้านสะท้อนความหรูหราที่แฝงความเรียบง่าย บรรยากาศภายในร้านอบอุ่นด้วยแสงไฟสลัวๆ ที่ขับให้ทุกอย่างดูโรแมนติกขึ้น เสียงเพลงบรรเลงเบาๆ คลอเคลียสร้างความผ่อนคลาย
รัญชน์ถึงกับชะงักเมื่อเห็นความหรูหราของร้าน ดวงตากลมโตเบิกกว้างด้วยความประหลาดใจระคนอึดอัด
“พี่ธีร์คะ...ร้านนี้มัน...” เธอพยายามจะค้าน แต่ก็พูดไม่ออกที่เคยบอกเขาไว้ว่าไม่ชอบคนเยอะ
“ก็รัญชน์บอกพี่เองไม่ใช่เหรอ ว่าไม่ชอบร้านที่คนเยอะ ร้านนี้...รับรองส่วนตัวแน่นอนครับ” ธีร์ธวัชตอบพร้อมรอยยิ้มกวนๆ ที่มุมปาก เขาไม่รอช้า รีบเปิดประตูและผายมือเชิญเธอเข้าไปในร้านอย่างสุภาพบุรุษ
รัญชน์จำใจก้าวเข้าไปในร้านอย่างไม่เต็มใจนัก ความรู้สึกประหม่าปนความตื่นเต้นเล็กน้อยตีตื้นขึ้นมา ธีร์ธวัชเลือกที่นั่งริมหน้าต่างที่สามารถมองเห็นวิวเมืองยามค่ำคืนที่ส่องสกาวด้วยแสงไฟระยิบระยับ เมื่อพนักงานนำเมนูมาให้ รัญชน์รวีก็รู้สึกประหม่าเมื่อเห็นราคาอาหารที่สูงลิบลิ่วจนแทบไม่อยากจะเลือกอะไรเลย
“น้องรัญชน์อยากทานอะไรครับ สั่งได้เต็มที่เลยนะ พี่เลี้ยงเอง” ธีร์ธวัชเอ่ยอย่างใจดี สัมผัสได้ถึงความเอื้ออาทร แต่หญิงสาวกลับรู้สึกกระอักกระอ่วนใจยิ่งนัก เธอไม่อยากให้เขาต้องจ่ายอะไรมากมายไปกว่านี้
“รัญชน์ขอแค่ข้าวต้มง่ายๆ ก็พอค่ะ” เธอตอบเบาๆ พยายามหลีกเลี่ยงการสั่งอาหารราคาแพง
“อย่าเพิ่งคิดมากสิครับ ถือว่าเป็นค่าเสียเวลาที่น้องรัญชน์ต้องมากับพี่ก็ได้” ธีร์ธวัชคะยั้นคะยอ พร้อมรอยยิ้มอบอุ่น
“เอางี้ เดี๋ยวพี่สั่งให้เอง” เขาตั้งใจจะดูแลเธอให้ดีที่สุดในคืนนี้
“อย่าสั่งเยอะนะคะ รัญชน์กลัวท้องเสียอีก” หญิงสาวรีบปราม ใบหน้าหวานเริ่มมีสีเลือดขึ้นมาเล็กน้อยจากความประหม่า
“รับรอง อาหารร้านนี้สะอาดแล้วก็ปรุงสุกใหม่ๆ แน่นอนครับ” ธีร์ธวัชตอบด้วยน้ำเสียงหนักแน่น ราวกับจะยืนยันในความปลอดภัยและคุณภาพของอาหาร
เขาสั่งอาหารที่ดูเหมาะกับคนเพิ่งหายป่วยแต่ก็ยังคงมีกลิ่นอายของความหรูหรา รัญชน์มองดูเขาด้วยความรู้สึกหลากหลายปนเปกันไป ทั้งขัดใจที่ถูกบังคับ แต่ก็อบอุ่นใจกับความเอาใจใส่ที่เขาแสดงออกมาอย่างไม่เคยมีใครทำให้เธอรู้สึกแบบนี้มาก่อน
ผ่านไปไม่นานอาหารจานสวยก็ถูกนำมาเสิร์ฟ กลิ่นหอมกรุ่นลอยแตะจมูกชวนให้เจริญอาหาร ธีร์ธวัชสั่งอาหารที่ดูดีต่อสุขภาพสำหรับรัญชน์และอาหารจานโปรดของเขาเอง มื้อค่ำดำเนินไปท่ามกลางความเงียบงันในตอนแรก แต่ไม่นานนัก ธีร์ธวัชก็เริ่มเปิดบทสนทนา
“น้องรัญชน์ทานเยอะๆ นะครับ จะได้มีแรง” ธีร์ธวัชเอ่ยขึ้นอย่างอ่อนโยน พลางตักอาหารบางส่วนใส่จานให้เธออย่างเอาใจ หญิงสาวมองหน้าเขาเล็กน้อยก่อนจะยิ้มในความจริงใจของเขา
“เรื่องที่พี่จะคุยกับน้องรัญชน์” ธีร์ธวัชเริ่มต้น ดวงตาคมกริบจ้องมองใบหน้าสวยหวานอย่างพินิจพิจารณา
“คืออย่างนี้ครับ พี่ลินพี่สาวของพี่ เค้ากำลังต้องการพี่เลี้ยงเด็กอยู่พอดี” รัญชน์เลิกคิ้วเล็กน้อยด้วยความสงสัย
“พี่ก็เลยอยากชวนน้องรัญชน์ไปทำ”
“คือพี่ลินเพิ่งเลิกกับสามีครับ ตอนนี้ต้องดูแลน้องณดาคนเดียว” ธีร์ธวัชอธิบายด้วยน้ำเสียงจริงจังขึ้น
“น้องณดาจะกลับจากโรงเรียนช่วงเย็นๆ วันจันทร์ถึงศุกร์น่ะครับ แล้วพี่ลินก็ทำงาน ส่วนพี่เองก็ทำงาน ไม่มีใครอยู่ดูแลน้องณดาเลย” เขามองหน้ารัญชน์อย่างมีความหวัง
“พี่ก็เลยคิดว่า...น้องรัญชน์น่าจะลองมาเป็นพี่เลี้ยงให้น้องณดาดูไหมครับ”
รัญชน์ถึงกับชะงัก การเป็นพี่เลี้ยงเด็กนั้นไม่ใช่สิ่งที่เธอคาดคิดมาก่อน แต่เมื่อพิจารณาถึงสถานการณ์ทางการเงินของตัวเองในตอนนี้...
หนี้ของแม่เธอที่สัญญาว่าต้องชดใช้ให้นายเฟิร์สก็หลายแสนบาท จะให้เธอรับผิดชอบโดยการปล่อยให้เรื่องเลยตามเลยอย่างที่นายเฟิร์สต้องการเธอคงทำไม่ได้ สู้ยอมใช้เงินของเขาจะดีกว่า เรื่องของเรื่องมันเกิดขึ้นเมื่อแม่ของรัญชน์รวีใช้รูปโปรไฟล์ของเธอไปหลอกนายเฟิร์สจนเขาหลงรักและยอมโอนเงินให้หลายครั้ง รวม ๆ ก็หลายแสน ความกังวลฉายชัดในแววตา เธอกำลังมองหาหนทางที่จะหาเงินเพิ่ม เพื่อใช้หนี้ให้นายเฟิร์ส และข้อเสนอนี้ของธีร์ธวัชก็ดูจะเป็นทางออกที่ดีสำหรับเธอ
“พี่รู้ว่าน้องรัญชน์จะสามารถดูแลหลานของพี่ได้” ธีร์ธวัชเอ่ยเสริม ราวกับอ่านใจเธอออก
“เพราะหลานพี่ชอบวาดรูปเหมือนน้องรัญชน์...” เขาเว้นจังหวะเล็กน้อย ก่อนจะคลี่ยิ้มกว้าง
“น้องณดาน่ะ ชอบวาดรูปมากๆ เลยนะครับ พี่ว่าน้องรัญชน์จะต้องเข้ากับน้องณดาได้แน่นอน”
คำพูดของธีร์ธวัชทำให้รัญชน์เริ่มคล้อยตาม ภาพรอยยิ้มสดใสของเด็กน้อยณดาผุดขึ้นในความคิด เธอเองก็รู้สึกเอ็นดูเด็กๆ อยู่แล้ว ยิ่งเป็นเด็กที่ชอบศิลปะเหมือนกัน เธอก็ยิ่งรู้สึกผูกพัน
“รัญชน์กลัวทำได้ไม่ดีพอ เอางี้ค่ะ รัญชน์ขอไปเจอน้องณดากับพี่ลินก่อนได้มั้ยคะ”
“ได้สิครับ”
“เอาเป็นพรุ่งนี้มั้ยครับวันอาทิตย์พอดี ยังไงพี่เชื่อว่าณดาจะต้องชอบน้องรัญชน์” ธีร์ธวัชบอก
รัญชน์พยักหน้ารับอย่างเข้าใจ เธอเงียบไปครู่หนึ่งเพื่อพิจารณาข้อเสนออย่างถี่ถ้วน ภาระค่าใช้จ่ายของมารดาคือสิ่งสำคัญที่สุดในตอนนี้
“ก็ได้ค่ะ...รัญชน์จะลองดู” รัญชน์ตอบตกลงในที่สุด แม้จะยังไม่มั่นใจนักว่าเธอจะสามารถทำหน้าที่พี่เลี้ยงเด็กได้อย่างไร แต่ความจำเป็นและคำพูดของธีร์ธวัชก็ทำให้เธอตัดสินใจตอบรับ แววตาของเธอฉายแววถึงความมุ่งมั่นที่จะทำทุกอย่างเพื่อคนที่เธอรัก
“ดีเลยครับ! งั้นเดี๋ยวพี่จะโทรไปบอกพี่ลิน” ธีร์ธวัชเอ่ยด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น
รัญชน์ยิ้มบางๆ เธอยังคงไม่แน่ใจว่าการตัดสินใจครั้งนี้จะนำพาชีวิตเธอไปในทิศทางใด แต่เธอก็พร้อมที่จะเผชิญหน้ากับมัน