บังเอิญเจอ

1314 คำ
เมื่อจัดการเลือกชุดวันแต่งเรียบร้อยแล้ว ตอนแรกพริบพราวคิดว่าจะเช่า เพราะเธอเสียดายค่าตัดชุดที่ฟังราคาแล้วต้องเอามือทาบอกกับตัวเลขหลายหลัก อีกอย่างเธอคิดว่าตัดมาแล้วก็คงได้ใส่แค่ครั้งเดียว อินฟลูสาวอย่างเธอเห็นความสำคัญของฟาสแฟชั่น การประหยัด ลดโลกร้อน แต่ว่าที่เจ้าบ่าวกลับใจป้ำบอกว่าสั่งตัดไปเลย ราคาเท่าไหร่เขาไม่เกี่ยง ขอแค่ให้งานออกมาถูกใจก็พอ และที่สำคัญเป็นงานเร่งด้วย เพราะช่างต้องตัดให้เสร็จภายในสามสัปดาห์เลยมีค่าเร่งช่างเพิ่มเติมอีกด้วย "ฉันไปธุระต่อ เธอคงกลับเองได้ใช่มั้ย" จะให้เธอตอบว่าไงล่ะ กลับไม่ได้ เขาต้องไปส่งอย่างนี้เหรอ ร่างเล็กจำต้องจำใจพยักหน้ารับไป แต่ก่อนที่เขาจะขับรถออกไป หมอธนนท์ยังไม่วายกำชับเรื่องที่เขาให้เธอกลับเองห้ามฟ้องพ่อกับแม่เขาเด็ดขาด ระหว่างที่นั่งรอรถที่เธอเรียก ปรากฏว่าเนื่องจากอยู่ในซอยลึก กดกี่แอพก็โดนยกเลิกหมด พริบพราวเลยตัดสินใจเดินออกมาที่หน้าปากซอยเพื่อเรียกรถแท็กซี่ ตอนนี้บรรยากาศเริ่มจะมืดดูท่าฝนใกล้ตกลงมา สองขาน้อยๆรีบสาวเท้าให้เร็วขึ้น รู้แบบนี้เธอพารถมาเองดีกว่าต้องมาเจอคนใจไม้ไส้ระกำแบบเขา ยิ่งเดินก็ยิ่งรู้สึกว่าเปลี่ยว เมื่อเห็นผู้ชายสองคนขับซ้อนมอเตอร์ไซด์มา คนตัวเล็กก็กระชับกระเป๋าสะพายแบรนด์เนมของเธอให้กระชับเข้าหาตัวมากขึ้นด้วยความระแวง ดวงตากลมสวยกวาดมองซ้ายขวาด้วยความระมัดระวังก่อนจะรีบเร่งความเร็วให้เร็วยิ่งขึ้น ทันใดนั้นก็มีผู้ชายสองคนขับรถเขเามาประชิดตัวเธอ ก่อนจะกระชากกระเป๋าไปจากตัวหญิงสาวอย่างรุนแรง แต่คนตัวเล็กไม่ยอมปล่อย หญิงสาวร้องกรี๊ดด้วยความตกใจ ใบหน้าสวยซีดเซียวเมื่อคนร้ายทั้งสองตัดสินใจจอดรถและคนซ้อนด้านหลังเดินดุ่มลงมาพร้อมทั้งมีมีดถือในมืออย่างน่ากลัวโดยมีอีกคนบิดรถพร้แมที่จะขับออกไปตลอดเวลาเมื่อได้ของที่ต้องการ "ส่งกระเป๋ามาสะดีๆ ถ้าไม่อยากโดยกระซวกไส้ไหล" "ช่วยด้วย ช่วยด้วยค่า ช่วยด้วย" แทนที่เธอจะส่งกระเป๋าให้มัน หญิงสาวกลับร้องตะโกนขอความช่วยเหลือ โจรจึงตัดสินใจเอื้อมมือมากระชากกระเป๋าจากวงแขนเธออีกครั้ง คราวนี้มันออกแรงสุด ปต่คนตัวเล็กก็ยื้อไว้ จนทำให้เธอล้มลงไปกับพื้นอย่างรุนแรง ด้วยความเจ็บปวดที่เธอได้รับพริบพราวยอมปล่อยมือออกด้วยความเสียดายเสียใจ "เฮ้ย!!! มึงทำอะไรว่ะ" โชคดีที่มีพลเมืองดีขับรถผ่านมาพอดี ชายหนุ่มจอดรถและรีบลงมาช่วยพริบพราว โจรทั้งสองเห็นท่าไม่ดี จึงรีบคว้ากระเป๋าและขับรถออกไปอย่างรวดเร็ว "คุณ คุณครับ เป็นอะไรมากรึเปล่า" "มะ ไม่ค่ะ โอ้ย ซี๊ด!!! กระเป๋าฉัน" แม้ทั้งตัวของหญิงสาวตอนนี้เต็มไปด้วยแผลถลอก ทั้งแขน ทั้งหัวเข่าสองข้าง ชุ่มไปด้วยเลือดในตอนนี้ แต่เธอก็ยังห่วงกระเป๋าที่โจรมันได้ไปในที่สุด "ผมว่ากระเป๋าช่างมันเถอะครับ ไปโรงพยาบาลก่อน" "แต่..." พริบพราวก็ยังเสียดายกระเป๋าอยู่ดี แต่ทำอะไรไม่ได้เพราะตอนนี้โจรมันคงขับรถไปไกลแล้ว มือหนาพยายามประคองคนตัวเล็กขึ้นมา แต่เพราะแผลที่หัวเข่าสองข้างค่อนข้างใหญ่ทำให้หญิงสาวที่พยายามจะทรงตัวเซเข้าอ้อมแขนของเขา "ขอโทษค่ะ ฉันยืนเองก็ได้ค่ะ" "ผมว่าไม่ไหวมั่ง แผลคุณค่อนข้างลึก ดีไม่ดีอาจจะต้องเย็บ เอ่อ ผมเป็นหมอนะครับ" "ต้องเย็บเลยเหรอค่ะ คุณหมอ" แค่เลือดเธอก็จะเป็นลมแล้ว เจอคำว่าเย็บของเขาไป เหมือนเข่ามันจะอ่อนแรงไปโดยอัตโนมัติ "ขอโทษนะครับ ผมขออนุญาตอุ้มคุณนะ" พริบพราวไม่ทันพูดอะไร ร่างสูงก็ช้อนตัวขึ้นแนบอก ก่อนจะรีบพาขึ้นรถแล้วขับไปโรงพยาบาลให้เร็วที่สุด "ผม หมอเคนนะครับ" "พราวค่ะ พริบพราว ขอบคุณหมอมากเลยนะคะที่ลงมาช่วยพราว" "ซอยนี้เปลี่ยวมากเลยนะครับ ผมแนะนำว่าคราวหลังอย่าเดินแบบนี้จะดีกว่า ผู้หญิงโดนปล้นโดนจี้บ่อยเลยครับ บางครั้งก็มีทำร้ายร่างกาย หรือเคสหนักๆโดนข่มขืนก็มีนะครับ" คนตัวเล็กกลืนน้ำลายลงคอฝืดๆด้วยความกลัว นี้เธอเพิ่งผ่านเฉียดความตายมารึเปล่า แสดงว่าเธอยังโชคดีที่แค่โดนปล้นกระเป๋าใบรักไป "พราวไม่ได้มาบ่อยนะคะ เลยไม่รู้ มิน่า ลองเรียกรถแล้ว รถไม่ยอมเข้ามารับเพราะมันเปลี่ยวนี้เอง" "ครับ คราวหน้าห้ามมุทะลุไปยื้อแย่งกระเป๋ากับพวกมันนะครับ ของนอกกายปล่อยไป รักษาชีวิตของเราก่อน" "ค่ะ ขอบคุณคุณหมออีกครั้งนะคะที่ช่วยพราว" "ไม่เป็นไรครับผมยินดี เดี๋ยวผมทำแผลให้ ถึงโรงพยาบาลแล้วพอดี" มาถึงร่างสูงก็เรียกเปลเวรเอารถเข็นมารับเธอ ก่อนที่เขาจะค่อยๆประคองและอาสาเข็นเธอไปในห้องฉุกเฉินเองนั่นทำให้พริบพราวเกรงใจเป็นอย่างยิ่งกับการบริการอย่างดีของเขา เคนตั้งใจล้างแผลและทำแผลให้คนตัวเล็กอย่างเบามือ แต่ก็ยังไม่วายได้ยินเสียงหลุดร้องของคนตัวเล็กมาเป็นระยะๆ แม้เธอจะพยายามกัดฟันข่มความเจ็บแล้วก็ตาม "เรียบร้อยแล้วครับ ห้ามโดยน้ำและมาทำแผลทุกวันนะครับ คืนนี้อาจจะมีตึงๆหรือปวดได้ ผมจัดยาฆ่าเชื้อและยาแก้อักเสบให้แล้วนะครับ" ร่างสูงพูดกับใบหน้าสวยที่ตอนนี้ซีดเซียวแถมยังมีเหงื่อผุดขึ้นตามกรอบหน้าเต็มไปหมด แม้จะอยู่ในห้องแอร์ก็ตาม "ขอบคุณคุณหมอมากนะคะ" ร่างเล็กยกมือไหว้เขาด้วยความซาบซึ้งใจ เธอแอบได้ยินเพื่อนร่วมงานและพยาบาลทักว่าเขาเพิ่งลงเวรไป เลยเกรงใจที่แทนที่เขาจะได้พักผ่อนกลับต้องพาเธอมาโรงพยาบาลและทำแผลให้แบบนี้อีก "งั้นเดี๋ยวผมไปส่งที่บ้านนะครับ" "ไม่เป็นไรค่ะคุณหมอ พราวกลับเองได้ พราวเกรงใจค่ะ แค่นี้พราวก็ทำให้คุณหมอเสียเวลาพักมามากแล้ว" "ให้ผมช่วยแล้ว ก็ช่วยให้ถึงที่สุดนะครับ เผื่อไปเจอคนใจร้ายอีก ตอนนี้พันแขนพันขาแบบนี้ ขึ้นลงแท็กซี่คงไม่สะดวกแน่" ใบหน้าหล่อเหลาพูดอย่างใจดี รอยยิ้มที่เขาส่งมาทำให้พริบพราวอดเปรียบเทียบกับหมออีกคนที่เธอรู้จักไม่ได้ เพราะเขาแท้ๆ ทำให้เธอต้องเสียกระเป๋าแถมยังเจ็บตัวแบบนี้ ใช่ เหมือนอยากที่หมอเคนว่า วันนี้เธอเจอคนใจร้ายทั้งวันแล้ว โดยเฉพาะคนบ้า ที่ทิ้งเธอไว้กลางทางแบบนี้ "งั้นพราวขอเลี้ยงข้าวคุณหมอตอบแทนได้มั้ยค่ะ นะคะๆ ไม่งั้นพราวคงเกรงใจแย่ที่ต้องเป็นภาระหมอแบบนี้" "คุณเพิ่งโดนขโมยกระเป๋าตังไปนะครับ แล้วจะเอาเงินที่ไหนมาเลี้ยงผม" ร่างสูงกระเซ้าเธอ ก่อนจะหัวเราะอย่างอารมณ์ดี พลอยทำให้พริบพราวนิ่งไปสักพักก่อนจะหลุดขำออกมาด้วย นั่นน่ะสิ สภาพเธอตอนนี้ เงินจะจ่ายค่ารักษาพยาบาลยังไม่มีเลย มีหน้าขอเป็นเจ้ามืออีก เบอะบะจริงๆ ยัยพราวเอ้ย!!!
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม