2 ยัยจุ้น

1506 คำ
“แกทำไมฉันไม่เห็นพี่เดย์เลยอะ” ฉันถามพลางกวาดสายตาไปรอบลาน ใจเต้นแรงทั้งที่ยังไม่เห็นแม้แต่เงาด้วยซ้ำ “ไปลงทะเบียนก่อนยัยพะพิ้ง ไว้ค่อยไปนั่งมองหาทีหลังเร็วๆ” มิราพูดพลางคว้าแขนฉันลากไปที่โต๊ะลงทะเบียน “เชิญต่อแถวได้เลยนะคะ ลงชื่อแล้วรับป้ายชื่อจากพี่ที่โต๊ะข้างๆได้เลยค่ะ” เสียงรุ่นพี่สาวพูดอย่างใจดี ฉันยื่นบัตรนักศึกษาให้พร้อมยิ้มแหยๆ เพราะมัวแต่ใจลอย “ลงทะเบียนเสร็จแล้ว นั่งรอทำกิจกรรมรับน้องที่ลานกันได้เลยนะครับ” รุ่นพี่ผู้ชายอีกคนประกาศเสียงดัง หลังจากฉันกับมิราทำขั้นตอนเสร็จเรียบร้อย เราสองคนเดินไปนั่งรวมกับเพื่อนใหม่ที่ลานกลาง คณะวิศวะปีนี้มีนักศึกษาใหม่แค่ราวๆ สามสิบคนนี่แหละมั้ง และแน่นอนส่วนใหญ่เป็นผู้ชาย ฉันมองไปรอบๆ ด้วยหัวใจที่ยังคงเต้นแรง เพราะคิดว่าบางทีพี่ซันเดย์อาจจะอยู่แถวๆนี้ก็ได้ เพียงแค่ฉันยังไม่เห็นเท่านั้น “แกๆนั่นไงพี่ซันเดย์” เสียงของมิราดังขึ้นพร้อมกับมือหนึ่งข้างชี้นิ้วไปยังด้านหน้าลาน ส่วนอีกข้างก็สะกิดฉันแรงๆ จนฉันสะดุ้งตกใจรีบหันไปตามทิศที่เพื่อนชี้ทันที แล้วหัวใจก็เต้นแรงจนแทบไม่เป็นจังหวะ เพราะคนที่เดินอยู่ตรงนั้นคือพี่ซันเดย์จริงๆ ภาพในความฝันเมื่อคืนผุดขึ้นมาในหัวอย่างชัดเจน จนฉันหน้าแดงขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว ยิ่งเห็นเขาในชุดนักศึกษาวิศวะสีแดง เขาดูสะอาด หล่อและก็เท่ในเวลาเดียวกัน พร้อมกับสายตานิ่งๆคมๆแบบนั้น ฉันยิ่งรู้สึกเหมือนหายใจไม่ทั่วปอดเลยละ “เหมือนว่าพี่ซันเดย์จะมาช้านะ” ฉันพูดกับมิราพลางยิ้มออกมาโดยไม่รู้ตัว “แกจะยิ้มอะไรขนาดนั้นเนี่ย” ยัยมิราถามฉันพร้อมทั้งยิ้มตามฉันไปด้วย “ก็จะไม่ให้ยิ้มได้ยังไงล่ะ แกดูกลุ่มพี่เดย์สิ” ฉันพูดพลางพยักพยักหน้าไปทางนั้น มิราเลยหันไปมองตาม แล้วทันทีที่เห็นทั้งสามเดินเจ้ามาในลานพร้อมกัน เธอก็ทำตาโต พร้อมยกมือปิดปากตัวเอง “โฮ้ยยยแก! กลุ่มเพื่อนพี่เดย์มีแต่คนหล่อๆทั้งนั้นเลยอ่ะ ว้าย…ฉันอยากจะกรี๊ดด~” เสียงกรี๊ดถูกกลั้นไว้เต็มที่จนกลายเป็นเสียงแหลมเบาๆ ที่หลุดออกมาจากลำคอของมิรา ฉันแอบหัวเราะเบาๆ มองเพื่อนสาวที่หน้าแดงไม่แพ้ตัวเอง “เบาๆสิแกเดี๋ยวรุ่นพี่คุมกิจกรรมเขาได้ยินจะโดนว่าเอา” มิราทำปากจู๋พลางหันกลับมานั่งดีๆ แต่ก็ยังแอบชะเง้อมองกลุ่มของพี่ซันเดย์อยู่ดี ส่วนฉันก็ไม่ต่างกันเลยสักนิด หัวใจยังคงเต้นแรงทุกครั้ง ที่สายตาเหลือบไปเห็นร่างสูงในชุดวิศวะของเขา คนที่ฉันแอบรักมาตลอดตั้งแต่เด็ก -ซันเดย์- “ปีนี้รุ่นน้องผู้หญิงเยอะกว่าปีที่แล้วอีกนะมึงว่ามะ แถมยังสวยๆทั้งนั้นเลย” เสียงไอ้ฟอร์มดังขึ้นพลางพยักหน้าไปทางลานรับน้อง “เออกูเห็นเหมือนกัน มีแต่น่ารักๆ น่าสอยมาควงเล่นๆซักคนอยู่นะมึง” ไอ้ทรอยเสริมขึ้นตามสไตล์มัน ปากหมาแต่แม่งเจ้าชู้ไม่เบา ส่วนผมก็ได้แต่นั่งฟังพวกมันพล่ามกันไป ไม่ได้มีอารมณ์ร่วมอะไรหรอก เรื่องพวกนี้มันไม่ค่อยน่าสนใจเท่าไหร่ “จะสอยก็รีบสอยเลยนะมึง” ไอ้ฟอร์มหันมามองผมพร้อมหัวเราะหึๆ “ถ้ามึงไม่รีบเดี๋ยวสาวๆ รุ่นน้องเห็นหน้าไอ้ซันเดย์แม่งก็เทกันมาชอบมันอีกแน่” ผมกลอกตาเบาๆ ก่อนจะยกแขนขึ้นพาดพนักเก้าอี้อย่างขี้เกียจ พูดก็พูดเหอะ พวกมันพูดยังกะผมอยากให้ใครมาชอบงั้นแหละ ทั้งที่จริงผู้หญิงน่ะโคตรน่าเบื่อ “มันไม่สนหรอก ไอ้ซันเดย์อ่ะ มึงก็รู้ว่ามันไม่ชอบผู้หญิง” ไอ้ทรอยพูดพลางหัวเราะหึๆ ผมเหลือบตามองมันนิดหนึ่ง ก่อนจะสวนกลับทันที “ค*ย” แทนที่มันจะหยุด กลับหัวเราะเสียงดังยิ่งกว่าเดิม “กูพูดเล่นนิดเดียว มึงด่ากูค*ยเลยเหรอวะ ฮ่าๆๆ” ผมถอนหายใจ หยิบขวดน้ำขึ้นมาดื่มพลางเบือนหน้าออกไปทางลานกว้าง เสียงเพลงเสียงน้องๆที่กำลังทำกิจกรรมดังระงม เอาจริงๆผมมานั่งตรงนี้เพราะหน้าที่ไม่ใช่เพราะอยากมา “เชิญรุ่นพี่ปีสอง ปีสาม และปีสี่ เข้ามาที่ลานด้วยครับ จะได้ให้น้องๆเลือกพี่รหัสกัน!” เสียงของพี่ปีสี่ดังขึ้นก้องทั่วลานกิจกรรม ผมกับพวกมันสองคนไอ้ฟอร์มกับไอ้ทรอย เดินเข้าไปยืนตามแถวอย่างเสียไม่ได้ แดดตอนสายจัดจ้านจนเหงื่อเริ่มซึมที่ขมับ เสียงฮือฮาจากเหล่าน้องปีหนึ่งดังขึ้นแทบจะทันทีที่พวกเราก้าวเข้ามาในลาน ผมไม่ได้แปลกใจหรอก มันเป็นแบบนี้ทุกปี รุ่นพี่หล่อหน่อยก็กลายเป็นจุดสนใจของพวกเด็กปีหนึ่งโดยอัตโนมัติ แต่สำหรับผม มันไม่ใช่เรื่องน่าภูมิใจเลย มีแต่ความน่ารำคาญเท่านั้น “พี่ซันเดย์คะ พี่ซันเดย์!” เสียงหวานๆ ดังแว่วขึ้นมาจากฝั่งน้องใหม่ เสียงที่ผมจำได้แม่น ยัยจุ้นลูกสาวของน้าธาราเพื่อนสนิทของพ่อผมเอง แม่เพิ่งพูดถึงชื่อเธอเมื่อเช้านี้ ว่าลูกสาวน้าธารากับน้าวาจะมาเรียนที่นี่ แถมยังเลือกคณะเดียวกับผมอีก ผมหันหน้าไปมองตามเสียงอย่างเสียไม่ได้ และแน่นอนเธออยู่ตรงนั้นจริงๆ เด็กผู้หญิงตัวเล็กในชุดนักศึกษาขาวสะอาด ดวงตากลมโตคู่นั้นกำลังมองมาทางผม พร้อมรอยยิ้มสดใสที่ผมจำได้ดี แต่แทนที่ผมจะรู้สึกดี กลับมีแต่ความหงุดหงิดแล่นขึ้นมาแทน เธอยกมือโบกให้อย่างไม่อายใคร ยิ่งทำเหมือนโลกนี้มีผมอยู่แค่คนเดียว ผมก็ยิ่งรู้สึกอยากหันหนี ผมถอนหายใจยาวพลางเม้มปากแน่น เจอยัยนี่ทีไรผมบอกตรงๆว่าต้องมีเรื่องให้ผมปวดหัวตลอด “แม่งยัยจุ้นจริงๆด้วย” แม่สั่งกำชับไว้ให้ผมดูแลเธอด้วยซ้ำ ฟังดูง่ายใช่ไหม แต่สำหรับผม มันคือฝันร้ายชัดๆ ทั้งที่คณะอื่นก็มีตั้งเยอะ ทำไมต้องเลือกเรียนที่เดียวกันด้วยวะ ผมแม่งโครตไม่เข้าใจ แค่คิดผมก็รู้สึกหงุดหงิดขึ้นมาโดยไม่มีเหตุผล ไอ้ซันเดย์มีรุ่นน้องเรียกมึง" ไอ้เหี้ยทรอยมันเสือกได้ยิน แล้วมันก็ดันไม่อยู่นิ่งๆ มันสะกิดบอกผมทั้งที่ผมทำเป็นไม่สนใจ "เออช่างดิวะ" ผมตอบอย่างหงุดหงิด -พะพิ้ง- “แกพี่ซันเดย์เขาไม่ได้ยินเสียงฉันหรือเปล่าเนี่ย ฉันเรียกตั้งหลายรอบแล้วนะ แต่เขาไม่หันมามองเลย” ฉันบ่นกับยัยมิราพลางโบกมือไปทางพี่ซันเดย์อีกครั้ง แต่เขากลับไม่หันมาสักนิด แถมยังมองไปอีกทางด้วยซ้ำ “คงงั้นแหละแก ดูสินั่นน่ะพี่เขามองไปอีกทาง แล้วจะเห็นแกได้ยังไง แกต้องเรียกดังๆกว่านี้ปะ พี่เขาถึงจะได้ยินอ่ะ” มิราพูดพร้อมทั้งชะเง้อคอมองช่ยวฉัน ฉันเม้มปากแน่น สูดหายใจเข้าลึกๆก่อนรวบรวมความกล้า เอาวะแค่ให้เขาหันมามองฉันสักแวบก็ยังดี พี่ฝันดีจะได้รู้ว่าฉันอยู่ตรงนี้ “พี่ซันเดย์คะ!” เสียงฉันดังออกไปเต็มแรงจนตัวเองยังตกใจ เพราะในจังหวะนั้นรุ่นพี่ก็ดังปิดเสียงเพลงพอดี และได้ผลทันตาเพราะพี่ซันเดย์หันมาจริงๆ แต่ปัญหาคือไม่ใช่แค่เขาที่หันมา รุ่นพี่ทุกคนในลานหันมามองทางฉันหมดเลย "จังหวะโบ๊ะบ๊ะมากแก" ฉันชะงักตัวแข็งไปชั่วขณะ ร่างร้อนวูบตั้งแต่ปลายเท้าจนถึงใบหน้า โอ๊ย...แก้วหูฉันสั่นหมดแล้ว แถมตอนนี้พวกพี่ๆยังจ้องกันใหญ่เลย และไม่ทันที่ฉันจะได้หลบตา เสียงเข้มของพี่ปีสี่ที่ถือไมค์ก็ดังขึ้น “เสียงของใครครับ ขอออกมาข้างหน้าเลยครับ เรากำลังทำกิจกรรมกันอยู่นะครับ ไม่ควรส่งเสียงดังแบบนั้น ลุกขึ้นแล้วเดินออกมาข้างหน้าเลยครับ” "งานเข้าแล้วแก" ฉันได้ยินเสียงของยัยมิราเบาๆ เหมือนหูฉันมันดับเพราะความอาย
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม