-พะพิ้ง-
“แกเป็นไงบ้าง เหนื่อยไหม”
ยัยมิราเดินเข้ามาหาฉันพร้อมน้ำในมือหนึ่งขวดยืนให้ฉัน
“ขอบใจแก”
ฉันรับน้ำมาแล้วรีบเปิดดื่มทันที ฉันทั้งร้อนทั้งเหนื่อยทั้งคอแห้ง
สายตาฉันก็ดันไปสะดุดกับร่างของพี่ซันเดย์ และเพื่อนๆของพี่ซันเดย์ ฉันเห็นว่าเพื่อนของเขามองมาที่ฉันแล้วพวกเขาก็ยิ้มขำๆ ฉันเดาได้เลยว่าคงกำลังพูดถึงฉันอยู่แน่ๆ
“พี่ซันเดย์เขาว่าไงบ้างแก”
มิราถามเสียงเบา
“จะว่าไงล่ะก็ดุฉันน่ะสิแก”
ฉันตอบพร้อมถอนหายใจออกแรงๆ
“รุ่นพี่ก็ลงโทษฉันเหมือนฉันทำผิดร้ายแรง ก็แค่เรียกพี่เสียงดังแค่นั้น ให้ฉันวิ่งรอบสนามตั้งสองรอบ ชิ...ซ้ำยังถูกพี่ซันเดย์ดุเอาอีก”
ฉันบ่นพึมพำไป พร้อมหันไปเห็นยัยมิราที่ยิ้มขำๆ ยังกะเป็นเรื่องตลกทั้งที่ฉันเหนื่อยแทบตาย
“ผู้ชายด่าแปลว่าผู้ชายรักนะ ดุนิดดุหน่อยแสดงว่าเขาเอ็นดูแกหรือเปล่ายะ”
เธอพูดพร้อมรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ แต่ฉันกับไม่ได้รู้สึกแบบนั้นเลยสักนิด
"หึ!! ด่าก็คือด่าค่ะ จะมาเอ็นดงเอ็นดูอะไรของแก"
"ก็ไม่แน่นะแก เขาเองก็อาจจะชอบแกเหมือนกันก็ได้"
ยัยมิราเอ่ยพร้อมทั้งบิดไปมา ราวกับเขินแทนฉันงั้นแหละ
“เอาล่ะทุกคน ได้เวลารวมตัวแล้วครับ น้องๆคนไหนมาช้าจะต้องถูกลงโทษนะครับ ฉะนั้นใครมีเพื่อนที่ยังไม่เข้ามารีบเรียกเพื่อนเข้าลานเลยครับ!”
เสียงรุ่นพี่เสียงดังฟังชัด ทำเอาฉันถึงกับถอนหายใจเบาๆ ฉันเพิ่งจะวิ่งกลับมาไม่ถึงสามนาทีเองนะเนี่ยนะ เรียกรวมอีกละ
“ไปกันเถอะแก รุ่นพี่เรียกแล้ว”
ยัยมิราพูดพลางลากแขนฉันให้เดินตามเข้าลาน ฉันก้าวขาไปอย่างฝืนๆ เพราะตอนนี้ฉันเหนื่อยสุดขีด
หลังจากนั้นรุ่นพี่ก็เริ่มกิจกรรมให้พวกเราจับสลากเลือกพี่รหัสกัน และตอนนี้ฉันก็มายืนอยู่ตรงหน้าพี่รหัสของฉันเรียบร้อยแล้ว
"น้องพะพิ้ง"
พี่รหัสของฉันเรียกชื่อฉัน โดยที่ฉันยังไม่ได้บอกชื่อด้วยซ้ำ
"ค่ะ"
"ดวงเราถ้าจะสมพงษ์กันนะครับน้องพะพิ้ง"
คนที่ฉันจับได้ก็คือ พี่ทรอยหนึ่งในเพื่อนสนิทของพี่ซันเดย์นั่นแหละ ฉันจำเขาได้ดี ฉันเคยเจอพี่เขาที่บ้านของพี่ซันเดย์ด้วย
"หื้อ...คะ"
ฉันหันไปมองพี่ซันเดย์ ก็เห็นว่าน้องรหัสของเขาเป็นผู้หญิง แล้วดันหน้าตาน่ารักสุดๆอีกต่างหาก 'เฮ้อ…แต้มบุญเธอนี่คงเยอะมากแน่ๆ' ฉันแอบคิดในใจอย่างอิจฉา
“ไม่คิดเลยนะเนี่ยว่าจะได้น้องรหัสเป็นน้องพะพิ้ง จิ๊...พี่นี่มันโชคดีจริงๆ”
เสียงทุ้มอบอุ่นของพี่ทรอยดังขึ้นพร้อมรอยยิ้มอ่อนโยน
“สวัสดีค่ะพี่ทรอย หนูขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะคะ”
ฉันยิ้มตอบพร้อมยกมือไหว้ตามมารยาท
“เป็นไงบ้าง เห็นรับน้องวันแรกก็โดนทำโทษเลยเหรอเรา”
พี่ทรอยถามด้วยรอยยิ้มขำๆในแววตา
“ใช่ค่ะ”
ฉันยิ้มแห้งๆตอบกลับไปอย่างเขินๆ
“ได้ข่าวว่าเป็นน้องสาวของไอ้ซันเดย์มันเหรอ”
“ค่ะ แต่ก็ไม่เชิงว่าเป็นน้องหรอกนะคะ พ่อของหนูกับพ่อของพี่ซันเดย์เป็นเพื่อนกัน เราเลยนับถือกันแบบพี่น้องมากกว่า”
“อ๋อ อย่างนี้นี่เอง”
พี่ทรอยพูดพลางพยักหน้าเบาๆ ก่อนจะยิ้มมุมปาก
"ที่จริงพี่ทรอยเคยเจอหนูแล้วละค่ะ แต่พี่น่าจะจำไม่ได้มากกว่า"
"จริงดิ"
"ใช่ค่ะ หนูเคยเจอพี่ทรอยที่บ้านของพี่ซันเดย์ค่ะ"
"จริงหรอ ทำไมพี่จำไม่ได้เลย พี่เพิ่งรู้เลยนะเนี่ยว่าไอ้ซันเดย์มันมีน้องสาวน่ารักขนาดนี้”
“ขอบคุณค่ะ”
คำพูดของพี่ทรอยทำให้ฉันคิดขึ้นมา ว่าพี่เขาจำฉันไม่ได้จริงๆหรอ ขนาดฉันเองยังจำพี่เขาได้เลย หรือพี่เขาแค่แกล้งจำฉันไม่ได้หรือเปล่า
“มีอะไรปรึกษาพี่ได้ตลอดเวลาเลยนะ พี่เต็มใจให้คำปรึกษามาก”
เสียงพี่ทรอยนุ่มละมุนหูมาก แววตาอบอุ่นจนฉันเผลอยิ้มตอบกลับไป
“ได้ค่ะพี่ทรอย ขอบคุณนะคะ”
ฉันตอบอย่างมีมารยาท แต่สายตากลับเผลอมองเลยไปยังอีกมุมของลาน ที่นั่นพี่ซันเดย์กำลังยืนคุยกับน้องรหัสของเขาอยู่ ทั้งคู่ยิ้มและหัวเราะกันอย่างสนิทสนม ต่างจากตอนที่อยู่กับฉันโดยสิ้นเชิง
"ยิ้มหน้าบานขนาดนั้น คงถูกใจมากมั้ง"
ฉันพึมพำด้วยความหมั่นไส้
"อะไรนะครับ พี่หน้าบานขนาดนั้นเลยหรอ"
พี่ทรอยถามฉันเพราะเขาน่าจะได้ยิน
"เอ่อ...ไม่ใช่ค่ะ เอ่อคือหนูแค่บ่นกับตัวเองค่ะพี่ทรอย"
"อ่าวนึกว่าพี่หน้าบานซะอีก"
"ไม่ใช่ค่ะ"
เวลาผ่านไปจนกิจกรรมรับน้องจบลง และก็มีกิจกรรมอื่นๆเข้ามาเรื่อยๆจนเสร็จ รุ่นพี่ก็ประกาศปล่อยให้แยกย้ายกันกลับบ้าน เพราะวันนี้ไม่มีเรียน มหาลัยแค่นัดมาเพื่อทำกิจกรรมต้อนรับน้องใหม่เท่านั้น แต่กว่าจะเสร็จก็เกือบสี่โมงครึ่งแน่ะ กิจกรรมเยอะ แถมโดนลงโทษกันเป็นระยะๆอีก จากที่นัดไว้บ่ายสามก็ลากยาวเกินเวลาไปเป็นชั่วโมงเลย
“แกกลับบ้านกันเถอะ”
เสียงของมิราดังขึ้นพร้อมกับมือที่เกาะแขนฉันแน่น ร่างของเธอดูอ่อนล้าเต็มที
“แกเพลียขนาดนั้นเลยเหรอ”
ฉันถามด้วยความเป็นห่วง เพราะสีหน้าของมิราดูหมดแรงจริงๆ
“ใช่น่ะสิ ดูสิกิจกรรมเยอะแยะไปหมด แถมฉันไม่ค่อยได้วิ่งมานานแล้ว เมื่อยตัวไปหมดเลยแก”
ยัยมิราพูดพลางยืดแขนยืดขาเหมือนคนหมดแรง
“จริงแก ฉันก็เมื่อยเหมือนกัน กิจกรรมเยอะไปอ่ะ แถมยังถูกลงโทษเยอะอีกด้วย”
ฉันถอนหายใจเบาๆ นึกถึงตอนที่ต้องวิ่งรอบสนามแล้วถึงกับขาแทบหมดแรง ตั้งใจไว้เลยว่าถ้าถึงบ้านเมื่อไหร่ จะรีบอาบน้ำแล้วทิ้งตัวลงนอนให้สบายสุดๆไปเลย
“งั้นฉันไปแล้วนะแก”
มิราเอ่ยขึ้นหลังจากยืดเส้นยืดสายเสร็จ
“แล้วแกกลับยังไงล่ะ เอารถมาด้วยหรือเปล่า”
“ไม่ได้เอามาหรอกพ่อฉันมาส่ง แล้วตอนนี้พ่อก็มารอรับตั้งแต่บ่ายสามแล้วด้วย เพราะฉันบอกไว้ว่าจะเลิกตอนบ่ายสาม ไม่คิดว่าจะเลยเวลาเยอะขนาดนี้”
เธอบ่นเสียงอ่อยๆ
“โอเค งั้นแกรีบกลับเถอะ ป่านนี้พ่อแกคงชะเง้อมองหาแล้วมั้ง”
ฉันพูดพลางยิ้มบางๆให้เพื่อนรัก
“ไว้พรุ่งนี้เจอกันใหม่นะ”
“โอเคบ๊าย”
ฉันยกมือโบกให้ มิราเองก็โบกกลับพร้อมรอยยิ้มจางๆ
ฉันมองแผ่นหลังของเพื่อนรักที่ค่อยๆห่างออกไป พร้อมความรู้สึกเอ็นดูปนสงสาร ไม่ค่อยได้เห็นมิราเหนื่อยล้าแบบนี้บ่อยนัก วันนี้คงหนักสำหรับเธอจริงๆ
วี๊ดวี้ว!!
“สวัสดีครับน้องสาวคนสวย เดินคนเดียวไม่กลัวเหงาเหรอ ให้พี่เดินไปส่งไหมจ๊ะ จะไปทางไหนเอ่ย”
เสียงแซวจากกลุ่มนักศึกษาชายดังขึ้นจากริมทางเดิน ฉันหันไปมองแวบหนึ่ง เห็นกลุ่มผู้ชายสามสี่คนในชุดช็อปคณะอื่นนั่งอยู่ตรงฟุตบาท พวกเขามองมาทางฉันด้วยสายตาแบบที่ทำให้ฉันรำคาญ
ฉันรีบเชิดหน้า เดินเร็วขึ้นโดยไม่ตอบอะไรกลับไปเลย
แต่ดูเหมือนจะไม่จบง่ายๆ เสียงฝีเท้าและเสียงหัวเราะดังไล่หลังตามฉันมาเรื่อยๆ
“ให้พี่ไปส่งไหมครับน้อง ลานจอดมันไกลนะ เดี๋ยวพี่แว้นบิ๊กไบค์ไปส่งแป๊บเดียวถึงเลย สวยๆแบบนี้พี่ส่งถึงบ้านเลยก็ได้”
ฉันกลืนน้ำลายลงคอ มองเห็นบิ๊กไบค์คันสีดำแดงจอดอยู่ข้างฟุตบาท มันดูเท่มากแต่ตอนนี้ฉันรู้สึกว่าฉันเริ่มกลัวขึ้นมานิดหน่อย
"............"
ฉันไม่พูดอะไร เอาแต่ตั้งหน้าตั้งตาเดินเร็วขึ้นเรื่อยๆ พยายามไม่หันกลับไปมอง แม้ว่าจะได้ยินเสียงพวกเขาเดินตามหลังมาก็ตาม
แล้วแปลกที่บริเวณนี้ไม่ค่อยมีนักศึกษาเดินเลย ฉันกำมือแน่น หัวใจเต้นแรงขึ้นทุกที
“ถ้าเดินตามมาอีกฉันกรี๊ดแน่ คอยดูสิ”
ฉันพูดกับตัวเองในใจ พร้อมกับรู้สึกระแวงหลังไปหมด