6 น่ารักกับผี

1532 คำ
-พะพิ้ง- “พ่อคะแม่คะ” ฉันเดินเข้ามาในห้องโถงพร้อมเสียงใสๆ พอเห็นทั้งสองคนกำลังนั่งคุยกันอยู่บนโซฟาอย่างอารมณ์ดี ฉันก็รู้เลยว่านี่แหละเป็นจังหวะที่เหมาะสมที่สุด ที่จะขอในสิ่งที่อยากได้ “ว่าไงลูก” เสียงของแม่เอ่ยถามพร้อมรอยยิ้มอบอุ่น ส่วนพ่อก็มองมานิ่งๆเหมือนรอฟัง “คือ…เอ่อหนูอยากขอย้ายไปอยู่ที่คอนโดได้ไหมคะ” คิ้วของพ่อขมวดขึ้นทันที ส่วนแม่ก็มองฉันอย่างแปลกใจ “คอนโดไหนลูก” “ก็คอนโดที่พ่อซื้อไว้ ข้างๆห้องของคุณลุงครามไงค่ะ” ฉันตอบเสียงอ้อมแอ้ม พร้อมยิ้มแหยๆอย่างกล้าๆกลัวๆ เพราะนี่เป็นคำขอที่รู้ดีว่า พ่อกับแม่ไม่มีทางอนุญาตง่ายๆแน่นอน “ทำไมล่ะลูก อยู่บ้านไม่ดีเหรอ” เสียงของแม่ยังคงนุ่มนวล พร้อมกับใบหน้าที่ดูแปลกใจ “ดะ…ดีค่ะแม่ ดีมากๆด้วยค่ะ แต่ว่าถ้าอยู่ที่คอนโดหนูจะสะดวกกว่านี้ค่ะ มันใกล้มหาลัยกว่าที่บ้านเยอะเลยค่ะ เวลาที่หนูมีเรียนเช้าหนูจะได้ไม่ต้องตื่นตั้งแต่ตีห้าแบบตอนอยู่บ้านค่ะแม่ ไหนๆคอนโดนั้นก็ไม่มีใครอยู่อยู่แล้ว ทิ้งไว้ว่างๆก็น่าเสียดายนะคะ ให้หนูไปอยู่ที่นั่นได้ไหมคะคุณแม่คุณพ่อ” ฉันทำเสียงอ้อนสุดชีวิต หวังให้พ่อกับแม่ใจอ่อน พ่อพ่นลมหายใจเบาๆก่อนถามเสียงเรียบ “ทำไมจู่ๆถึงอยากไปอยู่ที่คอนโดละฮึ...เลิกกลัวผีแล้วหรอ ถึงจะกล้าไปอยู่คนเดียแบบนั้นอ่ะ" ฉันยิ้มแหยๆอีกครั้ง “ก็ที่นั่นใกล้มหาลัยมากเลยนี่คุณคะพ่อ ถ้าหนูขับรถจากที่บ้านก็ตั้งสิบห้านาทีแน่ะกว่าจะถึง แต่ถ้าขับจากคอนโดก็ใช้เวลาแค่ห้านาทีเองนะคะ บางทีก็อาจจะไม่ถึงห้านาทีด้วยซ้ำค่ะ ระยะเวลามันต่างกันมากๆเลยนะคะคุณพ่อ” “แล้วจะดูแลตัวเองได้เหรอลูก ลูกเพิ่งจะจบม.ปลาย แล้วก็เพิ่งเข้ามหาลัยวันแรกเองนะพะพิ้ง จะรีบไปอยู่คนเดียวทำไมกัน” แม่ถามพร้อมเลิกคิ้วอย่างห่วงใย “ได้สิคะแม่ หนูโตแล้วนะคะ หนูดูแลตัวเองได้แน่นอนค่ะ” ฉันพูดพร้อมยืดอกเล็กๆอย่างมั่นใจ ทั้งที่ในใจแอบลุ้นจนเหงื่อซึม กลัวสุดๆว่าพ่อกับแม่จะไม้อนุญาต “จะดีเหรอลูก” พ่อเพียงเอ่ยเบาๆเท่านั้นแหละ ฉันไม่รอช้ารีบลุกขึ้นจากโซฟาเดินเข้าไปหาท่านทั้งสองทันที ก่อนจะคุกเข่าลงตรงหน้าแล้วกอดทั้งพ่อทั้งแม่ไว้แน่น ใช้ไม้ตายที่ฉันใช้แล้วไม่เคยพลาดเลยสักครั้ง “ให้หนูไปอยู่ที่คอนโดเถอะนะคะ หนูสัญญาว่าจะกลับมาบ้านทุกวันเสาร์อาทิตย์เลยค่ะ หนูจะไม่ดื้อแน่นอนค่ะคุณพ่อคุณแม่ ให้หนูไปอยู่ที่คอนโดเถอะนะคะ นะๆๆๆนะคะ” ฉันพูดพลางส่ายตัวเบาๆ ทำเสียงออดอ้อนอย่างกับลูกแมว พ่อกับแม่มองหน้ากันเล็กน้อยก่อนจะยิ้มและหัวเราะออกมาเบาๆ “เด็กคนนี้นี่น้า…” เสียงหัวเราะอบอุ่นของพ่อดังขึ้นในที่สุด ตอนนั้นเองฉันก็รู้แล้วว่า ไม้ตายของฉันใช้ได้ผลอีกครั้ง “ให้หนูไปอยู่คอนโดเถอะนะคะ” ฉันอ้อนเสียงหวาน พร้อมทำตาแป๋วใส่ทั้งพ่อและแม่เข้าไปอีก เหมือนลูกแมวกำลังขอขนมนั่นแหละ พ่อหันไปมองแม่พลางเอ่ยถามเสียงเรียบ “คุณว่าไงล่ะวา จะให้ลูกไปอยู่โน่นไหม หรือคุณคิดว่ายังไง” ฉันรีบเบิกตากว้าง ส่งสายตาอ้อนสุดชีวิตไปทางแม่ หวังสุดหัวใจว่าท่านจะอยู่ข้างฉัน แม่เงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนจะพยักหน้าช้าๆ “คอนโดก็ไม่ได้อยู่ไกลมากนี่คะ ฉันว่าลูกไปอยู่ที่โน่นก็คงไม่เป็นไร อีกอย่างเหมือนฉันได้ยินมาว่า ลูกชายของคุณเกวลินก็อยู่คอนโดนั้นด้วยใช่ไหมคะ” แม่หันไปมองพ่อพลางพูดเสียงนุ่ม ทันทีที่แม่พูดถึงชื่อซันเดย์ ฉันก็รีบตอบแทบจะทันที “ใช่ค่ะแม่ เมื่อเย็นพี่ซันเดย์บอกหนูเองเลยค่ะ ว่าพี่เขาอยู่ที่คอนโดค่ะ” แน่นอนถึงเขาจะไม่พูดตรงๆกับฉันก็เถอะ แต่ฉันก็รู้อยู่ดีว่าพี่ซันเดย์อยู่ที่คอนโด เพราะฉันแอบถามน้าเกวลินไว้ก่อนแล้วล่ะ ระดับพะพิ้งไม่มีอะไรที่พี่ซันเดย์จะปิดฉันได้หรอก แม่เลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย “อ้าวเหรอจ๊ะ พี่เขาคุยกับลูกเรื่องนี้ด้วยเหรอ” “คุยค่ะแม่ เพิ่งจะคุยกันตอนจะกลับบ้านนี่เองค่ะ” ฉันตอบเสียงใสพร้อมยิ้มกว้าง แม่หัวเราะเบาๆ ก่อนหันไปทางพ่ออีกครั้ง “งั้นก็คงไม่เป็นไรหรอกค่ะคุณ ยังไงก็มีซันเดย์อยู่ใกล้ๆ” ฉันยิ้มกว้างขึ้นจนหุบแทบไม่ลง เผลอหัวเราะเบาๆออกมาด้วยความดีใจ “หึหึ!!” “แต่ถ้าไปอยู่คนเดียว จะไม่หนีเที่ยวใช่ไหมพะพิ้ง” พ่อถามเสียงเข้มแต่แฝงไปด้วยความเป็นห่วง ฉันรีบยกมือขึ้นปฏิเสธพลางส่ายหน้าแรงๆ “ไม่มีทางค่ะพ่อ หนูไม่ชอบเที่ยวอยู่แล้วค่ะ หนูแค่อยากอยู่ใกล้มหาลัยแค่นั้นเองค่ะ เพราะออกจากบ้านเรารถมันติด กว่าจะถึงมหาลัยก็เสียเวลาตั้งหลายนาทีค่ะ” พ่อมองฉันเงียบๆอยู่พักหนึ่ง “อืม…งั้นก็ได้ลูก แต่มีข้อแม้นะ หนูต้องอยู่ในการดูแลของพี่ซันเดย์เขาเท่านั้นนะเข้าใจไหม เดี๋ยวพ่อจะบอกลุงครามไว้ ให้บอกซันเดย์ดูแลลูกด้วย” ฉันรีบพยักหน้ารัว “ได้เลยค่ะคุณพ่อ” ฉันยิ้มกว้างจนแก้มปริ ก่อนจะโผเข้าไปกอดพ่อกับแม่แน่นๆ “ขอบคุณค่ะพ่อ ขอบคุณค่ะแม่ หนูรักคุณพ่อกับคุณแม่ที่สุดในโลกเลยค่ะ” ฉันพูดจบก็หอมแก้มทั้งสองคนละฟอดใหญ่ๆ เสียงหัวเราะอบอุ่นของพ่อกับแม่ดังคลออยู่ในห้องโถง -ซันเดย์- ครืด~ ครืด~ ครืด~ เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นขณะที่ผมกำลังนั่งเอนหลังอยู่บนโซฟา ผมหยิบขึ้นมาดูก็เห็นชื่อของแม่โชว์อยู่บนหน้าจอ “ครับแม่” “ซันเดย์ลูกตอนนี้ลูกอยู่คอนโดไหม” น้ำเสียงแม่ฟังดูอารมณ์ดีผิดปกติ “ครับแม่อยู่ครับ” ผมขมวดคิ้วนิดๆด้วยความแปลกใจ เพราะปกติแม่ไม่ถามผมแบบนี้ ส่วนมากถ้ามีธุระแม่ก็จะพูดออกมาเลย “พอดีเลยลูก เดี๋ยวหนูพะพิ้งจะย้ายไปอยู่คอนโดห้องข้างๆเราน่ะลูก ยังไงแม่ฝากให้ลูกช่วยดูแลน้องด้วย น้องอาจจะย้ายวันนี้หรือไม่ก็พรุ่งนี้ แม่อยากให้ลูกคอยดูแลน้องหน่อยนะลูก” ผมชะงักไปทันที “อะไรนะครับแม่” “พะพิ้งไง ลูกสาวของน้าวาน่ะลูก” ผมแทบอยากจะกลั้นหายใจ “อีกแล้วเหรอครับแม่ ที่มหาลัยผมก็ต้องเป็นคนดูแลเธอ แล้วนี่จะให้มาดูแลถึงที่คอนโดอีกเหรอครับแม่” เสียงผมเริ่มแข็งโดยไม่ตั้งใจ ทั้งที่เธอไม่ใช่น้องแท้ๆของผมสักหน่อย แถมเธอยังจุ้นจ้านไปหมด เอาตรงๆเลยคือเธอแม่งโคตรน่ารำคาญ “ก็น้องเป็นน้องเรานี่ลูก ดูแลแค่นี้ไม่เห็นจะลำบาก อีกอย่างน้องก็น่ารักมากนะ เราต้องเอ็นดูน้องให้มากๆเข้าใจไหมลูก” ผมหัวเราะในลำคอเบาๆอย่างไม่อยากเชื่อ คำว่าน่ารักไม่ได้เหมาะกับเธอเลยซักนิด “หึ! น่ารักกับผีน่ะสิครับแม่” “ตะซันเดย์ทำไมพูดแบบนั้นล่ะลูก น้องเป็นผู้หญิงนะ” ผมกลอกตาเล็กน้อยก่อนตอบเสียงเรียบ “ก็จริงนี่ครับแม่ ยัยนั่นวุ่นวายกับผมไปซะทุกเรื่อง ผมอุตส่าห์ย้ายมาอยู่คอนโดเพื่อจะได้สงบซะหน่อย แล้วดูสิครับเธอยังจะตามผมมาอีกหรอ เฮ้อออออ” พูดจบผมก็ถอนหายใจแรงๆ ความเบื่อหน่ายตีขึ้นมาเต็มอก ไม่รู้เหมือนกันว่าชีวิตผมต้องมีชื่อพะพิ้งโผล่มากี่รอบถึงจะพ้นสักที “เอาน่าน้องก็น่ารักขนาดนั้นแหละ มีแต่ลูกนั่นแหละที่อคติกับน้องเกินไป” ".........." ผมเงียบไม่พูดอะไรต่อ เพียงแค่ถอนหายใจแรงๆให้แม่ได้ยินเท่านั้น ส่วนแม่ผมน่ะหรอหึ! ขำสิครับ แม่ของผมขำว่าผมอคติกับยัยนั่นเกินไป หึ! แม่ไม่รู้หรอกว่ายัยนั่นเธอวุ่นวายขนาดไหน แค่คิดว่าต้องมาอยู่ห้องข้างๆกัน ผมก็รู้เลยว่าความสงบในชีวิตผมคงจบลงตั้งแต่วินาทีนั้นแน่ๆ
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม