ตอนที่5 คนไม่สำคัญ

1478 คำ
ณิชาวีร์ออกมาจากบ้านตั้งแต่บ่ายโมงแล้ว กลุ่มเพื่อนที่สนิทสนมชวนพูดคุยและทำให้หัวเราะได้ดีอยู่ไม่น้อย หลังจากที่เครียดมานานหลายวัน ตั้งแต่วันนั้นที่พูดคุยกับสามีครั้งสุดท้าย ทั้งเธอและเขาก็บึ้งตึงใส่กันจนทำให้บ้านที่เคยอบอุ่นรู้สึกอึดอัดไม่น่าอยู่เลยแม้แต่นิด การได้ออกมาเปิดหูเปิดตาเช่นนี้ทำให้ณิชาวีร์รู้สึกผ่อนคลายขึ้นมาอยู่มาก “เป็นอะไรน่ะยัยณิ?” อรวรรณเพื่อนสาวคนสนิท ขยับมานั่งลงข้างกายณิชาวีร์ หญิงสาวหน้าตาดี กลายเป็นคุณแม่ลูกหนึ่งแล้ว ส่วนเรื่องสามีนางบอกไม่ต้องนับให้เสียเวลา บางทีการใช้ชีวิตแบบนั้นก็คงจะมีความสุขไปอีกแบบสินะ “เปล่า ไม่ได้เป็นอะไร” “แต่สีหน้ามันบ่งบอกว่าเธอกำลังทุกข์ใจอยู่ มีเรื่องอะไร เล่ามาเดี๋ยวนี้เลยนะ” “ไม่มีจริง ๆ ฉันแค่รู้สึกเหนื่อย ๆ” “เหนื่อยกาย เหนื่อยใจ เหนื่อยยังไง หรือว่าเธอกำลังจะมีข่าวดี?” สีหน้าที่แลดูตื่นเต้นแทนเพื่อนสาว ณิชาวีร์ต้องส่ายหน้าปฏิเสธอย่างไม่ให้เกิดความเข้าใจผิด ข่าวดีอย่างนั้นน่ะเหรอ ถ้าจะหมายถึงเรื่องตั้งครรภ์คงเป็นไปได้ยาก เพราะครั้งล่าสุดที่มีอะไรกับสามีก็แทบจะจำวันเดือนไม่ได้แล้ว สามเดือนมานี้ยังไม่ได้นอนกอดกันเลยสักครั้ง แม้จะนอนร่วมเตียงเดียวกันแต่จิรภัทรก็จะนอนหันหลังให้ตลอด พอเธอจะกอดเขาหน่อยก็ถูกผลักไสให้ออกห่างจากกาย จนบางทีแอบอดคิดไม่ได้ว่าเขาไปอิ่มมาจากข้างนอกแล้วหรือเปล่านะ “หรือแกมีปัญหากับคุณภัทร?” “ก็ไม่เชิงหรอก อย่ามาอยากรู้เรื่องของฉันเลย ว่าแต่อรเถอะออกมาเที่ยวทุกคืนเลยเหรอ แล้วลูกล่ะใครเลี้ยงให้?” “แม่ฉันน่ะสิ เลี้ยงลูกมันเครียดมากนะณิ ปกติฉันไม่ได้ออกมาบ่อยนักหรอก แต่คืนนี้เพราะเธอชวน ฉันเลยขอแม่ขอผัวมาวันนึง” “เออนี่อร ถามอะไรหน่อยสิ” “ว่ามาเลยเพื่อน” “ถ้าสามีเธอขอไปมีคนอื่น เธอจะทำยังไง?” “อะไรนะ! ทำไมถึงถามแบบนี้หรือว่าคุณภัทรมีเมียน้อย?” เสียงถอนหายใจจากเพื่อนสาว สีหน้าของณิชาวีร์ก็ดูเศร้าอีกครั้งจนปกปิดไม่มิด อรวรรณถึงกับจ้องมองหน้าเพื่อน พอจะเดาสถานการณ์ที่เพื่อนรักทำหน้าเศร้าอยู่บ่อยครั้งคงเป็นเพราะเรื่องนี้สินะ “เสียทองเท่าหัวฉันจะไม่ยอมเสียผัวให้ใคร เรามีทะเบียนสมรสนะณิ ใครมายุ่งกับผัวเราฟ้องมันให้หมดตัวไปเลย!” “แต่ถ้าสามีไม่รักเราแล้วล่ะ เธอยังจะอยากนอนกอดทะเบียนต่อไปอีกไหม?” “เพราะถ้ายังรักผู้ชายคนนั้นมากอยู่ ฉันก็จะยอม ไม่ใช่เพราะเสียดายวันเวลาที่ผ่านมานะ แต่เพราะยังรักไงมันคงตัดใจกันไม่ได้ง่าย ๆ หรอก เธอว่าจริงไหมล่ะณิ?” ณิชาวีร์เห็นด้วยเป็นอย่างมาก ไม่ง่ายเลยที่จะตัดใจจากคนที่เรารัก ไม่ว่าเขาจะร้ายกาจมากเพียงใด เธอก็อยากเป็นคนโง่ที่พร้อมทนกับความเจ็บปวด คำว่า “ไม่ได้รักเธอแล้ว” ยังคงดังก้องอยู่ในหู แต่ทำไมสำหรับเธอยังคงรักเขามากอยู่เช่นเดิม หรือต้องเจ็บให้ถึงที่สุดแล้วหยุดที่คำว่าจากลาดี...   ความตึงเครียดในชีวิตแต่งงานก็ยังคงเป็นอยู่แบบนั้นเช่นทุกวัน จิรภัทรแทบจะไม่ถามไถ่คนเป็นภรรยาเลยแม้แต่นิด เช้ามาก็รีบออกจากบ้าน ค่ำมืดดึกดื่นเขาถึงจะกลับเข้าบ้านมาอีกครั้ง ชีวิตเป็นแบบนี้มานานร่วมเดือนแล้ว ณิชาวีร์ทนไม่ไหวในเมื่อเขาไม่งอนง้อ เธอควรจะเป็นฝ่ายที่เริ่มพูดคุยกับเขาก่อน เพราะที่ผ่านมาเธอก็เงียบไม่ยอมปริปากแม้แต่จะทักทายสามีเลยเช่นกัน ลดอีโก้ลงสักนิด ตัดทิฐิลงอีกหน่อย วันนี้จึงถือโอกาสเข้าครัวเพื่อทำอาหารเที่ยงและเดินทางไปส่งปิ่นโตให้สามีถึงที่ออฟฟิศด้วยตัวเอง เหล่าพนักงานทักทายภรรยาเจ้าของบริษัทเมื่อพบเจอหน้า ณิชาวีร์ยิ้มรับอย่างน่ารักเช่นทุกครั้งที่เคยมาที่นี่ “สวัสดีค่ะคุณณิ” คุณป้าเลขาหน้าห้องของจิรภัทรทักทายด้วยรอยยิ้ม หญิงสาวรีบยกมือพนมขึ้นไหว้ทำความเคารพคนสูงวัยอย่างนอบน้อมชวนให้นึกเอ็นดูนัก “สวัสดีค่ะป้าสุรีย์ สบายดีนะคะ” “ไม่เห็นคุณณิมาที่นี่นานมากแล้ว หายไปไหนมาคะเนี่ย” “ไม่ได้หายไปไหนค่ะ แค่ไม่อยากเข้ามารบกวนเวลาทำงานของพี่ภัทร แล้วนี่พี่ภัทรอยู่ไหมคะ ณิเอาอาหารกลางวันมาส่ง” “อยู่อีกอาคารหนึ่งค่ะ ท่านประธานไปดูเขาถ่ายแบบกันอยู่ พอดีได้นางแบบโปรโมทโครงการคนใหม่มา สงสัยคงไปตรวจดูความเรียบร้อย คุณณิเข้าไปรอในห้องก่อนก็ได้ค่ะ” “ณิว่าณิเดินไปหาพี่ภัทรที่นั่นดีกว่าค่ะป้า เขาถ่ายอยู่ตึกไหนกันเหรอคะ?” “งั้นเดี๋ยวป้าพาคุณณิเดินไปดีกว่านะคะ” ณิชาวีร์เดินตามคุณป้าเลขาของสามีไปติด ๆ จิรภัทรเป็นเจ้าพ่ออสังหาฯ เขาทำโครงการคอนโดมิเนียมหรูหลายแห่ง แถมมีบริการเรือยอร์ชหรูเพื่อท่องเที่ยว จึงไม่แปลกที่จะต้องใช้นางแบบเพื่อโปรโมทธุรกิจเป็นเรื่องปกติ เพียงไม่ถึงห้านาทีสตูดิโอที่ถ่ายทำประตูบานใหญ่ก็ถูกผลักเข้าไป พร้อมกับภาพตรงหน้าที่สามีกำลังเอาอกเอาใจนางแบบคนสวยอยู่ คอยป้อนน้ำให้ รอยยิ้มที่สามีจับจ้องมองหญิงสาวอีกคน ช่างแตกต่างกับเวลาที่มองเธอยิ่งนัก ทุกคนในสตูดิโอต่างรู้จักณิชาวีร์กันทั้งนั้น ทั้งไหว้ทำความเคารพและทักทายหญิงสาวอย่างเป็นกันเอง “โอ้โหไม่เจอคุณณิตั้งนาน สวยมากเลยค่ะ ไปทำอะไรมาคะเนี่ย” อรุณรุ่งเป็นพนักงานฝ่ายการตลาดที่ต้องมาดูเขาถ่ายทำเอ่ยทักขึ้นเสียงดัง จนทำให้จิรภัทรต้องรีบหันหน้ากลับมามอง สีหน้าที่ดูยิ้มแย้มมีความสุขเมื่อครู่แปรเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง “ภรรยาคุณมาค่ะ ไม่ต้องดูแลนิชาใกล้ชิดขนาดนี้ก็ได้นะ” “ขอตัวสักครู่นะครับ เดี๋ยวผมมา” ชายหนุ่มส่งยิ้มให้อีกครั้ง พร้อมกับเดินเข้าไปหาภรรยา ไม่รู้ว่าวันนี้ลมอะไรหอบเธอมาจนถึงที่นี่ได้ “มาทำไมน่ะ” แทนที่จะเป็นคำทักทายที่หวานหู ณิชาวีร์ยังคงยิ้มส่งให้สามี เพื่อไม่ให้คนอื่น ๆ ต้องสงสัยจนเก็บเอาไปพูดนินทาลับหลังได้ “ณิเอาปิ่นโตมาส่งค่ะ ณิทำอาหารที่พี่ภัทรชอบมาให้ด้วยนะคะวันนี้” ตรงนั้นมีแค่สองสามีภรรยาที่ยืนอยู่ จิรภัทรจึงไม่ต้องพูดอะไรที่หวานหูกับคนตรงหน้า “พี่ไม่ได้สั่ง จะเอามาให้ทำไม” สีหน้าที่พูดคุยกับเธอช่างแตกต่างจากคุยกับหญิงสาวคนนั้นมากมายเหลือเกินนัก ณิชาวีร์ยังทำใจดีสู้เสืออยู่แบบนั้น ใบหน้าสวยหวานยังคงยิ้มกว้าง ดวงตากลมโตจับจ้องมองหน้าของสามี แม้จะมีรอยยิ้มให้ได้เห็นแต่เธอก็ยังคงดูเศร้าจนปกปิดเอาไว้ไม่มิด “ทำไมคะหรือพี่ภัทรกลัวว่าณิจะมาเห็นอะไรที่พี่ไม่อยากให้เห็น” “พี่ทำงานอยู่ ไม่ว่างจะมาทะเลาะกับณิหรอกนะ เอาข้าวมาส่งก็วางไว้บนโต๊ะสิ แล้วก็กลับไปได้เลย” “แทนที่จะชวนณิอยู่ทานข้าวเที่ยงด้วย แต่พี่ภัทรกลับไล่ณิกลับบ้านเลยเหรอคะ?” “นี่ณิชาวีร์อย่ามาทำตัวเป็นเด็กไม่รู้จักแยกแยะหน่อยเลยหน่า ก็เห็นอยู่ว่าพี่กำลังทำงานไม่รู้จะเสร็จตอนไหน เอาไว้มีอะไรค่อยไปคุยกันต่อที่บ้านก็แล้วกันนะ” จิรภัทรเดินกลับไปหาทีมงาน ร่างสูงในชุดสูทสุดเท่ห์ยืนกอดอกจ้องมองนางแบบคนสวยโพสต์ท่าให้ตากล้องอย่างกับมืออาชีพ ณิชาวีร์ได้แต่จ้องมองหน้าของสามี จิรภัทรยืนอมยิ้มมองนางแบบสาวคนนั้นอย่างไม่วางสายตา ดวงตากลมโตคู่สวยจับจ้องมองไปที่หญิงสาวที่กำลังอยู่หน้ากล้องอีกครั้ง จะว่าไปหน้าตาเธอคนนั้นก็ดูคุ้นอยู่มาก เหมือนกับว่าเธอเคยเห็นที่ไหนมาก่อน
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม