ตอนที่ 8
หนึ่งเดือนที่ไร้เงา
หนึ่งเดือนผ่านไป...
ชนัญชิดาใช้ชีวิตอยู่ในคอนโดหรูแห่งนี้อย่างเงียบเชียบ เธอไปมหาวิทยาลัยตามปกติ เลิกเรียนก็กลับคอนโด ไม่ได้ออกไปเที่ยวเตร่ที่ไหนและไม่ได้ติดต่อกับเมฆินทร์เลยนับตั้งแต่เจอกันวันแรก
เมฆินทร์เองก็ไม่เคยมาที่คอนโดแห่งนี้เลยแม้แต่ครั้งเดียว มีเพียงเลขาฯ ของเขาที่โทรมาสอบถามว่าเธอต้องการอะไรเพิ่มเติมไหม
ในตอนแรกหญิงสาวรู้สึกสับสนกับท่าทีของเมฆินทร์ เธอคิดว่าเขาคงต้องการให้เธอมาปรนนิบัติในฐานะนางบำเรอหรืออย่างน้อยก็คงจะมาหาเธอที่คอนโดบ้าง แต่เขากลับนิ่งเฉยราวกับว่าเธอไม่มีตัวตนอยู่จริง บางทีเขาอาจจะแค่ต้องการช่วยบิดาของเธอจริงๆ โดยไม่ได้หวังอะไรตอบแทนจากเธอมากไปกว่าการให้เธออยู่ที่นี่ เพื่อให้แน่ใจว่าเธอไม่ได้ไปสร้างปัญหาหรือหนีหายไปไหน
เมื่อคิดได้แบบนี้ชนัญชิดาก็รู้สึกสบายใจขึ้นเล็กน้อย หญิงสาวสามารถใช้ชีวิตนักศึกษาได้ตามปกติ แม้ในใจจะยังคงมีปมเรื่องนี้คอยทิ่มแทงอยู่ตลอดเวลา เธอไม่เคยบอกเรื่องที่เกิดขึ้นกับเพื่อนสนิทอย่างไอลดาและมารีน่า เธอพยายามทำตัวให้ร่าเริงเหมือนเดิม แต่ในบางครั้ง ดวงตาที่ซ่อนความเศร้าไว้ก็ไม่อาจหลบพ้นสายตาของเพื่อนๆ ไปได้
“มะปรางแกเป็นอะไรหรือเปล่าพักนี้ไม่ร่าเริงเลย” ไอลดาถามขึ้นในวันหนึ่ง ขณะที่พวกเธอกำลังนั่งกินข้าวกลางวันที่โรงอาหารของมหาวิทยาลัย
“ดูแกเหม่อๆ นะ ไม่ค่อยร่าเริงเหมือนเมื่อก่อน” มารีน่าพูดเสริม
“เปล่าหรอกแก ช่วงนี้สอบเยอะก็เลยเครียดๆ น่ะ” ชนัญชิดาฝืนยิ้ม
“เครียดมากก็ไปหาอะไรคลายเครียดบ้างสิ วันศุกร์นี้ไปเที่ยวผับกันไหม สอบเสร็จพอดีด้วย” มารีน่าเสนอเพราะนานแล้วที่พวกเธอไม่ได้ไปเที่ยวด้วยกัน
ชนัญชิดานิ่งไปเพราะกลัวว่าเมฆินทร์มาหาแล้วจะไม่เจอ แต่พอคิดว่าเขาไม่ได้สนใจเธอและคงไม่มาหา ส่วนตัวเธอเองก็รู้สึกอึดอัดกับชีวิตที่ต้องเก็บตัวอยู่แต่ในคอนโด การออกไปคลายเครียดบ้างก็น่าจะดี
“ไปก็ได้แล้วลดาล่ะ ไปด้วยกันไหม" ชนัญชิดาหันมาถามไอลกา
“อือ จะพลาดได้ยังไงล่ะ”
พวกเธอเริ่มวางแผนว่าจะแต่งตัวแบบไหนดี จะไปกันอย่างไร ชวนใครไปบ้าง ครั้งนี้คณาธิปหรือไผ่เพื่อนร่วมคณะผู้ชายที่แอบชอบชนัญชิดาอยู่เงียบๆ และสิงขรหรือพี่กล้ารุ่นพี่ปีสี่ที่สนิทสนมกับกลุ่มของพวกเธอ
วันศุกร์มาถึงอย่างรวดเร็วชนัญชิดาเลิกเรียนแล้วกลับไปแต่งตัวที่คอนโด เธอเลือกชุดเดรสสีเข้มที่ไม่โป๊จนเกินไป แต่ก็ดูสวยงามและเข้ากับบรรยากาศของผับ
หญิงสาวมองตัวเองในกระจก เธอเห็นผู้หญิงที่ดูดีคนหนึ่ง แต่ภายในจิตใจกลับรู้สึกว่างเปล่า เธอพยายามจะทำใจให้สนุกและลืมเรื่องแย่ๆ ที่เกิดขึ้นและคิดว่าคืนนี้จะไปสนุกให้เต็มที่
"สวยมากเลยยัยมะปราง” ไอลดาและมารีน่าชมเมื่อเห็นเพื่อนเดินออกมาจากคอนโดขณะที่พวกเธอทั้งสองคนมารอที่ล็อบบี้
“ไปกันเลยไหม” มารีน่าถามอย่างตื่นเต้น
พวกเธอเรียกแท็กซี่ไปยังผับชื่อดังแห่งหนึ่ง เมื่อไปถึงก็พบว่าที่คณาธิปและสิงขรมารออยู่แล้ว บรรยากาศภายในผับเต็มไปด้วยเสียงเพลงสนุกสนานท่ามกลางแสงไฟระยิบระยับหลากสี
“ไม่เคยมาผับเลยเหรอมะปราง” ไผ่ถามขณะส่งเครื่องดื่มสีสวยให้เธอ
“เคยนะ แต่ไม่ได้มานานแล้ว”
“ถ้าครั้งหน้าอยากมาสนุกกันอีกก็บอกพี่นะ พี่รู้จักที่เที่ยวเยอะเลย” สิงขรพูดพร้อมรอยยิ้มอย่างเป็นมิตร
ชนัญชิดาพยายามปรับตัวให้เข้ากับบรรยากาศ เธอจิบเครื่องดื่มที่รู้สึกถึงความขมปร่าที่ปลายลิ้นแต่ก็ให้ความรู้สึกสดชื่น หญิงสาวพยายามลืมเรื่องไม่สบายใจและปล่อยใจไปกับเสียงเพลง ผู้คนและแสงสีตรงหน้า
ในขณะที่ชนัญชิดากำลังสนุกอยู่กับเพื่อนๆ เธอไม่รู้ตัวว่าชะตากรรมกำลังเล่นตลกกับเธอ เมื่อในอีกมุมหนึ่งของผับเดียวกันเมฆินทร์กำลังนั่งคุยธุรกิจกับคู่ค้าชาวต่างชาติ เขาไม่ได้ตั้งใจจะมาเที่ยวแต่เป็นการนัดหมาย เพื่อสานสัมพันธ์ทางธุรกิจ
เมฆินทร์ในชุดเสื้อเชิ้ตแขนยาวพับแขนขึ้นถึงข้อศอกดูสบายๆ แต่ยังคงความมีเสน่ห์ เขาจิบเครื่องดื่มในมือพลางฟังคู่ค้าพูดถึงโปรเจกต์ใหม่ๆ ดวงตาคมกริบของเขากวาดมองไปรอบๆ ผับอย่างไม่ตั้งใจและในวินาทีนั้นเอง สายตาของเขาก็หยุดลงที่ผู้หญิงคนหนึ่งที่คุ้นตาที่กำลังหัวเราะและเต้นรำอยู่กับกลุ่มผู้ชายซึ่งเป็นเพื่อนของสิงขรที่เข้ามาเพิ่ม
“มะปราง” เมฆินทร์ขมวดคิ้วแน่น เขารู้สึกหงุดหงิดที่เห็นผู้หญิงคนนี้ถึงมาอยู่ที่นี่มิหนำซ้ำเธอยังอยู่กับผู้ชายคนอื่น
ในเมื่อเขาจัดหาที่อยู่ให้เธออย่างดี ให้เงินเธอใช้และไม่เคยเข้าไปยุ่งเกี่ยวด้วยเลย เธอกลับมาทำตัวเหลวไหลแบบนี้ ที่ผ่านมาเขาคิดว่าชนัญชิดาเป็นผู้หญิงเรียบร้อยและคงเรียบร้อย แต่สิ่งที่เขาเห็นมันไม่ใช่เลยสักนิด
ความรู้สึกหงุดหงิดค่อยๆ เปลี่ยนเป็นความไม่พอใจและบางอย่างที่คล้ายกับความหึงหวงที่ก่อตัวขึ้นอย่างเงียบๆ ในใจของเมฆินทร์ผู้หญิงคนนี้คือ ผู้หญิงของเขา แม้เขาจะไม่ได้ไปหาเธอเลย แต่ในความคิดของเขาแล้วชนัญชิดาก็ไม่ควรมีท่าทีสนิทสนมกับผู้ชายคนอื่นและออกมาเที่ยวในสถานที่แบบนี้
เมฆินทร์ฝืนนั่งคุยกับลูกค้าอยู่นานกว่าคู่ค้าจะขอตัวกลับ
“ฉันฝากนายไปส่งคุณจางที่รถนะชัย” เขาบอกกับวีรชัยผู้ช่วยก่อนจะบอกลาคุณจางคู่ค้าจากประเทศจีนและบอกว่าตนเองมีธุระต้องไปจัดการต่อ
เมื่อคุณจางและผู้ช่วยออกไปจากที่นี่แล้วเมฆินทร์ก็เดินตรงไปยังกลุ่มของชนัญชิดาด้วยใบหน้าเรียบเฉยแต่แฝงด้วยความไม่พอใจที่ยากจะปกปิด
“มะปราง” เสียงทุ้มต่ำของเมฆินทร์ดังขึ้นข้างหลังชนัญชิดา ทำให้เธอกับเพื่อนๆ ชะงัก
ชนัญชิดาหันกลับไปมองและเบิกตากว้างเมื่อเห็นเมฆินทร์ยืนอยู่ตรงหน้าเธอ ใบหน้าของเขาดูเย็นชาและแววตาเต็มไปด้วยความไม่พอใจ
“คุณเมฆินทร์” ชนัญชิดาพูดตะกุกตะกัก ความสนุกเมื่อครู่หายไปในพริบตา
“เธอมาทำอะไรที่นี่” เมฆินทร์ถามเสียงเข้ม ดวงตาของเขากวาดมองเพื่อนๆ ของเธอ โดยเฉพาะคณาธิปและสิงขร
“หนูมาเที่ยวกับเพื่อนค่ะ”
“ออกไปคุยกันข้างนอกหรือจะให้ฉันคุยที่นี่”
“ข้างนอกก็ได้ค่ะ พวกแกฉันไปก่อนนะ” เธอพูดกับเมฆินทร์แล้วหันมาบอกเพื่อน
“คุณเมฆินทร์มาเที่ยวเหรอคะ”
“ฉันมาคุยงานแล้วเธอล่ะ”
“หนูก็มาเที่ยวกับเพื่อน”
“ผู้ชายพวกนั้นเพื่อนเธอเหรอ” เขาเน้นคำว่าผู้ชายพวกนี้อย่างจงใจ
“หนูมากับเพื่อนผู้หญิงแต่ผู้ชายหนูมาเจอพวกเขาที่นี่”
“แต่เหมือนจะสนิทกันนะ” เพราะเขานั่งมองอยู่นานจึงเห็นว่าเธอก็คุยกับผู้ชายพวกนั้น
“ก็เขาเป็นเพื่อนและเป็นรุ่นพี่ที่มหาลัยนี่ค่ะ”
“ฉันนึกว่าเธอจะเป็นเด็กดีตั้งใจเรียน ไม่คิดว่าจะมาเจอที่นี่”
“คุณเมฆินทร์คะ คุณไม่เคยมาหาหนูเลย แล้วจะให้หนูทำอะไรคะ นั่งอยู่แต่ในห้องเหรอคะ” ชนัญชิดารู้สึกน้อยใจและโกรธที่ถูกเขาตำหนิทั้งที่เขาก็ไม่เคยสนใจเธอเลย
“ดูเหมือนเธอจะขาดผู้ชายไม่ได้สินะ” เมฆินทร์หัวเราะ
คำพูดที่เย้ยหยันและเสียดแทงจิตใจของเขาทำให้ชนัญชิดาโกรธจัดจนตัวสั่นระริก เธออยากจะสวนกลับไป แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ เพราะเขาคือผู้มีอำนาจเหนือเธอในทุกๆ ทาง เขาคือเจ้าหนี้และเธอคือลูกหนี้ที่ไร้ทางสู้
“ก็คงงั้น” เธอมองเมฆินทร์ด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความคับแค้นใจ หญิงสาวกัดริมฝีปากแน่นพยายามระงับอารมณ์ไม่ให้ระเบิดออกมา
“เธอกำลังประชดฉัน”
“หนูจะทำอย่างนั้นไปทำ คุณมีอะไรจะคุยกับหนูอีกไปมั้ยคะ ถ้าไม่มีหนูขอตัวเข้าไปสนุกกับเพื่อนต่อ”
“แต่ฉันว่าเธอควรกลับได้แล้ว”
“กลับไปก็ต้องเหงาอยู่คนเดียว หนูไม่กลับดีกว่าค่ะ”
“ใครว่าจะให้เธออยู่คนเดียวล่ะ คืนนี้ฉันจะกลับคอนโดด้วยเธอจะได้ไม่บ่นว่าฉันไม่ไปหา”