“อ้าวคุณเมย์ เป็นอะไรครับเนี่ย?” เมื่อกำลังจะเดินผ่านวิลเลี่ยมชายหนุ่มผู้ที่นั่งแท่นทำงานแทนท่านประธานใหญ่มาตลอดหลายสิบปี เมรินดาถึงได้ปรับเปลี่ยนสีหน้าให้เป็นปกติ
“สวัสดีค่ะคุณวิล ไปไหนมาเหรอคะ?”
“อ๋อ ไปซื้อกาแฟมาให้เจ้านายครับ นี่คุณเมย์หาผมเหรอ?”
“เปล่าค่ะ ฉันมาหาเจ้านายคุณ พอดีเขาเรียกให้มาพบ” วิลเลี่ยมถึงกับขมวดคิ้วมุ่นเมื่อได้ยินเช่นนั้น
“คุณอเล็กซานเดอร์เหรอครับเรียกพบคุณ เจ้านายเขามีธุระอะไรกับคุณเมย์กันนะ”
“เขาเรียกฉันมาถามเรื่องงานเฉยๆค่ะ ไม่มีอะไรหรอกเชิญคุณวิลเอากาแฟไปให้เขาเถอะนะ เหมือนเขากำลังจะโมโห”
“ครับ” วิลเลี่ยมจึงเดินตรงไปยังห้องของผู้เป็นนายในทันที
“กาแฟได้แล้วครับเจ้านายทำไมต้องใช้ให้ไปซื้อซะไกลเลยก็ไม่รู้”
“ใช้แค่นี้ทำไมบ่นเก่ง?” เขาหยิบกาแฟยี่ห้อดังมาดื่มก่อนจะหันไปมองลูกน้องคนสนิท ที่กำลังจ้องมองหน้าเขาอยู่
“มีอะไรกับฉันไม่ทราบ?”
“เมื่อกี๊ผมเดินผ่านกับผู้จัดการฝ่ายการตลาด เจ้านายเรียกเธอมาพบทำไมครับ?”
“ก็มาถามเรื่องงาน เพราะฉันตรวจสอบเอกสารบางอย่างแล้วไม่เข้าใจ ฉันเลยให้เขามาอธิบายให้ฟัง”
“ไม่เห็นต้องรบกวนคุณเมย์เลยให้ผมอธิบายให้ฟังก็ได้นี่นา”
“นายสนิทกับเธอคนนั้นเหรอวิลเลี่ยม?”
“ก็รู้จักนะครับผมกับเขาทำงานด้วยกันมาหลายปีแล้ว เจ้านายถามทำไมหรือว่าสนใจคุณเมย์?”
เขาวางแก้วกาแฟลงบนโต๊ะก่อนจะพิงหลังบนพนักเก้าอี้อีกครั้ง
“นายรู้จักบ้านเมรินดาไหม?”
“นี่เจ้านายจะบุกไปหาเขาถึงบ้านเลยเหรอครับ?” วิลเลี่ยมถึงกับมองอย่างไม่อยากจะเชื่อ อะไรเข้าสิงเจ้านายอีกนะนี่
“ก็ถ้าฉันสนใจเธอ นายจะช่วยฉันไหม?”
“ช่วยยังไงครับ ช่วยไปฉุดผมไม่ทำหรอกนะ”
“ไอ้วิลเลี่ยม! คนอย่างฉันนี่นะต้องไปฉุดผู้หญิงให้เปลืองแรง หล่อเพอร์เฟกต์ขนาดนี้เอาอะไรมาคิดนะ”
“นั่นไงเจ้านายก็คิดเข้าข้างตัวเองตลอด ไม่น่าล่ะเมียถึงได้ทิ้ง หาใหม่ก็ไม่ได้อีก”
อเล็กซานเดอร์ถึงกับมองหน้าอย่างเอาเรื่อง
“ผมขอโทษครับเจ้านาย เอาเป็นว่าที่อยู่คุณเมย์ ผมจะไปถามแผนกบุคคลให้ตอนนี้ เดี๋ยวนี้เลยนะครับ”
“อืมขอบใจนะ ว่าแต่นายเถอะอยากกลับไปประจำที่มอลต้าไหม?”
“แล้วใครจะทำงานที่นี่ล่ะครับ?”
“ฉันนี่ไงเปลี่ยนที่ทำงานกันสักพัก ฉันเบื่อที่โน่นเต็มทีแล้ว”
วิลเลี่ยมถึงกับมองอย่างไม่อยากเชื่อ เขาเคยชวนเจ้านายมาประจำที่นี่ตั้งหลายปีแล้วแต่ไม่เคยเลยที่จะตกลง
“เอาจริงดิครับนี่อย่าบอกนะว่าเจ้านายจะมาตามตื๊อคุณเมย์?”
“คนอย่างฉันทำไมต้องตามตื้อ ฉันอยากได้ใครฉันก็แค่กระดิกนิ้วเรียก ฉันไม่เคยตามใครให้เหนื่อยนายก็รู้ดีนี่หว่าวิลเลี่ยม”
วิลเลี่ยมถึงกับเบ้ปากนิดๆมันใช่เจ้านายคนเดิมหรือเปล่าเนี่ย
“เอาเป็นว่า ถ้าเจ้านายจะอยู่ที่นี่สักพักผมก็ไม่มีปัญหาครับ แต่ผมขออยู่ด้วยคนนะครับเผื่อเจ้านายอยากได้เพื่อนคู่คิด เพราะยังไงผมก็เติบโตมาพร้อมกับบริษัทนี้”
อเล็กซานเดอร์ถึงกับพยักหน้าให้ จริงๆเขาไม่ได้แพลนจะมาอยู่ตั้งแต่แรกอยู่แล้วแค่เปลี่ยนแผนในชีวิตชั่วคราวก็เท่านั้น ก่อนยกยิ้มอย่างคนมีแผนการ
สองสามวันผ่านไปเมรินดาก็คงยังมาทำงานตามปกติ เขาคนนั้นก็ไม่ได้วุ่นวายกับเธออีก เพราะเธอกับเขาก็ทำงานคนละพื้นที่กัน ถ้าไม่โดนเรียกไปหาเธอกับเขาก็ไม่มีทางเจอกันได้
“พี่เมย์ ไปทานข้าวกันไหมครับจะเที่ยงแล้ว” ภูมินทร์ถามขึ้นเมื่อเอางานที่เพิ่งจะทำเสร็จมาให้กับเธอได้ตรวจทานดู
“ไปสิ ชวนพี่นารีกับพี่สิตาไปด้วยกันนะ วันนี้พี่อยากกินอาหารอีสาน” เธอยิ้มให้รุ่นน้องอย่างน่ารัก
“เดี๋ยวผมออกไปบอกสองคนนั้นก่อนนะครับพี่เมย์”
“จ้ะ เดี๋ยวพี่เก็บของเสร็จแล้วจะตามออกไป”
เมื่อภูมินทร์หายออกไปจากห้อง เมรินดาก็หันไปเก็บงานบนโต๊ะก่อนจะหยิบเอากระเป๋าสตางค์และโทรศัพท์มือถือเดินออกไปติดๆ
บุคคลทั้งสี่กำลังเดินหัวเราะต่อกระซิกออกไปจากบริษัทอย่างสนุกสนานจนไม่ทันมองว่าใครกำลังเดินเข้ามา....
นี่กำลังจะไปไหนกัน?” เสียงของบุคคลที่ทุกคนต่างเกรงกลัวก็ถามขึ้น พนักงานทั้งสามต่างพากันยกมือไหว้เขาอย่างไว เมรินดาถึงกับชะงักเมื่อหันไปมองแล้วเห็นว่าเสียงนั้นเป็นของใครก่อนจะส่งยิ้มให้ชายหนุ่มอีกคนที่ยืนอยู่ข้างๆเขาแทน
“สวัสดีค่ะคุณวิล ไปไหนมาคะ?” เธอเลือกจะคุยกับวิลเลี่ยมแทนทำให้อีกคนที่อยู่ข้างๆถึงกับกอดอกยืนมอง
“ผมพาเจ้านายไปพบลูกค้ามาครับ นี่จะไปไหนกันเหรอ?”
“ไปทานข้าวเที่ยงค่ะ” เมรินดาเป็นคนตอบขึ้นทันที
“เหรอครับ เชิญพวกคุณเมย์ตามสบายเถอะนะ”
“ขอตัวก่อนนะคะ” ทุกคนต่างยกมือขึ้นลาผู้เป็นเจ้าของบริษัทก่อนจะรีบเดินหนีไปแต่อีกคนกลับเรียกไว้
“เดี๋ยวก่อน” ทุกคนหันกลับมาพร้อมกันอย่างไว
“มีอะไรเหรอครับท่านประธาน?” เป็นภูมินทร์ที่ถามขึ้น
“ผมจะไปทานข้าวกับพวกคุณด้วย” ทุกคนถึงกับหันไปมองหน้ากันอย่างจัง
“เจ้านายครับเราทานกันมาแล้วนะ นี่หิวอีกแล้วเหรอ?” วิลเลี่ยมถึงกับกระซิบถามเบาๆ
“นายก็ไปด้วยวิลเลี่ยม นี่คือคำสั่ง”
“แต่ผมอิ่มแล้วนะครับต้องรีบไปส่งอีเมล์ให้ลูกค้าด่วนด้วย”
“แค่ส่งอีเมล์ทำที่ไหนก็ได้ไหม?” เขาจ้องมองอย่างเอาเรื่อง
“ครับไปก็ได้”
“แต่พวกเราจะไปทานอาหารอีสานกันนะคะ ท่านประธานจะทานได้เหรอ”
สิตารีบถามขึ้นเพราะไม่อยากให้เขาเสียเวลาเปล่า และพวกเธอเองจะได้ไม่ต้องเกร็งเวลาจกข้าวเหนียว
“ไปเถอะ เดินนำผมไปสิ”
เขาหันไปมองเมรินดาที่กำลังทำสีหน้าเซ็งกะตายอย่างพออกพอใจก่อนจะยิ้มออกมาน้อยๆ เขาเดินตามหลังไปพร้อมกับวิลเลี่ยมเงียบๆจนกระทั่งถึงร้านที่เหล่าพนักงานต้องการ จัดแจงหาที่นั่งและเขาก็เลือกนั่งข้างๆเมรินดาอย่างไว