สามวันต่อมาเมื่อครบกำหนดลาพักร้อน เมรินดาก็กลับมาทำงานตามปกติ เวลาที่เธอมาทำงานลูกสาวตัวน้อยต้องไปอยู่กับคุณยายแทน ซึ่งคนเป็นยายก็สุดแสนจะแฮปปี้ดีใจทุกครั้งที่จะได้เลี้ยงหลานเอง
“พี่เมย์กลับมาทำงานแล้วเหรอครับ” เสียงทักทายจากภูมินทร์เพื่อนรุ่นน้องทักมาแต่ไกล
“จ้ะ พี่ไม่ได้มาทำงานซะนานเลย งานไม่มีปัญหาอะไรใช่ไหม?”
“ไม่มีครับทุกอย่างเรียบร้อยดี ว่าแต่ไม่มีของมาฝากผมหรือไงเนี่ย”
ภูมินทร์มักจะหยอกล้อสนิทสนมแบบนี้กับเธอเสมอ เพราะทั้งสองรู้จักกันมาตั้งแต่สมัยเรียนมัธยม เขากับเธออายุห่างกันเพียงแค่สองปีเท่านั้น ก่อนที่เธอจะยกถุงกระดาษในมือยื่นให้
“ว้าว! มีมาฝากจริงๆด้วย ขอบคุณนะครับ” ภูมินทร์รับมาอย่างไวก่อนจะมองดูของในมือพร้อมกับยิ้มกว้าง
“อื้อหือของดีเมืองน่านซะด้วย พี่รู้ใจผมนะเนี่ย รู้ด้วยว่าผมชอบกินมาก ฮ่าฮ่าฮ่า” หญิงสาวถึงกับยิ้มส่ายหน้าให้กับความเว่อร์ของภูมินทร์ แค่ใส้อั่วสมุนไพรกับแคปหมูเนี่ยนะใครๆก็คงจะชอบกินทั้งนั้น
“พี่ขอตัวก่อนนะมาทำงานวันแรกคงมีอะไรให้พี่ทำอีกเยอะเลย”
“พี่เมย์เดี๋ยวครับ พี่รู้หรือเปล่าว่าเจ้านายจะเข้าบริษัทมาวันนี้”
“คุณวิลเลี่ยมนะเหรอ?”
“ไม่ใช่ครับ ผมได้ยินผู้บริหารเขาคุยกัน ว่าซีอีโอใหญ่เจ้าของบริษัทตัวจริงจะเข้ามา ร้อยวันพันปีเขาไม่เคยมาที่นี่เลยนะพี่ ผมนี่ตื่นเต้นเป็นบ้าเลยเขาจะใจดีหรือเปล่านะ” เมรินดาถึงกับขมวดคิ้วอย่างงงก่อนจะสลัดความคิดนั้นออกจากหัว
“ถ้าเขามาเราก็คงได้เจอ อย่าตื่นเต้นไปหน่อยเลย เราทำงานให้เขาดีขนาดนี้ไม่มีอะไรขาดตกบกพร่องซะหน่อย”
“ก็จริงนะพี่ แต่ใครๆก็ลือกันว่าตั้งแต่เปิดที่นี่มา เขาไม่เคยมาเหยียบที่นี่เลยสักครั้งมีแต่คุณวิลเลี่ยมจัดการทั้งหมดแต่อยู่ๆเขาก็จะเข้ามา หวังว่าคงเป็นเรื่องดีนะพี่เมย์”
“เขาก็คงพึ่งจะว่างและมีเวลานั่นแหละ ช่างเถอะภูนายไปทำงานเถอะ พี่ขอตัวนะ” เธอว่าจบก็เดินผลักประตูเข้าห้องทำงานหายลับเข้าไปในทันที
เป็นเวลาเกือบจะบ่ายโมงหลังจากที่เธอกลับมาจากทานอาหารกลางวัน เธอก็ใช้เวลาที่มีเกือบสิบนาทีวิดีโอคอลไปหาลูกสาว พูดคุยกันสักพักก่อนที่จะมีเสียงเคาะประตูห้องดังขึ้น
“แค่นี้ก่อนนะคะแม่เมย์ขอตัวทำงานก่อน ไว้เจอกันตอนเย็นค่ะ” เธอรีบวางสายลงในทันที ก่อนที่จะเห็นภูมินทร์เดินเข้ามา
“ว่าไงภู?”
“พี่เมย์ ซีอีโอเขามาถึงแล้วนะ”
“แล้วไงเขาเป็นคนปกติไหมหรือว่าเขาล่องหนได้”
“โอ้ย! ไม่ตลกเลยสักนิดเขาให้เลขามาตามพี่ไปพบตอนนี้และเดี๋ยวนี้ด้วย ผมเลยอาสามาบอก” หญิงสาวชี้มือเข้าหาตัวเอง
“ใช่ไง! ผมนี่ตื่นเต้นแทนพี่จะแย่ ขอให้โชคดีนะครับพี่เมย์”
“อยากเจอพี่ทำไมนะ” เธอยังถามคนตรงหน้าเบาๆ
“คงเรียกหัวหน้าทุกแผนกนั่นล่ะมั้ง ยี่สิบปีจะเข้ามาครั้ง คงอยากทำความรู้จักให้หมดทุกคน”
“ขอบใจนะที่มาบอก เดี๋ยวพี่ตามไป” ภูมินทร์เดินออกไปก่อน หญิงสาวยังคงนั่งทำใจอยู่สักพัก ก่อนจะลุกเดินขึ้นเพื่อตรงขึ้นไปยังห้องซีอีโอที่ปกติเธอก็จะมาพบวิลเลี่ยมบ้างในครั้งคราว
พอไปถึงหน้าห้องเธอก็ยกมือขึ้นเคาะประตู เพราะเลขาหน้าห้องของเขาไม่ได้อยู่ตรงนี้ในเวลานี้ ก่อนจะได้ยินเสียงเอ่ยอนุญาตตามมา เธอจึงค่อยๆเปิดเข้าไปอย่างกล้าๆกลัวๆ เขาที่กำลังนั่งหันหลังมองวิวเมืองหลวงอยู่นั้นค่อยๆหมุนเก้าอี้ประจำตำแหน่งกลับมามอง
“คุณอเล็กซ์!” เธอมองเขาอย่างตกใจ พร้อมกับกลืนน้ำลายลงคอเฮือกใหญ่เพราะรู้สึกว่าคอมันเริ่มฝืดแห้งกระทันหัน
“สวัสดี นั่งลงก่อนสิ” เขาผายมือเชื้อเชิญเธอ ก่อนที่อีกคนจะค่อยๆนั่งลงเก้าอี้ตรงข้ามเขา
“คุณมีธุระอะไรกับฉันเหรอคะ?”
“ถ้าไม่มีธุระ เรียกเธอให้มาหาที่นี่ไม่ได้หรือไง?” เขาเอาสองมือสอดประสานกันวางไว้บนโต๊ะพร้อมกับจ้องมองอีกคนอย่างไม่วางตา
“แต่ฉันมีงานต้องทำค่ะ ถ้าคุณไม่มีธุระฉันจะได้ขอตัวไปทำงาน”
“ตอนนี้เธอยังโสดใช่ไหม?”
“คุณจะมาถามเพื่อ?”
“ถามก็ตอบ ไม่ใช่ให้มาย้อนถามฉันกลับแบบนี้!” เขามองเธออย่างดุดันมากขึ้น
“ขอไม่ตอบนะคะเพราะมันไม่เกี่ยวกับงาน”
“เธออยู่บ้านกับใคร?” เธอมองหน้าเขาอย่างไม่เข้าใจอีกครั้งจะมาอยากรู้ทำไมกันนะอีตาบ้านี่
“คุณบ้าหรือไงฉันก็บอกแล้วถ้าไม่เกี่ยวกับงานฉันไม่ตอบ ฉันขอตัวนะ” เธอรีบลุกขึ้นกำลังจะเดินหนี แต่ทว่าคนตัวโตกลับรีบก้าวขาไปขวางหน้าเธอไว้ทัน
“หลีกทางด้วยคุณอเล็กซ์ ฉันเสียเวลากับคุณมามากแล้วขอตัวไปทำงานค่ะ”
“ยังไม่ให้ไป อยู่คุยกับฉันก่อน” เขาตวัดวงแขนโอบรอบเอวบางของเธอให้มาแนบชิด จับจ้องมองใบหน้าสวยหวานของเธออย่างพินิจพิจารณา ก่อนจะค่อยๆก้มลงไปมองใกล้ๆแต่เป็นมือบางที่ผลักใบหน้าเขาออกห่างอย่างไว
“นี่คุณ! จะทำบ้าอะไรปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะ” เขาถึงกับอมยิ้มพร้อมกับหัวเราะในลำคอเบาๆ
“ทำไม เธอกลัวฉันเหรอ?” เขาไม่ปล่อยแต่ยังเพิ่มเป็นสองแขนโอบรอบเอวบางไว้มั่น
“พูดมาตรงๆเลยว่าคุณต้องการอะไร?” เธอถามออกไปอีกครั้ง
“เธอไง...ฉันต้องการตัวเธอ” หญิงสาวจ้องมองเขาอย่างไม่อยากเชื่อ นี่เขากำลังคิดจะเล่นอะไรของเขาอยู่อีกนะ
“คืออะไร?”
“ก็ในขณะที่ฉันอยู่เมืองไทย ฉันก็อยากมีเพื่อนกิน เพื่อนเที่ยวและก็เพื่อนนอน”
“คุณก็ไปหาเอาสิมันมีตั้งเยอะแยะคนที่พร้อมจะเป็นแบบนั้นให้คุณ คนอย่างคุณคงหาได้ไม่ยากนักหรอก” เขาแสยะยิ้มมุมปากน้อยๆก่อนจะบอกออกมาอย่างชัดถ้อยชัดคำ
“แต่ฉันอยากได้เธอ” เมรินดาถึงกับยืนแข็งทื่อ เขายังจะต้องการอะไรจากเธออีกงั้นเหรอ
“คุณจะมาสนใจทำไมกับแม่หม้ายผัวตายแบบฉัน ประสาท!”
“เผอิญฉันเป็นพวกที่ชอบคนมีประสบการณ์ชีวิต ทำอะไรจะได้สะดวกๆ” อีตาบ้าเอ้ยในสมองคงคิดแต่เรื่องใต้สะดือสินะ เมรินดาถึงกับค่อนแขวะเขาผ่านทางดวงตาสีน้ำตาลกลมโตนั้น
“หมดธุระแล้วใช่ไหม?ปล่อยสิคะฉันจะไปทำงาน” เขาค่อยๆคลายอ้อมแขนออกจากเอวบางของเธอช้าๆ
“ฉันเห็นว่าที่นี่เป็นที่ทำงานหรอกนะ วันนี้ฉันจะปล่อยเธอให้ไปนอนคิดก่อน”
“ฉันไม่จำเป็นต้องคิดให้ปวดหัว ฉันไม่เป็นของเล่นให้คุณหรอกนะเชิญไปหาเอาที่อื่นเถอะค่ะคุณอเล็กซานเดอร์” เธอเดินชนแขนของเขา ก่อนเชิดหน้ารีบเดินหนีออกจากห้องทำงานเขาไปในทันที
“ประสาทจริงอีตาบ้าเอ้ย!” เมรินดาถึงกับเดินไปบ่นไป จากตอนแรกที่อารมณ์ดีๆ ตอนนี้มันเดือดจนเธอแทบอยากจะเขียนใบลาออกตอนนี้เลยด้วยซ้ำ