วันที่เมรินดากับลูกต้องเดินทางกลับกรุงเทพฯก็มาถึง เธอกำลังขนกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ลงมาด้านล่าง พร้อมกับกระเป๋าเป้สะพายของใช้ส่วนตัวลูกสาวขณะอยู่บนเครื่องอีกหนึ่งใบ
“เมย์ พี่ศรัณย์เขาไม่ได้ไปส่งเมย์นะ พอดีเขาติดธุระด่วนแต่จะมีคนขับรถไปส่งเมย์ที่สนามบินให้” อลิสาที่กำลังอุ้มหลานสาวลงมาข้างล่าง เธอก็รีบบอกกับน้องสาวคนเดียวที่มีทันที
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะพี่ลิสา ใครไปส่งก็เหมือนกัน” เธอหันมายิ้มให้พร้อมกับรับลูกน้อยที่กำลังอยากลงวิ่งมากอดไว้
“จะขยันเดินไปไหนลูกเอ้ยเอาไว้ไปเดินโชว์คุณยายดีกว่านะอลิซ”
“ถึงบ้านแล้วอย่าลืมโทรมาบอกด้วยล่ะเมย์ ฝากกอดคุณแม่ด้วยนะพี่คิดถึงท่านมากถ้าว่างพี่จะขึ้นไปเยี่ยม”
“เดี๋ยวจะกอดคุณแม่เผื่อนะพี่ลิสา”
รถโฟวิลคันใหญ่จะมาจอดเทียบหน้าบ้าน สองสาวจึงช่วยกันเข็นกระเป๋าเดินทางออกไปยังรถ แต่เมรินดาก็ต้องชะงักเมื่อชายต่างชาติร่างสูงเดินลงมาจากรถคันนั้นพอดี
“รอนานไหมครับ?” เสียงทุ้มถามขึ้น อลิสารีบลากกระเป๋าไปยังหลังรถพร้อมกับร่างสูงของอเล็กซานเดอร์ไปช่วยยกขึ้นอย่างไว
“พี่ลิสา เขาเหรอที่จะไปส่งเมย์กับลูก?” เมรินดาหันไปกระซิบถามพี่สาวเบาๆก่อนที่คนเป็นพี่จะฉีกยิ้มส่งให้
“ใช่จ้ะ พอดีคุณอเล็กซ์เขาจะเข้าเมือง พี่ศรัณย์เลยถือโอกาสให้เขาไปส่งเมย์ด้วยเลย ยังไงก็ไปทางนั้นอยู่แล้ว”
“แต่เมย์เกรงใจเขานะ” อะไรกันยังจะได้มาอยู่ใกล้เขาอีกเหรอ เธออุตส่าห์หลีกเลี่ยงการพบเจอกับเขามาสองวันแล้วนะ
“ไปกันได้หรือยังครับ เดี๋ยวก็ตกเครื่องกันพอดี” เสียงทุ้มของชายหนุ่มถามขึ้นทันที
“ค่ะ ไปสิยัยเมย์ขึ้นรถได้แล้ว” อลิสาเดินเข้าไปกอดหอมแก้มย้วยของหลานสาวตัวน้อยอีกครั้ง
“เป็นเด็กดีของคุณแม่และคุณยายนะคะอลิซ” ก่อนที่เด็กน้อยจะโบกมือลา
“บ๊ายบาย” เสียงดังฟังชัดแจ๋ว ทำเอาคนเป็นป้าถึงกับหัวเราะร่วนอย่างเอ็นดู สองแม่ลูกจึงได้ก้าวขึ้นรถไปอย่างจำยอม เธอจัดแจงลูกสาวให้นั่งคาร์ซีทเพื่อความปลอดภัย
“ไปนะพี่ลิสา ไว้เมย์จะโทรหา” เธอโบกมือลาพี่สาวที่กำลังทำหน้าละห้อยอาลัยหลานรัก ที่เธอไม่อยากให้กลับไปเลย
“ขับรถดีๆนะคะคุณอเล็กซ์”
“ครับ ขอตัวก่อนนะลิสา” ร่างสูงจึงเดินอ้อมไปด้านคนขับ ก่อนจะขึ้นไปนั่งประจำที่และรถยนต์คันใหญ่ก็ค่อยๆขับเคลื่อนออกไปช้าๆจนลับตา
“เธอจะไม่คุยกับฉันหน่อยเหรอเมรินดา” เมื่อนั่งรถมาเกือบยี่สิบนาที เขาที่ลอบมองเธอผ่านกระจกมองหลังอยู่นานจึงอยากหาเรื่องชวนเพื่อนร่วมทางคุย เพราะเธอนั่งคู่กับลูกสาวที่เบาะหลัง เธอสนใจแต่ลูกสาวและวิวรอบข้างโดยอาจจะลืมว่ายังมีเขาอีกคนนั่งมาในรถด้วย
“ฉันไม่มีอะไรจะคุยกับคุณหรอกค่ะ” เมรินดาปรายตามองเขาเล็กน้อย ก่อนจะหันไปมองลูกสาวที่กำลังเคลิ้มหลับอย่างเอ็นดู
“เสียใจด้วยนะเรื่องพ่อของอลิซ” อยู่ๆเขาก็พูดเรื่องนี้ขึ้นมาอีกครั้ง
“ค่ะ ขอบคุณ”
“สามีเธอที่เสียชีวิตไป ใช่แฟนคนเดียวกับที่เคยเล่าให้ฉันฟังไหม?”
“ไม่ใช่เรื่องที่คุณจะต้องรู้นี่นา ถ้าคุณจะถามฉันเรื่องส่วนตัวฉันขอไม่ตอบนะคะ”
“ถามนิดถามหน่อยก็ไม่ได้” เสียงทุ้มบ่น ก่อนจะหันหน้าไปมองถนน ตั้งหน้าตั้งตาขับรถอย่างเคย ใช้เวลาไม่นานนักเขาก็ขับไปถึงสนามบิน รีบเดินลงรถไปยกกระเป๋าลงให้เธอ พร้อมกับช่วยไปส่งเช็คอินให้เรียบร้อยเสร็จสรรพ
“ขอบคุณนะคะที่มาส่ง”
“อืม ขอให้เดินทางกลับโดยปลอดภัยแล้วกันนะ”
“ขอบคุณค่ะ โชคดีนะคะคุณอเล็กซ์” พร้อมกับเตรียมตัวจะเดินจากไป
“หวังว่าเราคงจะได้เจอกันอีกนะเมรินดา” หญิงสาวรีบหันขวับมาจ้องมองเขา
“ฉันคงไม่อยากเจอคุณบ่อยนักหรอกค่ะ”
“หึหึก็แล้วแต่เธอแต่ฉันว่าเราต้องได้พบกันอีก”
“ต้องการอะไรจากฉันอีกไม่ทราบ?”
“ไม่มีหรอกอย่าคิดมากไปสิ เธอไปเถอะเดี๋ยวตกเครื่องเอานะ”
“ป๊ะป๋า บ๊ายบาย” เสียงเด็กหญิงอลิซดังขึ้น จ้องมองมาที่เขาพร้อมกับรอยยิ้มสดใส มือน้อยๆยกขึ้นเพื่อโบกลา เขาถึงกับยิ้มตามอย่างห้ามไม่ได้
“ป๊ะป๋างั้นเหรอคงคิดว่าเราเป็นพ่อสินะ เด็กเอ๋ยเด็กน้อย” พร้อมกับโบกมือลาให้กับคนตัวเล็กในอ้อมกอดเมรินดาอย่างเอ็นดู ยืนมองสองแม่ลูกเดินหายเข้าไปข้างใน ก่อนที่จะพาตัวเองกลับไปยังรถยนต์คันใหญ่ทันที