ภายในโรงพยาบาลเอกชนชื่อดังแห่งหนึ่ง ไอศูรย์ยืนมองหญิงสาวที่เขาไม่เคยลืมเลือนอยู่ข้างเตียงไม่ห่าง ใบหน้าเรียวเล็กของหล่อนไร้เลือดฝาด ปากขาวซีด นอนหลับสนิทอยู่บนเตียงด้วยความอ่อนเพลีย
เขาเลื่อนเก้าอี้มานั่งเฝ้าหล่อน กุมมือบางขึ้นจรดริมฝีปากบางเบานุ่มนวลราวกับกลัวว่าหล่อนจะแตกสลายไปต่อหน้าต่อตา เมื่อครู่เขาตกใจแทบแย่ที่เห็นเนตรกมลเกิดอาการแน่นหน้าอกเพราะแพ้อาหาร ยังดีที่พาหล่อนมาส่งถึงมือหมอทันการ จึงไม่เกิดเรื่องร้ายแรงขึ้น
ชายหนุ่มขมวดคิ้วมุ่นเป็นร่องลึก นึกทบทวนสิ่งที่เกิดขึ้นกับคนรัก หล่อนกินแกงจืดเข้าไปคำเดียวก็เกิดอาการทันที ลองคิดให้ละเอียดอีกทีก็เหมือนจะคิดออก จำได้ว่าเนตรกมลแพ้กระเทียม และในแกงจืดด้วยนั้นก็มีกระเทียมเจียวลอยหน้าอยู่
ดวงตาของไอศูรย์กร้าวขึ้น ขวัญรักเป็นคนยกแกงจืดถ้วยนั้นมากับมือ เธอไม่รู้รึไงว่าน้องสาวกินเข้าไปแล้วจะเกิดอาการแพ้อย่างรุนแรง
หรือรู้ แต่แกล้งทำเฉย?
เขาขบกรามแน่น ไม่คิดว่าผู้หญิงคนนั้นจะร้ายกาจกล้าทำร้ายน้องสาวได้ลงคอ รอให้เขากลับไปก่อนเถอะ เขาจะเล่นงานขวัญรักให้หนักเชียว!
ไอศูรย์หันกลับมามองคนป่วยที่หายใจสม่ำเสมอด้วยแววตาอ่อนโยน มือที่กุมมือหล่อนไว้กระชับมั่นอีกนิด จู่ๆ ก็รู้สึกเจ็บแปลบที่ข้อมือ พอยกขึ้นดูจึงเห็นแผลพุพองเล็กๆ บนนั้น
ในหัวปรากฏภาพตอนเขาร้อนใจรีบอุ้มเนตรกมลมาโรงพยาบาล ตอนนั้นเขาเผลอผลักขวัญรักที่เข้ามาช่วยออกไปอย่างแรง แล้วเหมือนจะสะบัดมือไปโดนถ้วยแกงจืดด้วย จึงน่าจะถูกน้ำร้อนลวกมาตอนนั้น
เดี๋ยวนะ...!
ชายหนุ่มนิ่งอึ้ง ในสมองฉายชัดถึงสีหน้าเจ็บปวดเหยเกของขวัญรัก ตัวของเธอสั่นนิดๆ เหมือนจะร้องแต่ก็ไม่ร้อง อย่าบอกนะว่าเธอโดนน้ำแกงเดือดๆ ลวกเข้าให้
ทันใดนั้นเขาก็ลุกขึ้นยืน ร่างสูงสง่าพุ่งออกไปทางประตูห้องผู้ป่วยดั่งพายุ เกือบมองไม่เห็นมารดาที่สวนมาตรงทางเดินด้วยซ้ำ หากท่านไม่ฉุดมือเขาเอาไว้ก่อน
“จะไปไหนน่ะตาอิศย์”
ไอศูรย์ข่มใจ แล้วตอบเสียบเรียบ
“จะกลับไปเปลี่ยนเสื้อผ้าสักหน่อยครับ”
“งั้นก็ดี จัดการเมียตัวแสบของแกด้วย แม่ว่าที่หนูเนตรนอนเจ็บแบบนี้ต้องเป็นฝีมือนังขวัญแน่ๆ”
ลูกชายนิ่วหน้า ไม่ชอบใจที่ท่านเรียกกดหัวภรรยาเขาอย่างนี้ ต่อให้ขวัญรักจะเป็นคนอย่างไร จะดีจะชั่วก็เป็นเมียตบเมียแต่งที่คุณย่าออกหน้า เธอจึงไม่ควรได้รับการดูถูกเหยียดหยามจากคนอื่น โดยเฉพาะคนที่เป็นแม่สามี
“อย่าให้ผมได้ยินคุณแม่เรียกขวัญรักแบบนี้อีกนะครับ”
เขาเอ่ยอย่างเย็นชา สร้างความแปลกใจระคนโมโหแก่ชมโฉมทันที จู่ๆ ลูกชายก็เปลี่ยนไปเข้าข้างแม่นั่นมาต่อว่านาง
“นี่แกเข้าข้างมัน จนกล้าว่าแม่อย่างฉันแล้วเร้อะ”
“ผมไม่ได้ว่า แค่อยากจะเตือนสติคุณแม่เท่านั้น หากใครมาได้ยินจะเข้าใจผิดคิดว่าคุณแม่เป็นคนใจแคบเอาได้นะครับ”
“ฉันไม่เคยเห็นมันเป็นลูกสะใภ้”
“แต่ในเมื่อคุณแม่ให้ผมแต่งกับเขา ก็ต้องยอมรับ”
“ก็แค่แต่งตามพินัยกรรม สำคัญอะไรนักหนา”
“มันเป็นความต้องการของคุณย่า”
ชมโฉมชะงักไปนิดหนึ่ง เรื่องแต่งงานเป็นคำสั่งเสียของแม่สามีที่นางเคารพนับถือ แม้ตอนนี้ท่านจะไม่อยู่แล้วแต่ก็ฝ่าฝืนไม่ได้ ที่ไอศูรย์พูดมาจึงไม่ผิดเสียทีเดียว ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดนางไม่ควรเหยียดหยามขวัญรักที่ยังอยู่ในตำแหน่งสะใภ้ของนาง เพื่อรักษาชื่อเสียงของแม่สามีไม่ให้ด่างพร้อยเพราะมือนาง
“ก็ได้ แม่ไม่ยุ่งแล้ว ตามใจแกแล้วกัน”
พูดจบก็สะบัดหน้าใส่ลูกชาย เดินปั้นปึ่งเข้าไปในห้องพักคนป่วย ทิ้งให้ไอศูรย์ถอนหายใจอย่างเอือมระอา แต่เขาไม่มีเวลามาใส่ใจเรื่องเล็กๆ พรรค์นี้ ยังมีเรื่องอื่นที่เขาต้องรู้และได้เห็นกับตาเดี๋ยวนี้มากกว่า…