“น้าเอี้ยงช่วยเก็บข้าวของทีนะคะ เดี๋ยวขวัญมา”
ไม่รอให้แม่บ้านยื้อ เธอก็สาวเท้าออกไปอย่างรวดเร็ว ใช้เวลาไม่ถึงสิบห้านาทีก็จัดการทำเรื่องขอกลับและจ่ายค่ารักษาพยาบาลเสร็จ ถึงเธอจะได้ชื่อว่าเป็นภรรยาของไอศูรย์ แต่เธอไม่ได้พึ่งพาเขา เธอสามารถยืนได้ด้วยลำแข้งของตัวเอง ไม่จำเป็นต้องให้เขายื่นมือเข้ามาช่วยเพราะหน้าที่หรือความสงสาร
ขากลับมาที่ห้องพักอีกครั้ง เธอผ่านห้องของเนตรกมลไปโดยไม่เหลียวมอง เธอไม่รู้ว่าหล่อนยังพักรักษาตัวอยู่หรือออกไปแล้ว เธอไม่อยากยุ่งกับน้องสาวต่างแม่คนนี้มากนัก
จะว่าเธอใจแคบก็ได้...
แต่แม่ของหล่อนทำให้ครอบครัวของเธอร้าวฉาน ทำให้แม่เธอเสียใจ พวกเขาแย่งความรักและความอบอุ่นจากพ่อที่เธอและแม่ควรได้รับไป ทำให้แม่เธอเจ็บปวดจนตรอมใจตาย และทำให้เธอกลายเป็นกำพร้า
แบบนี้... เธอยังควรจะลืมแล้วทำตัวเป็นครอบครัวเดียวกันได้อีกหรือ?
ไม่สนใจด้วยว่าไอศูรย์จะมาเยี่ยมเนตรกมลวันละกี่รอบหรืออยู่ปลอบใจกันตลอดเวลา เป็นเรื่องส่วนตัวของพวกเขา ไม่เกี่ยวกับเธอ
ขวัญรักบอกตัวเองทั้งที่ปวดใจเหลือเกิน แต่เธอทำได้เพียงเท่านี้...
แค่อยู่เงียบๆ ในที่ของตัวเอง
เธอกลับเข้าห้องอีกครั้ง น้าเอี้ยงยังจัดของไม่เสร็จ เธอจึงเดินตรงไปที่ระเบียง เกาะราวเงยหน้ามองฟ้าดูนกรอไปพลางๆ สายลมฉ่ำพัดโชยมาเอื่อยๆ ทำให้เธอรู้สึกผ่อนคลายอย่างน่าประหลาด จึงหลับตาซึบซับความเย็นสบาย ดื่มด่ำกับความสุขเล็กๆ ในช่วงเวลาหนึ่ง
ขวัญรักไม่รู้ว่ามีเงาสูงโอบล้อมตัวเธอเอาไว้จากด้านหลังตั้งแต่เมื่อไร ร่างอ้อนแอ้นสะดุ้งน้อยๆ เมื่อแขนกำยำตวัดโอบเอวเธอ ฝ่ามือลูบไล้หน้าท้องแบนราบสัมผัสแผ่วเบาจนอาการเกร็งลดลง เธอลืมตามองลงไปที่กระดูกข้อมือใหญ่แข็งแรงที่สัมผัสกันอย่างสนิทชิดเชื้อ แล้วผลักออกไปไม่แรงไม่เบา ก่อนจะหมุนตัวเดินไปหาแม่บ้านสาวใหญ่
“น้าเอี้ยง...”
ไร้ร่างของคนที่เธอเรียก คงเป็นเขาที่สั่งให้หล่อนออกไป แต่ของเก็บเรียบร้อยแล้ว ไม่เป็นไร เธอหิ้วออกไปเองก็ได้
หญิงสาวตรงไปจะหยิบกระเป๋า แต่ถูกชายหนุ่มร่างสูงสง่าดักหน้าไว้ก่อน สีหน้าของเขาเย็นชาชวนให้คนมองใจสั่น เธอไม่อยากทะเลาะกับเขา จึงเดินอ้อมตัวเขาไปอย่างรวดเร็ว
ยังไม่ทันคว้ากระเป๋า แขนเธอก็ถูกเขายึดแล้วกระชาก ตัวเธอหมุนถูกดันแนบติดกับกำแพงห้อง เขาใช้อกกว้างล่ำสันกดตรึงทรวงอกและตัวเธอแนบชิดหวามไหว มือหนึ่งขึงข้อมือเธอเหนือศีรษะ อีกมือยื่นมาบีบคางเธอแน่น เค้นเสียงต่ำติดลบถามเธอว่า
“ใครบอกให้คุณออกจากโรงพยาบาลได้”
“ฉันหายดีแล้ว ไม่จำเป็นต้องอยู่ที่นี่อีก”
“แล้วเอาเงินจากที่ไหนมาจ่าย”
เขาคาดคั้นอย่างเอาเรื่อง เพราะเคยสั่งห้ามขวัญรักไม่ให้ออกไปทำงานเด็ดขาด ผู้หญิงของเขาไม่ควรออกไปลำบากอยู่นอกบ้านให้คนอื่นดูถูกได้
“ยืมเพื่อนค่ะ”
“เพื่อนที่เป็นนักข่าวของคุณน่ะเหรอ”
เธอไม่ชอบน้ำเสียงและสีหน้าที่แสดงออกอย่างโจ่งแจ้งว่าดูถูกนุชจรินทร์ เม้มปากแล้วใช้ความเงียบแทนคำตอบ แต่เขายังคงยิงคำถามไม่เลิก
“ทำแบบนี้ตั้งใจจะหักหน้าผมใช่ไหม อยากให้ผมโดนคนอื่นดูถูกว่าเมียแค่คนเดียว แต่ไม่มีปัญญาเลี้ยง”
“ฉันเห็นคุณวุ่นวายกับเนตรกมลมากพอแล้ว เลยไม่อยากจะรบกวน”
“หึ... อิจฉาล่ะสิ! เพราะอย่างนั้นคุณก็เลยแกล้งเนตรใช่ไหม?”
“ฉันไม่ได้ทำ!”
เธอปฏิเสธเสียงหนักแน่น เขาเพียงแค่เลิกคิ้ว ยื่นหน้าเข้ามาใกล้จนปลายจมูกชนกัน แล้วถามเสียงนุ่มทุ้มว่า
“แล้วทำไมผมต้องเชื่อคุณ”