ตอนที่ 8-1 ต่างคนต่างอยู่

1226 คำ
ตอนที่ 8 ต่างคนต่างอยู่ ภาคิณเมื่อรู้จากแม่บ้านของออฟฟิศว่าพริบพราวมาถึงทำงานที่แล้ว เขาถึงกับรีบเร่งความเร็วให้มาถึงที่ทำงานอย่างเร็วที่สุด ด้วยใจที่ร้อนรนที่เขาเองก็ตอบไม่ได้เหมือนกันว่าทำไมถึงรู้สึก อยากจะพบหน้าอยากจะได้คุย ได้อธิบาย หรือได้ขอโทษ แววตาที่จ้องมองเขาในวันนั้นมันยังติดตา ติดใจ ติดในความรู้สึกของเขา จนหาวิธีที่จะสลัดหรือถอนมันออกจากความคิดไม่ได้เลยสักครั้ง ภาคิณขับรถด้วยความเร็วเท่าที่เขาจะทำได้ เลี้ยวมาจอดที่ลานจอดรถเรียบร้อยก็รีบวิ่งมาที่ห้องทำงานของหญิงสาว หยุดยืนฟังบทสนทนาเมื่อครู่เล็กน้อย พลอยทำให้อัตราการเต้นของหัวใจกลับมาปกติ หายเหนื่อยหอบขึ้นบ้าง จึงเอ่ยเรียกหญิงสาวให้หันมาหาเขา “พราว” หลายวินาทีกว่าที่ร่างเล็กจะหันมาตามเสียงเรียกของเขา มีเพียงรอยยิ้มสดใสส่งให้เขาทว่าแววตากลับไม่มีรอยยิ้มอยู่ในนั้น แลดูหมางเมิน ไม่แวววาวเป็นประกายเหมือนทุกครั้งที่เจอเขา “สวัสดีค่ะพี่คิณณ์ เรียกพราวเหรอคะ” “เอ่อ...ครับ...พี่มีเรื่องอยากคุยกับพราว” คำพูดคล้ายปกติแต่เหมือนมีเส้นบางๆที่ขีดกันเขาเอาไว้จนรู้สึก รับรู้ได้ “ไม่สะดวกเลยค่ะ พอดีพราวมีงานค้างอยู่ต้องรีบทำ ถ้าพี่จะใช้งานรบกวนบอกคนอื่นได้ไหมคะ” คำพูดห่างเหิน ไม่สนใจเขา แต่กลับมองข้ามและหันไปหาพี่ช้าง รุ่นพี่อีกคนที่ทำงานฝ่ายอาร์ต กำลังเดินผ่านมาทางนี้พอดี “อ้าวพี่ช้างสวัสดีค่ะ พราวซื้อขนมมาฝากเยอะเลยค่ะ ลองชิมไหมคะ” “พี่หิวน่ะ มีเผื่อพี่บ้างไหม” ภาคิณเอ่ยขึ้นบ้าง คล้ายกำลังเรียกร้องความสนใจจากเธอ ซึ่งเคยได้ผลทุกครั้ง “อุ้ย ไม่มีเลยค่ะพี่คิณณ์ พราวขอโทษนะคะ ที่ไม่ได้เตรียมมาเผื่อ พราวกลัวพี่คิณณ์ไม่ชอบแล้วจะโยนทิ้งเหมือนข้าวกล่องพราววันนั้นน่ะค่ะ ขอโทษจริงๆนะคะ” หญิงสาวแสร้งพูดด้วยน้ำเสียงเหมือนเสียใจที่ไม่ได้เตรียมขนมมาเผื่อเขา โดยไม่ลืมเอ่ยเหน็บเรื่องวันก่อน ที่ทำให้ภาคิณถึงกับยืนอึ้งไปหลายวินาที พลางสบตากับเพื่อนรุ่นน้องที่ชื่อช้าง ที่วันนั้นเขาเป็นคนยกข้าวกล่องนั้นให้เองกับมือ เพราะจะออกไปทานอาหารพอร์ชและเอิร์ธข้างนอก แต่สุดท้ายพวกนั้นก็สั่งมาทานที่ออฟฟิศอยู่ดี แต่เขาไม่คิดว่าเธอจะรู้เรื่องนี้ด้วย ช้างที่เดินตัวเกร็งมารับขนมที่รุ่นน้องสาวยื่นให้ พลางเหลือบสายตามองรุ่นพี่ที่มองเขาอย่างคาดโทษไม่พอใจ ก่อนจะเอ่ยคำขอบคุณ แล้วรีบกลับไปทำงานของตนเองทันที พริบพราวไม่สนใจมอง ชายหนุ่มร่างสูงที่ยืนเคว้งอยู่กลางห้องทำงาน เธอเดินไปวางถุงขนมและกระเป๋าลงที่ข้างโต๊ะทำงานของตนเอง พลางเปิดคอมพิวเตอร์เตรียมพร้อม ระหว่างรอเครื่องทำงานก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาหมายจะส่งข้อความหาเคเซียและพริบพราว แต่จู่ๆกลับโทรศัพท์นั้นกลับลอยหวือออกไปจากมือ เมื่อถูกบางคนมาแย่งหยิบไป “พี่คิณณ์ทำไรคะ!” เสียงเล็กว่าขึ้นด้วยความไม่พอใจ “พี่บอกว่ามีเรื่องจะคุยด้วย ทำไมทำไม่สนใจ” เขาย้ำอีกครั้ง น้ำเสียงติดดุเล็กน้อย ไม่พอใจที่เธอทำเมินเฉยใส่เขา “พราวบอกแล้วไงคะว่าไม่สะดวก ขอมือถือคืนด้วยค่ะพี่คิณณ์” “แล้วพราวจะปล่อยให้เป็นแบบนี้เหรอ เรายังไม่ได้คุยหรือปรับความเข้าใจกันเลยนะ” “จำเป็นด้วยเหรอคะ” เธอย้อนถามกลับมองหน้าเขานิ่ง ก่อนจะถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ เหลือบสายตามองพี่อ้อมและพี่ยิ้ม ที่ทำทีเหมือนไม่สนใจฟังแต่ความจริงแล้วกลับตั้งใจฟังทุกประโยคเลยด้วยซ้ำ ฯ็็ “พี่คิณณ์คะ พราวขอร้อง...อย่าทำให้มันเป็นเรื่องได้ไหมคะ พราวไม่อยากเป็นขี้ปากใครอีกแล้ว เลิกยุ่งกับพราวสักทีเถอะ” “พราว!” เสียงเข้มเอ่ยเรียกหญิงสาว มีความเว้าวอนในเนื้อเสียง “พราวขอนะคะ ในเมื่อพี่คิณณ์คิดที่จะทิ้งพราวอยู่แล้ว ก็อย่ามายุ่ง อย่ามาสนใจกันอีก พราวให้ในสิ่งที่พี่อยากได้ไปแล้ว พราวไม่มีอะไรจะให้พี่แล้วนะคะ” “พี่ไม่ยอมให้พราวคิดเองเออเองแบบนี้ ไปกับพี่!” ภาคิณพูดเสียงดัง ก่อนจะคว้าข้อมือเธอให้เดินตามแรงฉุดกระชากของเขา โดยไม่สนใจว่าเธอจะเจ็บหรือรู้สึกอย่างไร ความโกรธกับความอยากเอาชนะที่เธอทำเป็นไม่สนใจมีมากพอๆกันจนเขาแยกไม่ออกแล้วว่าที่ร้อนรนจะเป็นจะตายอยู่ตอนนี้เป็นเพราะอะไรกันแน่ ภาพที่ทุกคนในออฟฟิศเห็นและต่างหยุดมอง ทำอึ้งไปตามๆกัน เมื่อเห็นภาคิณฉุดกระชากลากหญิงสาวรุ่นน้องฝึกงานที่เพิ่งเป็นข่าวซุบซิบว่าเกิดเหตุการณ์ชิงรักหักสวาทกันขึ้น ระหว่างภาคิณกับพอร์ช หัวหน้าทีมกลยุทธ์วันก่อน ไปขึ้นรถที่จอดอยู่บริเวณลานจอดรถ โดยไม่ฟังเสียงร้องจากหญิงสาวเลยสักนิด “พี่คิณณ์!! ปล่อยพราวเดี๋ยวนะ! ถ้าพี่ไม่ปล่อย พราวจะไม่ให้พี่ได้เจอหน้าพราวอีกเลยตลอดชีวิต ไม่เชื่อพี่ก็คอยดู!” พริบพราวตวาดลั่นอย่างเหลืออด เมื่อเขาลากจูงเธอเดินมาจนถึงลานจอดรถโดยไม่สนสายตาใครเลยสักนิด มิหนำซ้ำยังไม่สนใจว่าเธอจะเจ็บหรือปวดตรงไหนด้วยซ้ำกับแรงบีบรัดของเขา ภาคิณชะงักไปทันทีเมื่อได้ยินประโยคนั้นจึงเผลอปล่อยมือเธอทันที โดยไม่ทันคาดคิดเสียง เพี้ยะ!!! ก็ดังลั่น พริบพราวเงื้อมือสุดแขนฟาดเข้าที่แก้มซ้ายของเขาเต็มแรงที่มี จนอีกฝ่ายถึงกับหน้าหัน ชาไปครึ่งหน้า ตัวเขาเองก็รู้สึกอึ้ง ตื่นตะลึงไม่น้อย ไม่คิดว่าเธอจะกล้าตบเขาขนาดนี้ “หยุดบ้าสักทีได้ไหมคะ หยุดวุ่นวายกับพราวสักที พราวเกลียดพี่คิณณ์ เกลียด! ได้ยินไหมคะว่าพราวเกลียดพี่คิณณ์! เลิกยุ่งกับพราว! แล้วเราต่างคนต่างอยู่เถอะค่ะ” “พราว! ที่ได้ยินวันนั้น มันไม่ใช่อย่างที่พราวคิดนะ” พริบพราวชะงักขาที่กำลังจะก้าวเดิน หันมาสบตาเขา พร้อมกับส่ายหน้า แววตาที่มองไม่มีความเชื่อถือในคำพูดของเขาเลยสักนิด “แล้วตอนนี้พราวเป็นอะไรสำหรับพี่คะ พราวเป็นตัวอะไรในสายตาพี่” น้ำเสียงสั่นเครือ แต่แววตาที่จ้องมองไม่มีความหวาดไหวอ่อนแอเลยสักนิด ในเมื่อเขาทำเหมือนเธอเป็นของเล่นไร้ค่าไร้ราคา เธอก็จะทำให้เขารู้ว่าของเล่นชิ้นนี้เขาจะไม่มีปัญญาจะได้เล่นอีกเป็นยังไง
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม